มีการใช้การทดสอบ High-sensitivity cardiac troponin I (hs-cTnI) กันมากขึ้นเพื่อตรวจหาการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อหัวใจ แต่ในผู้ป่วยที่มีภาวะไตสูญเสียความสามารถในการกรองของเสียออกจากเลือด troponin มักมีค่าสูง ทำให้เกิดความยุ่งยากในการตีความ
ในการทดลองแบบสุ่มที่มีการแบ่งกลุ่มหรือพื้นที่ (cluster-randomized trial) คณะผู้วิจัยได้ประเมินการใช้การทดสอบ High-sensitivity cardiac troponin I (hs-cTnI) ในผู้ป่วยที่สงสัยว่ามีภาวะหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน (acute coronary syndromes) ในโรงพยาบาล 10 แห่ง ที่ได้รับการสุ่มให้ใช้การตรวจนี้ก่อนหรือหลัง
ความเข้มข้นของ hs-cTnI จะเพิ่มขึ้นเหนือเปอร์เซ็นต์ที่ 99 ในร้อยละ 22% ของผู้ป่วยเกือบ 47,000 คน ที่เข้าร่วมการศึกษา ร้อยละ 42 ของผู้ที่มีค่าสูงมีภาวะไตพร่องหรือภาวะที่ไตสูญเสียความสามารถในการกรองของเสียออกจากเลือด (kidney impairment) ซึ่งกำหนดด้วยอัตราการกรองของไต (estimated glomerular filtration rate: eGFR) <60 mL/min/1.73 m2
โดยพบระดับ troponin สูง เมื่อ eGFR ลดลง โดยมีพิสัยตั้งแต่ร้อยละ 10 ของผู้ที่มี eGFR ≥90 จนถึงร้อยละ 66 ของผู้ที่มี eGFR <30 อย่างไรก็ตาม ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด (myocardial infarctions : MIs) type 1 ในกลุ่มผู้ที่มีระดับ eGFR สูง มีอัตราส่วนที่ลดลง โดยการทำหน้าที่ของไตแย่ลง จากร้อยละ 74 ในผู้ที่ eGFR >90 ถึงร้อยละ 35% ในผู้ที่มี eGFR <30
การใช้การทดสอบ hs-cTnl (แทนที่จะเป็นการทดสอบ troponin มาตรฐาน) ทำให้อัตราส่วนของค่า troponin สูง เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 ในผู้ที่มีภาวะไตสูญเสียความสามารถในการกรอง และร้อยละ 3 ในผู้ที่ไม่มีภาวะดังกล่าว
ภาวะที่ไตสูญเสียความสามารถในการกรองมีความสัมพันธ์กับอัตราการเพิ่มขึ้นของ troponin elevation อย่างไรก็ตาม อัตราส่วนของภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด type 1 ลดลง
ผู้เขียนรายงานชี้ให้เห็นว่า 2 ใน 3 ของผู้ที่มีภาวะไตสูญเสียการกรองและระดับ troponin สูงไม่ได้มีภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด และยังไม่มีข้อแนะนำว่าจะจัดการกับระดับ troponin ให้ดีที่สุดได้อย่างไร โดยผู้ป่วยที่มีภาวะไตสูญเสียความสามารถในการกรองประมาณครึ่งหนึ่งมีระดับ hs-cTnI สูงขึ้น
High-Sensitivity Troponin ในผู้ป่วยไตทำหน้าที่พร่อง
JAMA Intern Med 2021 Jun 7