กลุ่มชายเกย์และไบเซ็กซ์ชวลที่รับประทานยาต้านไวรัสเพื่อรักษาการติดเชื้อเอชไอวี อาจมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นต่อซิฟิลิส งานวิจัยครั้งใหม่ รายงาน
          จากการทบทวนหลักฐานที่มีอยู่ คณะผู้วิจัย สรุปว่า ยาอาจเพิ่มความไวต่อแบคทีเรียซึ่งทำให้เกิดโรคซิฟิลิส แม้การศึกษาจะไม่ได้พิสูจน์ถึงความสัมพันธ์เชิงเหตุและผลก็ตาม
          ผลการค้นพบอาจอธิบายถึงสาเหตุว่าทำไมผู้ป่วยรายใหม่และผู้ป่วยซ้ำด้วยโรคซิฟิลิสในผู้ชายเกย์และไบเซ็กซ์ชวลถึงเพิ่มขึ้นสูง เมื่อเทียบกับการติดเชื้อกามโรคชนิดอื่นในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา คณะผู้วิจัยเขียนในรายงาน
          คณะทำงานศึกษาชุดนี้นำโดย Dr.Michael Rekart จาก School of Population and Public Health แห่ง University of British Columbia ที่แวนคูเวอร์  และมีการเผยแพร่ผลการค้นพบในวารสาร Sexually Transmitted infection
          ผู้เขียนบทบรรณาธิการคู่กับผลการศึกษา กล่าวว่า ทฤษฎีนี้มีความแยบคายและยอมรับการพิจารณาที่รอบคอบ แต่ยังเสนอแนะว่า การเป็นโรคซิฟิลิสเพิ่มขึ้นในกลุ่มชายเกย์และไบเซ็กซ์ชวลอาจมีสาเหตุจากปัจจัยอื่น ๆ ได้
          “เรากำลังอยู่ในยุคที่มีการใช้ (การบำบัดด้วยยาต้านไวรัส) ในการรักษาและป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีอย่างได้ผล  จึงดูเหมือนจะผ่อนปรนความเร่งด่วนในการควบคุมการติดเชื้อกามโรคชนิดอื่น ๆ อย่างที่ประวัติศาสตร์ได้แสดงให้เห็นหลายครั้งแล้วว่า นั่นคือความผิดพลาดที่มีราคาแพง” Susan Tuddenham, Maunank Shah และ Khalil Ghanem จากคณะแพทยศาสตร์ แห่ง Johns Hopkins University กล่าว
          “ตลอด 15 ปีที่ผ่านมา อัตราการเกิดโรคซิฟิลิส (ในกลุ่มผู้ชายเกย์และไบเซ็กซ์ชวล) เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยไม่ลดลงเลย”  Tuddenham และคณะผู้ร่วมงานระบุในเอกสารแพร่ข่าวของวารสาร
          “ถ้าการศึกษาต่อไปสนับสนุนบทบาท (ของการบำบัดด้วยยาต้านไวรัส) ในการเพิ่มความไวต่อโรคซิฟิลิสแล้ว จะช่วยให้มีเหตุผลมากขึ้นว่าทำไมการคัดกรอง การวินิจฉัยโรค และการรักษา (การติดเชื้อกามโรค) ใน (กลุ่มผู้ชายเกย์และไบเซ็กซ์ชวล) จะต้องจัดให้อยู่ในลำดับที่มีความสำคัญ” บทบรรณาธิการสรุป