โตเกียว, 18 มิ.ย. (ซินหัว)
สถาบันโรคติดเชื้อแห่งชาติญี่ปุ่นรายงานจำนวนผู้ป่วยกลุ่มอาการภาวะช็อกจากการติดเชื้อแบคทีเรียสเตรปโตคอคคัส (STSS) หรือโรคแบคทีเรียกินเนื้อ (flesh-eating bacteria) เกิน 1,000 รายแล้วในปี 2024 รวมอยู่ที่ 1,019 ราย เมื่อนับถึงวันที่ 9 มิ.ย.
สถาบันโรคติดเชื้อฯ เผยว่า แบคทีเรียรุนแรงชนิดนี้แพร่ระบาดเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยเป็นโรคที่เริ่มเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน มีสาเหตุหลักมาจากเชื้อสเตรปโตคอสคัสชนิดเอ (Group A Streptococcus) อาการเริ่มแรกมักประกอบด้วยอาการเจ็บคอ มีไข้ เบื่ออาหาร ท้องเสีย อาเจียน และปัญหาระบบทางเดินอาหารอื่นๆ รวมถึงสัญญาณของอาการติดเชื้อในกระแสเลือด อย่างภาวะความดันโลหิตต่ำ
หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที การติดเชื้อแบคทีเรียดังกล่าวอาจทำให้เนื้อเยื่ออ่อนเสียหาย ระบบหายใจล้มเหลว ตับวาย ไตวาย และอวัยวะหลายส่วนล้มเหลว โดยมีอัตราการเสียชีวิตเกินร้อยละ 30
ญี่ปุ่นพบผู้ป่วยโรคแบคทีเรียกินเนื้อเพิ่มรวดเร็วอย่างมากในปีนี้ โดยมีรายงานผู้ป่วยสะสมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 977 ราย นับถึงวันที่ 2 มิ.ย. ซึ่งมากกว่าจำนวนผู้ป่วย 941 รายตลอดทั้งปีที่แล้ว
รายงานแนวโน้มโรคติดเชื้อรายสัปดาห์จากสถาบันฯ ช่วงวันที่ 3-9 มิ.ย. เผยว่ากรุงโตเกียวมีจำนวนผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันมากที่สุดในปีนี้ที่ 150 ราย รองลงมาคือจังหวัดไอจิและไซตามะ ที่มีผู้ป่วย 69 ราย และ 68 ราย ตามลำดับ
โรคแบคทีเรียกินเนื้อมักแพร่กระจายผ่านละอองฝอย (Droplet) จากสารเมือกในจมูกหรือลำคอ และผ่านการสัมผัสกับบาดแผล ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าผู้คนมักเข้าใจผิดว่าอาการเริ่มแรกของการติดเชื้อแบคทีเรียชนิดนี้เป็นไข้หวัด เนื่องจากมีอาการป่วยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพแนะนำว่า หากมีอาการไข้สูงร่วมกับอาการเพ้อ หรือมีรอยแดงที่แพร่กระจายอย่างรวดเร็วรอบๆ บาดแผล ถือเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าควรไปพบแพทย์ทันที เพื่อป้องกันการลุกลามของโรคที่อาจคุกคามถึงชีวิต
ขอขอบคุณแหล่งที่มาของข้อมูล :https://www.xinhuathai.com/inter/444326_20240618