Eli Lilly บริษัทยายักษ์ใหญ่จากสหรัฐอเมริกาประกาศลงทุนกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในอินเดีย เพื่อขยายกำลังการผลิตและห่วงโซ่อุปทานร่วมกับผู้ผลิตท้องถิ่น หวังเพิ่มปริมาณยารักษาโรคสำคัญ เช่น เบาหวาน โรคอ้วน อัลไซเมอร์ มะเร็ง และโรคภูมิคุ้มกันผิดปกติ
นาย Patrik Jonsson ประธาน Lilly International ระบุว่า อินเดียมีบุคลากรด้านเภสัชกรรมคุณภาพสูงและถือเป็นศูนย์กลางการพัฒนาในเครือข่ายระดับโลกของบริษัท โดยการลงทุนใหม่นี้จะสนับสนุนการผลิตยาระดับโลก เช่น Mounjaro ซึ่งเป็นยาลดน้ำหนักที่เพิ่งเปิดตัวในอินเดียปีนี้
การลงทุนครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่อุตสาหกรรมยาทั่วโลกกำลังปรับโครงสร้างการผลิตใหม่ หลังรัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้ยุค โดนัลด์ ทรัมป์ เริ่มเก็บภาษีนำเข้ายาที่มีตราสินค้าและสิทธิบัตรสูงถึง 100% ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา เพื่อกระตุ้นให้บริษัทกลับมาผลิตในประเทศ
เมื่อเดือนที่แล้ว Lilly เพิ่งประกาศลงทุน 5 พันล้านดอลลาร์ ในการสร้างโรงงานแห่งใหม่ในรัฐเวอร์จิเนีย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนขยายการผลิต มูลค่ารวมกว่า 27 พันล้านดอลลาร์ เพื่อสร้างโรงงานใหม่ 4 แห่งในสหรัฐฯ ภายใน 5 ปี
ขณะเดียวกัน การเปิดตัวยา Mounjaro ของ Lilly และ Wegovy ของ Novo Nordisk คู่แข่งจากเดนมาร์ก ในอินเดียได้จุดกระแสความตื่นตัวเรื่องการรักษาโรคอ้วน ซึ่งอินเดียกำลังจะมีประชากรอ้วนมากเป็นอันดับ 2 ของโลกภายใน 25 ปีข้างหน้า โดยยอดขายของทั้ง 2 แบรนด์เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวภายในเวลาไม่กี่เดือนหลังเปิดตัว
Lilly ยังเตรียมรับมือการแข่งขันจากผู้ผลิตยาสามัญ (generic) ของอินเดีย ที่เร่งพัฒนายารุ่นเลียนแบบของ Wegovy เพราะ semaglutide จะหมดสิทธิบัตรในปีหน้า ซึ่งอาจทำให้ตลาดยาลดน้ำหนักร้อนแรงยิ่งขึ้น นอกจากนี้ บริษัทกำลังจัดตั้งศูนย์การผลิตและควบคุมคุณภาพแห่งใหม่ในเมืองไฮเดอราบาด เพื่อขยายการดำเนินงานจากศูนย์พัฒนาความสามารถระดับโลก (Global Capability Center) เดิม โดยศูนย์แห่งใหม่นี้จะดูแลเครือข่ายการผลิตแบบสัญญาจ้างทั่วอินเดียและพัฒนาเทคโนโลยีด้านกระบวนการผลิตยา
การลงทุนครั้งใหม่นี้ Eli Lilly ไม่เพียงขยายฐานการผลิตในประเทศที่มีศักยภาพสูงอย่างอินเดีย แต่ยังสะท้อนกลยุทธ์ระยะยาวของบริษัทในการสร้างเครือข่ายการผลิตที่ยืดหยุ่น ทันสมัย และพร้อมรองรับความต้องการยาที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก
ข้อมูลจาก :
