นักวิทยาศาสตร์รายงานว่า วัคซีนซึ่งพัฒนาจากเทคโนโลยีพันธุกรรม RNA อันล้ำสมัย แสดงให้เห็นความสามารถที่มีโอกาสประสบความสำเร็จในการต่อต้านไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในการทดลองทางคลินิกที่เริ่มได้ไม่นาน
          วัคซีนตัวเลือกซึ่งปัจจุบันเรียกว่า BNT162b1 ได้ “ดึงการตอบสนองของภูมิคุ้มกันได้สูงมากในผู้เข้าร่วมการศึกษา โดยเพิ่มสูงขึ้นตามระดับวัคซีนและการให้วัคซีนครั้งที่สอง” ตามข่าวที่เผยแพร่จากวารสาร Natureซึ่งให้ข้อมูลการทดลองเมื่อ 12 สิงหาคม ที่ผ่านมา
          Dr.Judith Absalon จาก Pfizer Inc บริษัทยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมยา เป็นผู้นำการทดลองระยะ ½ช่วงเริ่มแรก  คณะทำงานของเธอกล่าวว่าBNT162b1 มาจากรหัสพันธุกรรมที่เป็น messenger RNA (mRNA) ซึ่งช่วยเปิดการกระตุ้นการตอบสนองของภูมิคุ้มกัน เมื่อร่างกายเผชิญกับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
          กลยุทธ์ในการพัฒนาวัคซีนที่เน้น RNA นี้เป็น “วิธีที่โดยทั่วไปถือว่ามีความปลอดภัยและช่วยสนับสนุนให้พัฒนาวัคซีนต้าน SARS-COV-2 ได้รวดเร็ว”Natureระบุ
          การทดลองครั้งใหม่ได้ดำเนินการกับผู้ใหญ่ที่สุขภาพดี 45 คน อายุระหว่าง 18 ถึง 55 ปี มีการสุ่มให้ผู้เข้าร่วมการศึกษาจำนวนครึ่งหนึ่งได้รับวัคซีนในขนาดยาต่ำ ปานกลาง หรือสูง ในขณะที่อีกครึ่งหนึ่งได้รับวัคซีนหลอก
          ผลลัพธ์ คือ “วัคซีนได้ดึงเอาการตอบสนองของภูมิคุ้มที่แข็งแรงในตัวผู้เข้าร่วมการศึกษาออกมา” และยิ่งใช้วัคซีนมากขึ้น การตอบสนองยิ่งแข็งแกร่งยิ่งขึ้น  ผู้เขียนรายงานระบุว่า การรับวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 2 ยังได้เพิ่มการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันมากขึ้นอีก
          ในความเป็นจริง ผู้เข้าร่วมการศึกษาซึ่งได้รับวัคซีน “ระดับของแอนติบอดีชนิดลบล้างพิษ (neutralizing antibodies[ไวรัสโคโรนา]) สูงกว่าที่พบในผู้ป่วยที่ฟื้นจากการติดเชื้อ SARS-CoV-2 มากถึง 1.9 ถึง 4.6 เท่า” ตามรายงานที่เผยแพร่  
          แต่คณะทำงานของ Dr. Absalonได้เน้นว่า การทดลองระยะที่ 3 ซึ่งจะทดสอบวัคซีนกับประชากรที่ใหญ่ขึ้น เป็นงานที่จำเป็นเพื่อประเมินความปลอดภัย พลังการออกฤทธิ์ และระยะเวลาคงอยู่ของผลในเชิงการป้องกัน
          ตามรายงานในวารสาร กล่าวว่า โดยทั่วไปผู้รับการฉีดวัคซีนทนต่อผลข้างเคียงได้ดี” แม้ผู้รับวัคซีนบางคนจะมีผลข้างเคียงชั่วคราวบางอย่าง เช่น อาการเจ็บปวดในตอนที่ถูกฉีด ความรู้สึกเหนื่อย ปวดศีรษะ อาการไข้ และปัญหาเกี่ยวกับการนอนหลับ  ผลข้างเคียงเหล่านี้จะหมดไปภายใน 1 สัปดาห์ หลังการฉีดวัคซีน คณะผู้วิจัยกล่าว
          Dr.Amesh Adalja ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อและเป็นนักวิชาการอาวุโสที่ Johns Hopkins Center for Health Security ในบัลติมอร์ ได้อ่านรายงานฉบับใหม่และกล่าวว่า “การศึกษาครั้งนี้ได้ให้หลักฐานเพิ่มขึ้นที่แสดงว่าวัคซีนโควิดตัวเลือกที่เป็น mRNA สามารถดึงดูดแอนติบอดีชนิดลบล้างพิษออกมาหลังจากฉีดวัคซีน 2 ครั้ง
          Dr.Adalja บอกว่า มีวัคซีนตัวเลือกของโควิด-19 “จำนวนมาก” ที่ใช้เทคโนโลยี RNA และครั้งนี้แสดงว่า วัคซีนสามารถกระตุ้นการตอบสนองของภูมิคุ้มกันที่มีพลังความสามารถในคนเราได้
          “สิ่งที่เราคงต้องรอดูต่อไป คือ แอนติบอดีเหล่านี้จะเป็นอย่างไร เมื่อแต่ละคนที่ได้รับวัคซีนต้องเผชิญกับไวรัสตัวร้าย”Dr.Adaljiaกล่าว
          “คงมีแต่การคาดการณ์กันว่า วัคซีนเหล่านี้มีประสิทธิผลแค่ไหนในโลกของความเป็นจริง จนกว่าเราจะได้เห็นข้อมูลทางคลินิกของระยะที่ 3”