DOACบวกแอสไพรินที่ไม่มีข้อบ่งใช้ชัดเจนสัมพันธ์กับภาวะเลือดออกที่มากขึ้น

Amy Orciari Herman, JAMA

การใช้ยาร่วมกันของยาต้านการแข็งตัวของเลือดชนิดรับประทานที่ออกฤทธิ์โดยตรงกับยาแอสไพรินเป็นเรื่องที่พบได้ทั่วไปในผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด โดยไม่มีข้อบ่งใช้ชัดเจนสำหรับยาแอสไพริน มีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นต่อภาวะเลือดออก การศึกษาเชิงสังเกตการณ์ใน JAMA Internal Medicine รายงาน
    คณะผู้วิจัยได้ศึกษาบันทึกการรักษาพยาบาลของผู้ป่วยประมาณ 3,300 คน ในมิชิแกน ซึ่งได้รับยาต้านการแข็งตัวของเลือดชนิดรับประทานที่ออกฤทธิ์โดยตรง (direct oral anticoagulant: DOAC) เพื่อรักษาภาวะหัวใจห้องบนสั่นพลิ้วที่ไม่เกี่ยวกับโรคลิ้นหัวใจ (nonvalvular atrial fibrillation) หรือ ภาวะลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำ (venous thromboembolism) พบว่า  1 ใน 3 ของผู้ป่วยได้รับยาแอสไพรินด้วย (การศึกษาได้แยกกลุ่มผู้ป่วยที่เป็นกล้ามเนื้อหัวใจตาย (myocardial infarction) เมื่อไม่นานมานี้ หรือมีประวัติการเปลี่ยนลิ้นหัวใจออกไป)
    ในการศึกษาได้จับคู่ผู้ป่วยประมาณ 1,000 คน ที่ได้รับยา DOAC และแอสไพริน กับผู้ป่วยที่ได้รับยา DOAC อย่างเดียว  ระหว่างการติดตามผลด้วยค่ามัธยฐาน 12 เดือน พบว่า ผู้ป่วยที่รักษาด้วยยาสูตรผสมมีโอกาสที่จะเกิดภาวะเลือดออกมากกว่าผู้ที่ใช้ยา DOAC อย่างเดียว (32 คน เทียบกับ 26 คน ต่อผู้ป่วย 100 คน/ปี)  ความแตกต่างนี้มาจากภาวะเลือดออกที่ไม่ร้ายแรงอย่างมีนัยสำคัญ
    การเข้าโรงพยาบาลด้วยภาวะเลือดออกยังพบได้มากกว่าในผู้ป่วยที่ใช้ยา DOAC กับยาแอสไพริน (8 เทียบกับ 5 คนต่อ 100 คน/ปี) ขณะเดียวกันการเกิดเหตุการณ์ภาวะลิ่มเลือดอุดตันหลอดเลือดระหว่าง 2 กลุ่ม ไม่ได้แตกต่างกัน
    คณะผู้วิจัยสรุปว่า “ควรพยายามช่วยแพทย์ในการระบุและลด หรือหยุดสั่ง (ยาแอสไพริน) สำหรับผู้ป่วยที่ได้รับยา DOAC โดยไม่มีข้อบ่งใช้สำหรับ (ยาแอสไพริน)”