ใช้ความเย็นจี้เนื้องอกรักษามะเร็งเต้านมที่มีความเสี่ยงต่ำ

Alan Mozes, HealthDay News

การศึกษาครั้งแรกของการใช้ความเย็นจัดการเนื้องอกแสดงให้เห็นว่า สามารถรักษาโรคมะเร็งเต้านมที่เติบโตช้าด้วยเทคนิคการให้ความเย็นกับเนื้องอกเป้าหมาย โดยไม่มีความจำเป็นต้องรับการผ่าตัด      
     การทดลองล่าสุดแสดงให้เห็นว่า  เทคนิคการจี้เนื้องอกด้วยความเย็น (cryoablation) มีประสิทธิผลในผู้หญิงอายุมากกว่า 60 ปี ที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็งเต้านมที่มีความเสี่ยงค่อนข้างต่ำ
    "cryoablation เป็นวิธีการที่มีการรุกล้ำเข้าสู่ร่างกายน้อยมากในการทำลายเนื้องอกเต้านมอย่างปลอดภัยและไม่มีการเจ็บปวด โดยไม่จำเป็นต้องมีการผ่าตัด” ผู้เขียนรายงานการศึกษา Dr. Richard Fine ศัลยแพทย์เต้านมที่ West Cancer Center & Research Institute ในเมืองเยอร์มันทาวน์ รัฐเทนเนสซี สหรัฐอเมริกา กล่าว
    “กระบวนการรักษาแบบ cryoablation จะให้เนื้อเยื่อที่เป็นมะเร็งสัมผัสกับอุณหภูมิที่เย็นมา กๆ (cryo) เพื่อทำลาย (ablate ละลายขจัดออก) เนื้อเยื่อนั้น การรักษานี้ทำในที่ทำงานขณะที่ผู้ป่วยรู้สึกตัวอยู่”
    การศึกษาครั้งใหม่ซึ่งครอบคลุมผู้ป่วยเกือบ 200 คน พบว่า เมื่อใช้กระบวนการจี้เนื้องอกด้วยความเย็น (cryoablation) กับผู้หญิงที่เป็นโรคมะเร็งเต้านมซึ่งมีความเสี่ยงต่ำ ผู้ป่วยเกือบทุกคนยังมีชีวิตอยู่โดยไม่เป็นโรคมะเร็งนาน 3 ปีขึ้นไป
    “การรักษานี้เป็นที่ยอมรับสำหรับการรักษาโรคมะเร็งกระดูก ไต ต่อมลูกหมาก และโรคมะเร็งอื่น ๆ” Dr. Fine บอก
    อายุเฉลี่ยของผู้ป่วยในการศึกษาครั้งนี้ เท่ากับ 75 ปี และทุกคนได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็งเต้านมแบบลุกลามออกนอกท่อน้ำนม ( Invasive Ductal Carcinoma: IDC) เนื้องอกมีขนาดค่อนข้างเล็ก วัดขนาดได้ไม่มากกว่า 1.5 เซนติเมตร  ผู้ป่วยทุกคนมีเนื้องอกที่ตัวรับฮอร์โมนเป็นบวก (hormone receptor-positive) หมายความถึงเนื้องอกที่เป็น ER+, PR+ และ/หรือ HER2-
    “โดยทั่วไป เนื้องอกที่เป็น ER+, PR+ จะเติบโตช้ากว่าและมีพยากรณ์โรคที่ดีกว่าเล็กน้อย เมื่อเทียบกับเนื้องอกที่ตัวรับฮอร์โมนเป็นลบ” Dr.Fine กล่าว
    ผู้ป่วยทุกคนในการศึกษาครั้งนี้ได้รับการรักษาตามกระบวนการ cryoablation จะมีการสอดโพรบ (probe) โดยตรงผ่านผิวหนังเข้าไปในบริเวณเนื้องอก หลังจากทำให้มีอาการชาเฉพาะที่ และใช้ไนโตรเจนเหลวจี้ให้เนื้องอกเป้าหมายเย็นจากภายในสู่ภายนอก การรักษากินเวลา 20 ถึง 30 นาที ซึ่งจะเปลี่ยนเนื้องอกให้กลายเป็นก้อนน้ำแข็งในที่สุด
    คณะผู้วิจัยรายงานว่า กระบวนการรักษานี้ไม่ต้องมีการผ่าตัดตามมา แม้ว่าเกือบร้อยละ 15 ของผู้หญิงจะได้รับการฉายรังสีด้วย ในขณะที่ประมาณ 3/4 ได้รับการรักษาต่อด้วยฮอร์โมน (endocrine therapy) และมีผู้ป่วย 1 คน ที่ได้รับเคมีบำบัด
    ผู้ป่วยได้รับการตรวจปีละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 5 ปี หลังการรักษา ผลที่ได้รับคือ ณ เวลาติดตามผลโดยเฉลี่ยเกือบ 3 ปี หลังการรักษา พบว่า มีเพียงร้อยละ 2 ของผู้ป่วย (จำนวน 4 คน) ที่โรคมะเร็งกลับมาเป็นอีก ไม่มีรายงานผลข้างเคียงที่รุนแรง และผู้ป่วยเกือบทั้งหมดและแพทย์ผู้ดูแลรายงานว่าพอใจกับการรักษา (ร้อยละ 95 และร้อยละ 98 ตามลำดับ)
“ทั้งเนื้องอกชนิดไม่ร้ายแรงและเนื้องอกมะเร็ง ได้รับผลดีมากกว่าการผ่าตัดแบบเดิม ทั้งในด้านกระบวนการรักษาที่ทำในที่ทำงาน การรักษาที่ทำได้เร็วขึ้น มีการฟื้นตัวเกือบจะในทันที  ผลด้านความงามที่ดีขึ้น ผู้ป่วยมีความสะดวกมากขึ้น ความเสี่ยงลดลง และค่าใช้จ่ายต่ำกว่า” Dr. Fine กล่าว
    เขากล่าวเพิ่มเติมว่า วิธีนี้ไม่เหมือนกับการผ่าตัดเอาก้อนเนื้อออก (lumpectomy) หรือการผ่าตัดเต้านม ( mastectomy) กระบวนการ cryoablation จะรักษาตัวเต้านมไว้และลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อให้เหลือน้อยที่สุด  และโดยปกติกระบวนการนี้จะให้ “ผลในด้านความงามที่ดีมากโดยไม่มีแผลเป็นเลย” พร้อมกับช่วยให้ผู้ป่วยกลับไปดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ได้ตามปกติอย่างรวดเร็ว
    Dr. Fine กล่าวว่า สหภาพยุโรปได้เห็นชอบกับกระบวนการ cryoablation เพื่อการรักษาโรคมะเร็งเต้านมในปี 2020 และยังได้รับความเห็นชอบให้ใช้กระบวนการเดียวกันในประเทศออสเตรเลีย แอฟริกาใต้ ไทย สิงคโปร์ และฮ่องกงด้วย
    ในสหรัฐอเมริกา “การรักษาวิธีนี้จะใช้ในห้องปฏิบัติการ” Dr. Shawna Willey ประธานฝ่ายวิจัยโรคมะเร็งเต้านมแห่ง Inova Schar Cancer Institute ที่ Inova Fairfax Hospital ในเมืองแฟร์แฟกซ์ เวอร์จิเนีย กล่าว
    ถึงแม้เธอจะไม่ใช่ส่วนหนึ่งของคณะทำงานนี้ แต่ Dr.Willey กล่าวว่า การทดลองของ Dr. Fine “เป็นการศึกษาขนาดใหญ่ที่สุดและอาจเปิดทางให้กระบวนการ cryoablation ขยายออกไปกว้างขวางมากขึ้น เพื่อเป็นทางเลือกของการรักษาสำหรับผู้หญิงสูงอายุที่เป็นโรคมะเร็งเต้านมชนิดความเสี่ยงต่ำ ในขณะที่ยังมีการศึกษากระบวนการนี้ต่อไปในประชากรของผู้ป่วยให้กว้างขวางมากขึ้น”
    Dr.Willey เตือนว่า ที่ผ่านมามีการทดลองกระบวนการ cryoablation ในกลุ่มผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านมที่คัดเลือกมาอย่างระมัดระวัง ดังนั้น เธอจึงเน้นว่าประสิทธิผลของวิธีนี้ “ไม่ได้รับการสนับสนุนด้วยข้อมูลในวงกว้าง ด้วยการติดตามผลในระยะยาว หรือด้วยข้อมูลที่ครอบคลุมเนื้องอกชนิดต่าง ๆ ในผู้หญิงทุกกลุ่มอายุ
    Dr. Fine และคณะผู้ร่วมงานได้นำเสนอผลการค้นพบนี้ต่อที่ประชุมเสมือนจริงของ American Society of Breast Surgeons และถือว่ายังเป็นงานวิจัยในเบื้องต้นจนกว่าจะได้รับการเผยแพร่ในวารสารที่ผ่านการทบทวนโดยผู้เชี่ยวชาญแล้ว