การศึกษาเชิงสังเกตการณ์ กล่าวว่า การใช้ผลิตภัณฑ์เสริมวิตามินรวมหรือกรดโฟลิกก่อนหรือระหว่างตั้งครรภ์มีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงที่ลดลงต่อโรคออทิสซึ่มในเด็ก
จากการใช้ฐานข้อมูลการรักษาพยาบาลของอิสราเอล คณะผู้วิจัยได้ประเมินการใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่แพทย์สั่งในเวลา 9 เดือน ก่อนการตั้งครรภ์และระหว่างตั้งครรภ์สำหรับมารดา 27,000 คน พบว่า จากทารก 45,000 คน มีเด็กร้อยละ 1 ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคในกลุ่มออทิสซึ่ม
หลังจากปรับค่าตัวแปรต่าง ๆ แล้ว พบว่า ความเสี่ยงที่จะได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคออทิสซึ่มน้อยกว่าอย่างมีนัยสำคัญในเด็กที่เกิดกับผู้หญิงที่ได้รับกรดโฟลิก และ/หรือ วิตามินรวมก่อนการตั้งครรภ์ (ความเสี่ยงเชิงเปรียบเทียบเท่ากับ 0.39) และระหว่างการตั้งครรภ์ (ความเสี่ยงเชิงเปรียบเทียบเท่ากับ 0.27) เมื่อเทียบกับผู้หญิงที่ไม่ได้รับการเสริมอาหารดังกล่าว ผลการศึกษาปรากฏในทำนองเดียวกันเมื่อพิจารณาการใช้กรดโฟลิกและวิตามินรวมแยกต่างหากจากกัน
คณะผู้วิจัย กล่าวว่า การดัดแปรทางเอพิเจเนติก (epigenetic modifications) จากการเสริมอาหารมีบทบาทในการความสัมพันธ์ดังกล่าว
ใช้กรดโฟลิกและวิตามินรวมระหว่างตั้งครรภ์สัมพันธ์กับความเสี่ยงที่ลดลงต่อออทิสซึ่ม
JAMA Psychiatry