คุมเบาหวานชนิดที่ 2 เฉพาะรายลดใช้ยาและให้ผลดี

Ann Intern Med 2017 Dec 12

การควบคุมน้ำตาลในเลือดเป็นรายบุคคลได้ผลคุ้มค่าและลดการใช้ยาได้ตลอดชีวิต
          ควบคุมโรคเบาหวานอย่างเคร่งครัดอาจทำให้เกิดภาวะระดับน้ำตาลในเลือดต่ำขั้นรุนแรงหรือการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรได้มาก (NEJM JW Gen Med Jul 1 2008 and N Engl J Med 2008; 358:2545)
          การรักษาเป็นรายบุคคล (individualized treatment) สำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 นั้น เป็นการเปลี่ยนการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดจากการยึดเป้าหมายในการจัดการแบบเข้มงวดซึ่งกำหนดสำหรับใช้เป็นการทั่วไป (ตัวอย่างเช่น กำหนดเป้าหมายน้ำตาลสะสมในเลือด หรือ glycosylated hemoglobin [HbA1c] < ร้อยละ 7) ไปเป็นเป้าหมายระดับน้ำตาลในเลือดของแต่ละบุคคลเป็นราย ๆ ซึ่งขึ้นอยู่กับปัจจัยหลาย ๆ ประการ เช่น อายุ, อายุคาดเฉลี่ย, โรคที่เกิดร่วมกัน, ประวัติภาวะแทรกซ้อน และความเสี่ยงต่อภาวะระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ)
          ในการวิเคราะห์เชิงเศรษฐศาสตร์กับการจัดการโรคเบาหวาน  คณะผู้วิจัยได้ใช้ฐานข้อมูลผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ของสหรัฐอเมริกา เพื่อแสดงให้เห็นถึงการประหยัดค่าใช้จ่ายตลอดชีวิตมากกว่า 13,000 ดอลลาร์ต่อคน (ผ่านการใช้ยาน้อยลง) ด้วยการควบคุมน้ำตาลในเลือดแต่ละบุคคล เปรียบเทียบกับการควบคุมอย่างเข้มงวด (HbA1c goal, < ร้อยละ 7)
          การควบคุมน้ำตาลในเลือดรายบุคคลหรือเฉพาะแต่ละบุคคลจะลดปีสุขภาวะที่สูญเสียไปจากโรคและการบาดเจ็บของประชากรลงเล็กน้อย (ลดลง 0.1 life-years หรือ 36 วัน) แต่จะถ่วงดุลด้วยการเพิ่มขึ้นเชิงเปรียบเทียบของปีสุขภาวะที่มีคุณภาพ (quality-adjusted life-years) (เพิ่มขึ้น 0.1 QALYs หรือ 36 quality-adjusted life-days)
          การวิเคราะห์เชิงเศรษฐศาสตร์กำหนดค่าคุณภาพชีวิตจากการลดการใช้ยาสำหรับอาการเรื้อรัง เป็นกลยุทธ์ที่ค่อนข้างเฉพาะที่แพทย์คลินิกอาจไม่ได้คิดถึงเสมอในวิธีจัดการกับโรค  การปรับเปลี่ยนผู้ป่วยจากการควบคุมอย่างเข้มงวดมากให้ลดความเข้มงวดลงตลอดชีวิตเป็นวิธีที่ให้ผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง และจึงไม่แปลกใจถ้าเราจะเริ่มพิจารณาใช้การวิเคราะห์และวิธีการแบบนี้กับอาการของโรคเรื้อรังอื่น ๆ