กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เผย ในช่วงหน้าหนาวน้ำเย็นอาจทำให้เสียวฟันได้ พ่อแม่ ผู้ปกครองจึงต้องคุมเข้มการแปรงฟันของลูก หวั่นเด็กเลี่ยงแปรงฟัน พร้อมแนะพ่อแม่ใช้วิธีการให้เด็กบ้วนน้ำเพียงเล็กน้อยหลังแปรงฟัน และให้หลีกเลี่ยงอาหารสหวานจัด ป้องกันการเกิดฟันผุ
นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า ในช่วงที่อากาศเริ่มหนาวขึ้น ส่งผลให้อุณหภูมิในน้ำเย็นขึ้นตามไปด้วย โดยเฉพาะช่วงเช้าของการแปรงฟันในเด็กเล็กเมื่อผิวฟันสัมผัสน้ำเย็นอาจจะมีอาการเสียวฟันได้ ทำให้เด็กไม่อยากแปรงฟันในเวลาต่อมา พ่อแม่ผู้ปกครองจึงต้องฝึกวินัยให้กับเด็กโดยควบคุมดูแลการแปรงฟันในตอนเช้า และก่อนนอน เพื่อป้องกันฟันผุอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งจากข้อมูลสำนักทันตสาธารณสุข กรมอนามัย ปี 2563 พบว่า ในเด็กอายุ 3 ปี จะแปรงฟันตอนเช้าก่อนมาโรงเรียนร้อยละ 86.8 มีผู้ปกครองแปรงให้ร้อยละ 42.5 เมื่อเด็กอายุ 5 ปี จะแปรงฟันด้วยตนเองมากขึ้น และผู้ปกครองส่วนใหญ่จะแปรงซ้ำให้อีกครั้ง จะเห็นได้ว่าพ่อแม่ ผู้ปกครองเป็นตัวช่วยสำคัญในการแปรงฟัน นอกจากนี้ ควรควบคุมการรับประทานอาหารของเด็กในแต่ละวันด้วย โดยหลีกเลี่ยงอาหารรสหวานจัด อาหารประเภทแป้งและน้ำตาลที่เป็นสาเหตุสำคัญก่อให้เกิดฟันผุ และอย่าลืมพาเด็กไปพบทันตแพทย์ปีละ 1-2 ครั้ง ซึ่งการไปพบทันตแพทย์ตั้งแต่เด็กจะสร้างความคุ้นชินและได้รับคำแนะนำวิธีทำความสะอาดฟันที่ถูกต้องและเหมาะสมตามวัย
ด้าน ทพญ.ยะดา ประเสริฐสม ผู้อำนวยการสำนักทันตสาธารณสุข กล่าวเสริมว่า วิธีการแปรงฟันในเด็กสามารถปฏิบัติได้ง่ายโดยเลือกใช้แปรงสีฟันที่ขนอ่อนนุ่ม และแปรงด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ แปรงทุกซี่ ทุกด้าน นาน 2 นาที เพื่อให้ฟลูออไรด์ไปจับที่ผิวฟันช่วยในกระบวนการป้องกันฟันผุ วางขนแปรงตั้งฉากกับผิวฟันแล้วถูไปมาในแนวขวาง ขยับไปมาสั้น ๆ แล้วจึงเลื่อนแปรงไปที่ซี่ถัดไป หลังจากนั้นบ้วนน้ำและล้างแปรงสีฟันด้วยน้ำสะอาด สิ่งสำคัญไม่ควรรับประทานอาหารหลังแปรงฟัน 2 ชั่วโมง รวมถึงพ่อแม่ ผู้ปกครองอาจทำให้เด็กดูเป็นตัวอย่าง หรือแปรงฟันพร้อมกับเด็กเพื่อสร้างนิสัยให้เกิดความเคยชินในการแปรงฟัน