ยาลดน้ำหนัก Saxenda สามารถลดน้ำหนักส่วนเกินได้ แต่เมื่อออกกำลังกายร่วมด้วยจะช่วยให้ได้ผลยิ่งขึ้น โดยการศึกษาทางคลินิกครั้งใหม่พบว่า คำแนะนำที่มีมานานยังใช้ได้ คือ ยาลดน้ำหนักตามใบสั่งยาจะได้ผลดีที่สุด เมื่อใช้ร่วมกับการเปลี่ยนแปลงวิถีการดำเนินชีวิต
          ยา saxenda (liraglutide) เป็นยาควบคุมตามใบสั่งยาที่ได้รับความเห็นชอบให้ใช้ในสหรัฐอเมริกาได้ เพื่อกระตุ้นและรักษาการลดน้ำหนักให้สม่ำเสมอ เมื่อใช้พร้อมกับการลดแคลอรีและการออกกำลังกาย
          แต่ยังไม่มีการทดสอบอย่างจริงจังว่า การใช้ยาร่วมกับการออกกำลังกายจะดีกว่าการใช้ยาอย่างเดียว หรือการออกกำลังกายอย่างเดียว หรือไม่
          การทดลองศึกษาครั้งใหม่ ซึ่งเผยแพร่ใน New England Journal of Medicine ได้ศึกษาทดลองในประเด็นนี้ และพบว่าตลอด1 ปี การใช้ยาร่วมกับการออกกำลังกายนี้ได้ผลดีกว่า โดยช่วยให้ผู้เข้าร่วมการศึกษาลดน้ำหนักลงได้มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การลดไขมันในร่างกาย (body fat)
          ผู้เชี่ยวชาญซึ่งไม่ได้มีส่วนร่วมในการทดลองกล่าวว่า การศึกษานี้เน้นถึงความสำคัญของยุทธวิธีแบบ “องค์รวม” เพื่อกำจัดน้ำหนักส่วนเกิน
          “มาตรฐานการรักษาพยาบาลด้วยวิธีทั้งหลายในการรักษาโรคอ้วน คือ การให้ยาและการผ่าตัด จะใช้วิธีดังกล่าวเป็นตัวเสริมให้กับการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมที่เป็นอยู่” Dr. Scott Kahan โฆษก The Obesity Society สหรัฐอเมริกา กล่าว
          การเปลี่ยนแปลงอาหารอย่างยั่งยืนและการออกกำลังกายเป็นประจำเป็นหัวใจสำคัญ Dr.Kahan ซึ่งดูแล National Center for Weight and Wellness ในวอชิงตัน ดี.ซี. กล่าว
          ยาลดน้ำหนักมีประโยชน์ แต่ไม่ใช่ “มนต์วิเศษในการรักษา” แต่สำหรับแพทย์บางคนอาจสั่งยาโดยไม่ได้ให้คำแนะนำช่วยเหลือเพียงพอในด้านของวิถีการดำเนินชีวิต
          มียาหลายชนิดที่ได้รับความเห็นชอบสำหรับช่วยลดน้ำหนัก ได้แก่ Xenical (orlistat), Qsymia (phentermine-topiramate) และ Contrave (naltrexone-bupropion)
          ยา liraglutide มีจำหน่ายภายใต้ 2 ชื่อผลิตภัณฑ์ คือ Saxenda ยาลดน้ำหนัก และ Victoza สำหรับโรคเบาหวาน ชนิดที่ 2 ยา Saxenda ประกอบด้วย liraglutide ในขนาดยาที่มากกว่า และทำงานด้วยการล้อปฏิกิริยาของฮอร์โมนความอยากอาหาร ที่เรียกว่า GLP-1 ตามรายงานข้อมูลของ Novo Nordisk ผู้ผลิตยา ปกติจะให้ยานี้ด้วยการฉีดทุกวัน
          สำหรับการทดลองครั้งใหม่ ซึ่งได้รับทุนจาก Novo Nordisk คณะผู้วิจัยได้สรรหาผู้ใหญ่ที่เป็นโรคอ้วน 195 คน ซึ่งจะใช้เวลา 8 สัปดาห์ ในการรับประทานอาหารที่มีแคลอรีต่ำ หลังจากนั้นจะสุ่มแยกเป็น 4 กลุ่ม คือ (1) กลุ่มที่ใช้ยาร่วมกับการออกกำลังกาย (2) กลุ่มที่ใช้ยาอย่างเดียว (3) กลุ่มที่ออกกำลังกายอย่างเดียว หรือ (4) กลุ่มที่ใช้ยาหลอก และให้มีการออกกำลังกายตามปกติ
          กลุ่มที่ออกกำลังกาย มีกิจวัตรประจำวันที่ค่อนข้างขันแข็ง มีการเสริมให้เข้าชั้นเรียนของกลุ่มสัปดาห์ละ 2 ครั้ง และออกกำลังกายเองสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ด้วยการวิ่ง ถีบจักรยาน และเดินออกกำลังกายแบบเร็ว ๆ
          ทั้ง 4 กลุ่ม ได้รับคำแนะนำปรึกษาเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงอาหารในระยะยาว
          หลังจากผ่านไป 1 ปี กลุ่มที่ใช้ยาร่วมกับการออกกำลังกายมีน้ำหนักลดลงจากน้ำหนักตอนเริ่มแรกร้อยละ 16 โดยเฉลี่ย เทียบกับร้อยละ 11 ในกลุ่มที่ออกกำลังกาย และร้อยละ 13 ในกลุ่มที่ใช้ยา
          กลุ่มที่ใช้ 2 วิธี ร่วมกันยังเกิดประสิทธิผลสูงสุดในการเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบของร่างกาย (body composition) กล่าวคือ ผู้ป่วยลดไขมันร่างกายได้มากถึง 2 เท่า และลดรอบเอวได้มากกว่า เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ใช้วิธีเดียว
          นอกจากนั้น ยังรักษามวลกล้ามเนื้อไว้ได้ด้วย คณะผู้วิจัยที่นำโดย Signe Torekov จาก University of Copenhagen ในประเทศเดนมาร์ก รายงาน
          “ประเด็นใหญ่ในที่นี้คือ การศึกษาครั้งนี้ยืนยันว่าการใช้ยาร่วมกับการออกกำลังกายมีประสิทธิผลมากกว่า” Dr. Reshmi Srinath ซึ่งดูแล Weight and Metabolism Management Program ที่ Mount Sinai นครนิวยอร์ก กล่าว
          เธอให้ข้อเตือนใจบางประการ กล่าวคือ ผู้ป่วยที่เข้าร่วมการทดลองอายุค่อนข้างน้อย อยู่ในวัย 40 ต้น ๆ โดยเฉลี่ยและสุขภาพดี การออกกำลังกายที่ใช้แรงอาจไม่เหมาะสมกับผู้สูงวัย หรือผู้ที่มีอาการด้านสุขภาพบางอย่าง เช่น ข้อต่ออักเสบและมีอาการปวด
          “สำหรับผู้ป่วยเหล่านี้ โดยทั่วไปเราแนะนำให้เดินหรือฝึกออกกำลังกายด้วยการใช้น้ำหนักบางอย่างที่บ้าน” Srinath กล่าว
          แต่เธอบอกเพิ่มเติมว่า สุดท้ายที่ยังคงต้องทำ คือ “ควรใช้ยาเป็นตัวเสริมสำหรับการเปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิต”
           นั่นไม่เพียงเฉพาะแค่ใช้กับยา Saxenda แต่กับยาลดน้ำหนักที่ควบคุมโดยใบสั่งยาโดยทั่วไป Dr. Kahan และ Dr. Srinath กล่าว
          เมื่อมาถึงการเลือกยา Dr. Srinath บอกว่า ต้องตัดสินใจเป็นรายกรณีไป โดยพิจารณาถึงผลข้างเคียง และสภาวะด้านสุขภาพต่าง ๆ ของผู้ป่วย ในการศึกษาครั้งนี้ ผลข้างเคียงส่วนใหญ่ของยา Saxenda ได้แก่ อาเจียน ท้องร่วง และเวียนศีรษะ
           ความรู้สึกส่วนตัวยังมีส่วนต่อการตัดสินใจใช้ยาด้วย Dr. Srinath ให้ข้อสังเกตว่า “ผู้ป่วยบางคนลังเลที่จะใช้การฉีดยาทุกวัน”
           Dr. Kahan กล่าวว่า สิ่งสำคัญ คือ คนที่ “พยายามแล้วพยายามอีก” เพื่อลดน้ำหนัก จะทราบว่ามีหลายวิธีการที่สามารถช่วยได้
           “คนทั่วไปมักไม่ทราบว่า เนื่องจากเราอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนักที่เป็นของปลอม” เขากล่าวและว่า “แต่มีทางเลือกที่ดีและถูกต้องที่ผ่านการศึกษาทางวิทยาศาสตร์มากแล้ว