อย. ขอให้ผู้บริโภคอย่ากังวลในการรับประทานอาหารทะเล ทั้งอาหารทะเลสด และอาหารทะเลแช่แข็ง สามารถรับประทานได้ตามปกติ แต่ต้องปรุงให้สุกใหม่ เนื่องจากไวรัสโควิด-19 จะถูกทำลายด้วยความร้อนหรือสารเคมีที่ใช้ในการฆ่าเชื้อ ขอให้มั่นใจว่ายังไม่พบการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จากการบริโภคอาหาร
นพ.พูลลาภ ฉันทวิจิตรวงศ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า ตามที่มีข่าวตรวจพบเชื้อไวรัสโควิด-19 ในปลาแช่แข็งที่ประเทศจีน อันอาจทำให้ผู้บริโภควิตกกังวลในการรับประทานอาหารทะเลแช่แข็งนั้น สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ขอให้ผู้บริโภคมั่นใจ ยังสามารถบริโภคอาหารทะเลสดและอาหารทะเลแช่แข็งได้ตามปกติ แต่ต้องปรุงให้สุกใหม่เนื่องจากเชื้อไวรัสโควิด-19 ไม่สามารถทนความร้อนได้และถูกทำลายได้ด้วยวิธีการประกอบอาหารที่อุณหภูมิ 70 องศาเซลเซียส ดังนั้น องค์การอนามัยโลก (WHO) จึงแนะนำให้เลี่ยงการรับประทานอาหารจากสัตว์ที่ดิบหรือปรุงไม่สุก และจัดการกับเนื้อสัตว์ดิบ นมดิบ หรืออวัยวะของสัตว์ด้วยความระมัดระวัง เพื่อป้องกันการปนเปื้อน
รองเลขาธิการ อย. กล่าวย้ำเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้บริโภคต่อว่า ปัจจุบันยังไม่พบหลักฐานยืนยันว่า พบการติดเชื้อโควิด-19 จากการบริโภคอาหาร เนื่องจากไวรัสโควิด-19 มีเยื่อหุ้มที่มีความทนทานต่อสภาวะแวดล้อมได้ต่ำ และจะถูกทำลายได้ง่ายจากความร้อน หรือสารเคมีที่ใช้ในการฆ่าเชื้อ เช่น คลอรีน ดังนั้น ความเสี่ยงที่จะพบเชื้อไวรัสในอาหารจึงค่อนข้างต่ำ อย่างไรก็ตาม ขอย้ำให้ผู้บริโภครับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ ไม่ควรรับประทานอาหารดิบ เพราะนอกจากเสี่ยงต่อเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังเสี่ยงต่อการได้รับจุลินทรีย์ก่อโรค เช่น แบคทีเรียที่ทำให้ท้องเสีย หรืออาหารเป็นพิษ ไวรัสก่อโรค เช่น Norovirus และปรสิต เช่น พยาธิ นอกจากนั้น หากมีการปรุงประกอบอาหารเอง ควรเลือกซื้อวัตถุดิบจากแหล่งที่สะอาดและน่าเชื่อถือ การเตรียมอาหารจะต้องแยกอาหารสดกับอาหารที่ปรุงสุกแล้ว รวมทั้งระมัดระวังการสัมผัสอาหารที่ปรุงสุกแล้วกับอาหารสด ที่สำคัญ ควรล้างมือให้สะอาด ไม่สัมผัสใบหน้า และดวงตา ระหว่างการปรุงอาหาร เพื่อป้องกันการปนเปื้อนเชื้อจุลินทรีย์ก่อโรค
หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ที่ สายด่วน อย. 1556 และสามารถติดตามข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19 ได้ที่เว็บไซต์ อย. www.fda.moph.go.th หัวข้อ “COVID-19” แล้วคลิกไปที่ “ข่าวประชาสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้อง” หรือกดติดตามที่ “แฟนเพจเฟซบุ๊ก Fda Thai หรือ ไลน์ Fda Thai”