ขณะที่นักวิจัยกำลังพยายามค้นหากุญแจที่จะปลดล็อกสาเหตุของโรคอย่างไม่ลดละ แต่งานวิจัยครั้งใหม่แสดงให้เห็นว่าอาหารที่เรารับประทานสามารถชะลอการเกิดโรคนี้ได้
          คณะผู้วิจัยในประเทศแคนาดาได้พบสหสัมพันธ์ที่ชัดเจนระหว่างอาหารแบบเมดิเตอร์เรเนียน หรือ อาหารแบบ MIND (เป็นการผสมผสานอาหารแบบเมดิเตอร์เรเนียนและวิธีรับประทานอาหารเพื่อหยุดความดันโลหิตสูง) กับการชะลอการเกิดโรคพาร์กินสัน
          “การเข้มงวดกับการรับประทานอาหารดังกล่าวอย่างจริงจังทั้งอาหารแบบ MIND และเมดิเตอร์เรเนียน มีความสัมพันธ์กับการที่โรคพาร์กินสันจะเกิดขึ้นช้าลง” Avril Metcalfe-Roach นักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาที่ University of British Columbia ในเมืองเวนคูเวอร์ กล่าว “สำหรับในผู้หญิงใช้เวลานานถึง 17.4 ปี เมื่อรับประทานอาหารแบบ MIND และในผู้ชายประมาณ 8 ปี”
          การศึกษาซึ่งเผยแพร่เมื่อไม่นานมานี้ในวารสาร Movement Disorders ได้แสดงให้เห็นแสงสว่างแห่งความหวังขึ้นมาราง ๆ เพราะเวลานี้ยังไม่มียาที่สามารถป้องกันหรือชะลอโรคพาร์กินสันได้ คณะผู้วิจัยกล่าว
          Metcalfe-Roach ยอมรับว่า การศึกษาครั้งนี้มีข้อจำกัด โดยสอบถามผู้เข้าร่วมการศึกษา 167 คน เกี่ยวกับอาหารที่พวกเขารับประทานหลังจากได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคพาร์กินสัน และสันนิษฐานเอาว่านั่นเป็นอุปนิสัยการรับประทานปกติที่พวกเขาได้ทำมาระยะหนึ่งแล้ว
          “นั่นเป็นข้อจำกัดในการศึกษาของเรา เราไม่ทราบจริง ๆ ว่าผู้เข้าร่วมการศึกษารับประทานอาหารแบบนั้นมานานแค่ไหน แต่สำหรับโรคที่ทำให้ระบบประสาทเสื่อมและเพื่อสุขภาพของคุณโดยทั่วไป สิ่งที่ดีที่สุด คือ เริ่มต้นรับประทานให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้” Metcalfe-Roach กล่าว
          การศึกษาได้เน้นให้เห็นการเชื่อมโยงสัมพันธ์กันระหว่างชีวนิเวศจุลชีพ (microbiome แบคทีเรีย และจุลชีพหลายล้านชนิดอยู่ในร่างกาย) กับสมอง ตามรายงานของคณะผู้วิจัย ซึ่งวางแผนที่จะศึกษาความสัมพันธ์ดังกล่าวต่อไป
          ไมโครไบโอมในทางเดินอาหารเป็นเหมือนโรงงานขนาดใหญ่ที่ผลิตสารเคมีที่มีประโยชน์ Metcalfe-Roach อธิบายและกล่าวว่า “สิ่งที่คุณรับประทานเข้าไปจะมีผลต่อการทำงานของไมโครไบโอม”
          มีความคิดว่าการรับประทานอาหารแบบเมดิเตอร์เรเนียนและ MIND จะใช้ไมโครไบโอมเพื่อลดการอักเสบลง
          Metcalfe-Roach ให้ความเห็นว่า ความรู้ความเข้าใจว่าอาหารดังกล่าวมีผลอย่างไรต่อไมโครไบโอมและผลิตผลของไมโครไบโอมมีผลอย่างไรต่อโรคพาร์กินสัน จะสามารถเปิดประตูไปสู่การรักษาแบบใหม่ได้
          อาหารทั้ง 2 แบบ ส่งเสริมให้รับประทานธัญพืช ผัก ปลา และลดปริมาณของเนื้อและผลิตภัณฑ์จากนม
          ประเด็นสำคัญที่นักวิจัยจะติดตามต่อไป คือ ความแตกต่างระหว่างเพศกับความแตกต่างระหว่างผู้ที่รับประทานอาหารทั้ง 2 แบบ อย่างต่อเนื่อง Metcalfe-Roach กล่าวเพิ่มเติม
         โรคพาร์กินสันมีผลกระทบต่อประชากรประมาณร้อยละ 1 ที่มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป โรคนี้เป็นโรคที่ทำลายระบบประสาทซึ่งเป็นกันมากที่สุดรองจากอัลไซเมอร์ โรคพาร์กินสันนั้นมีผลต่อ “เซลล์ประสาทที่ผลิต dopamine เป็นสำคัญในบางบริเวณของสมอง” ตามรายงานของ Parkinson’s Foundation อาการของโรคจะพัฒนาไปอย่างช้า ๆ
          Metcalfe-Roach บอกว่า มีปัจจัยทางพันธุกรรมบางอย่างที่ก่อให้เกิดโรคพาร์กินสันประมาณร้อยละ 10 และปัจจัยสภาพแวดล้อมถือว่าเป็นอีกปัจจัยที่เป็นสาเหตุก่อโรคในผู้ป่วยบางรายด้วย
          James Beck ประธานเจ้าหน้าที่ด้านวิทยาศาสตร์ที่ Parkinson's Foundation กล่าวว่า การศึกษาทางระบาดวิทยามีความสำคัญมาก เพราะจะสามารถชี้ทิศทางที่งานวิจัยจะเดินต่อไปได้สำหรับโรคพาร์กินสัน
          อย่างไรก็ตาม เขากล่าวว่า มีความกังวลเกี่ยวกับการใช้ผลสำรวจซึ่งมีการถามเกี่ยวกับอุปนิสัยการรับประทานหลังจากผู้ป่วยได้รับการวินิจฉัยโรค และสันนิษฐานว่าอุปนิสัยนั้นไม่ได้เปลี่ยนแปลงมาหลายปี
          “บ่อยครั้งมากที่เราได้รับข้อมูลใหม่ ๆ เกี่ยวกับความสำคัญของการรับประทานอาหารที่แตกต่างกัน และรู้สึกว่าการที่คนเราเปลี่ยนอาหารที่รับประทานเป็นผลจากข้อมูลเหล่านี้ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ที่เป็นโรคพาร์กินสัน อาหารที่ผู้ป่วยรับประทานอาจจะเปลี่ยนแปลงไป เมื่อผู้ป่วยได้รับการวินิจฉัยโรค” Beck กล่าวและว่า “พวกเขาอาจจะพยายามรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ”
          เราจำเป็นจะต้องตระหนักรู้ว่า นักวิทยาศาสตร์ไม่ได้ทราบแน่ชัดว่าอะไรทำให้เกิดโรคพาร์กินสัน หรือช่วงเวลาระหว่างตอนที่เริ่มเกิดโรคกับตอนที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคนั้นกินเวลานานแค่ไหน Beck กล่าว
          แต่การรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพและมีน้ำหนักตัวที่ดีต่อสุขภาพจะให้ประโยชน์ด้วยเหตุผลหลายประการ Beck บอก
          Parkinson's Foundation ได้ออกข้อแนะนำเกี่ยวกับอาหารเพื่อสุขภาพสำหรับผู้ที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคพาร์กินสัน
          Beck กล่าวว่า “มีความเป็นไปได้ที่อาหารเพื่อสุขภาพไม่เพียงป้องกันผลในทางลบจากโรคพาร์กินสันเท่านั้น แต่จะสามารถป้องกันผลในทางลบจากโรคอื่น ๆ ได้อีกด้วย และอาจช่วยให้โรคต่าง ๆ ดีขึ้นด้วย”
          “ผู้สูงอายุที่เป็นโรคพาร์กินสันอาจจะมีปัญหาสุขภาพอื่น ๆ นอกเหนือจากโรคพาร์กินสัน ผู้ป่วยเหล่านี้อาจเป็นโรคเบาหวาน อาจจะเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด และนี่คือเหตุผลที่การรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพสามารถทำให้สุขภาพโดยรวมดีขึ้นได้จริง” เขากล่าว “ซึ่งจะทำให้การจัดการกับโรคต่าง ๆ ง่ายขึ้นมาก”