วงการแพทย์ทึ่งกับประสิทธิภาพของ Benralizumab ยาฉีดสำหรับแก้ปัญหาหอบหืด หรืออาการของโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) หลังผลการทดลองชี้ถึงประสิทธิภาพที่ดีเกินคาด

วารสาร The Lancet Respiratory Medicine รายงานว่า ในการศึกษาผู้ป่วยโรคหอบหืดและโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง จำนวน 158 คน ซึ่งได้รับการคัดเลือกจากโรงพยาบาล 2 แห่ง ในสหราชอาณาจักร ผู้เข้าร่วมการทดลองแบบสุ่มแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรกรับรักษาแบบมาตรฐานเดิมด้วยยาเม็ด Prednisolone กลุ่ม 2 ได้รับการฉีดยา Benralizumab เท่านั้น และกลุ่ม 3 ได้รับการรักษาแบบผสมผสานกันทั้ง 2 วิธีดังกล่าว อัตราความล้มเหลวของการรักษาเป็นประเด็นสำคัญในการวิจัยครั้งนี้ ซึ่งหมายถึงความจำเป็นในการรักษาเพิ่มเติม การเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล หรือการเสียชีวิต ภายใน 90 วัน

ผลที่ได้คือ 74% ของผู้ที่ได้รับการรักษาด้วยยา Prednisolone เพียงอย่างเดียวประสบกับความล้มเหลวในการรักษาภายใน 90 วัน แต่ผู้ที่ได้รับการฉีด Benralizumab อัตราความล้มเหลวในการรักษาลดลงเหลือ 47% และกลุ่มที่ได้รับการบำบัดแบบผสมผสานมีอัตราความล้มเหลวในการรักษาเพียง 42% ผู้ป่วยที่ได้รับการฉีด Benralizumab มีอาการฟื้นตัวเร็วขึ้นและคุณภาพชีวิตดีขึ้น ตัวอย่างเช่น ผู้ป่วยสามารถหายใจได้ดีขึ้นและสบายตัวมากขึ้น

นอกจากนี้ Benralizumab มีผลข้างเคียงน้อยกว่า Prednisolone รวมถึงโรคกระดูกพรุน โรคเบาหวาน และการมีระดับน้ำตาลในเลือดสูง ซึ่งอาการนี้ไม่พบในผู้ป่วยที่ได้รับ Benralizumab เลย แต่การศึกษาข้อดีและข้อเสียของ Benralizumab ยังคงต้องดำเนินต่อไปอีกในการวิจัยระยะสุดท้าย และอาจจะเป็นความหวังที่ดีกว่าเดิมสำหรับผู้ป่วยโรคหอบหืดและโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังในอนาคต

ผู้เชี่ยวชาญพบว่า Benralizumab ซึ่งเป็นสารภูมิต้านทานจากโคลนของเซลล์เดียว สามารถบำบัดโรคหอบหืดจาก Eosinophilic ในระยะยาวได้ ทั้งนี้ การอักเสบที่เกิดจากเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดหนึ่งที่เรียกว่า eosinophils มีบทบาทสำคัญต่ออาการหอบหืด อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการศึกษาถึงศักยภาพในการจัดการกับช่วงเวลาวิกฤตของผู้ป่วยหากเกิดอาการทรุดลงกะทันหัน และหากผลวิจัยได้รับการยืนยันในที่สุดว่า Benralizumab ใช้ได้ผลดีมากกว่าผลเสียตามที่ปรากฏ นี่จะเป็นวิธีการรักษาโรคหอบหืดและปอดอุดกั้นเรื้อรังที่ประสบความสำเร็จเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 50 ปี

 

แหล่งข้อมูลและภาพประกอบ : https://www.sciencealert.com/new-drug-for-asthma-and-copd-is-the-first-found-in-50-years