4 วิธีคลายเครียดในชีวิตประจำวัน

คุณมีอาการเหล่านี้บ้างหรือไม่! สำรวจตัวเองว่าเครียดหรือยัง…
ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย นอนไม่หลับ เบื่ออาหาร หายใจไม่ค่อยอิ่ม หงุดหงิด สับสน คิดอะไรไม่ออก เบื่อหน่าย โมโหง่าย บางครั้งพาลทะเลาะวิวาทกับคนใกล้ชิด ซึมเศร้า ไม่อยากพูดจากับใคร…หากพบว่าตัวเองหรือคนใกล้ชิดมีอาการดังกล่าวควรปฏิบัติตัวตามคำแนะนำต่อไปนี้


1. คิดอย่างไรไม่ให้เครียด ยอมรับว่ามีปัญหาและปัญหาเกิดได้กับทุกคน ไม่ว่ามีหรือจน ฝึกกำลังใจ ถือว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นการท้าทายความมั่นคงของจิตใจ คิดว่าไม่มีความทุกข์ใดที่มนุษย์ทนไม่ได้ คิดถึงสิ่งดีๆ ในชีวิตที่มีอยู่ เช่น คุณค่า และความสามารถของตนเอง ครอบครัวที่อบอุ่น ลูกหลานที่น่ารัก เป็นต้น มีความหวังว่า เมื่อได้พยายามแก้ปัญหาอย่างสุดความสามารถแล้ว ย่อมนำพาชีวิตให้พบความสุขได้อีกครั้งหนึ่ง


2. เผชิญกับความเป็นจริงและคิดหาทางออก โดยครอบครัวต้องมีเวลาให้กัน รับฟังทุกข์สุขของกันและกัน ร่วมกันแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น และสร้างความสุขด้วยการช่วยเหลือซึ่งกันและกันในทุกโอกาสที่ทำได้ ในที่ทำงานผู้ร่วมงานต้องหันหน้าปรึกษาหารือกัน ช่วยเหลือกัน และเป็นกำลังใจให้กัน พึงระลึกว่าปัญหาทุกปัญหามีทางออกเสมอ ถ้าใจสู้และร่วมมือร่วมแรงกัน ย่อมเอาชนะปัญหาต่างๆ ได้อย่างแน่นอน


3. ผ่อนคลายความเครียดทุกวัน ความเครียดในการทำงานเกิดขึ้นทุกวัน ดังนั้น การผ่อนคลายความเครียดจะต้องทำเป็นประจำทุกวันเช่นกัน
- การออกกำลังกายหรือการเล่นกีฬากับเพื่อนๆ หลังเลิกงาน
- ไปเสริมสวย หรือไปชอปปิง
- ไปพบปะสังสรรค์ รับประทานอาหารกับเพื่อนฝูง ครอบครัว หรือคนสนิท
- ดูละคร โทรทัศน์ ดูภาพยนตร์ ฟังเพลง
- เล่นกับลูกๆ หรือเล่นกับสัตว์เลี้ยง
- รดน้ำต้นไม้ ดูแลไม้ดอกไม้ประดับ
- ทำงานฝีมือ เย็บปัก ถักร้อย
- ซ่อมแซมของใช้ในบ้าน จัดตกแต่งบ้าน ทำความสะอาด
- อ่านหนังสือการ์ตูน หนังสือธรรมะ ฯลฯ
- สวดมนต์ไหว้พระ ทำสมาธิโดยการทำใจให้สงบ หายใจเข้า-ออกเป็นจังหวะช้าๆ และนับลมหายใจไป
เรื่อยๆ


4. อย่าเก็บความทุกข์ไว้ในใจ ควรระบายความทุกข์และขอความช่วยเหลือ โดยการปรับทุกข์กับคนใกล้ชิด เช่น คู่สมรส เพื่อนสนิท เพื่อนร่วมงาน ญาติ ใช้บริการปรึกษาทางโทรศัพท์ของกรมสุขภาพจิต หรือหน่วยงานเอกชนอื่นๆ เช่น ศูยน์ฮอทไลน์ สะมาริตันส์ เป็นต้น หากรู้สึกมีอาการเศร้า ท้อแท้ สิ้นหวัง ไม่ควรอยู่ตามลำพัง ควรรีบไปรับการรักษาจากแพทย์เป็นการด่วน โทร. 1323 ฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง หรือ www.dmh.go.th

 


ขอขอบคุณแหล่งที่มาของข้อมูล :https://www.thaihealth.or.th