การวิเคราะห์ขนาดใหญ่แสดงศักยภาพยาต้านไวรัส COVID-19 ชนิดใหม่

The Francis Crick Institute, ScienceDaily

นักวิจัยได้คัดกรองยาและโมเลกุลสารเคมีจำนวนมากและพบสารที่มีศักยภาพในการต้านไวรัส ซึ่งสามารถพัฒนาให้เป็นยาใหม่เพื่อรักษาโรค COVID-19 หรือเตรียมไว้สำหรับการระบาดของไวรัสโคโรนาในอนาคต     
    แม้วัคซีน COVID-19 กำลังทยอยออกมาให้ฉีดกันในเวลานี้ แต่ยังมีทางเลือกน้อยมากสำหรับยาที่สามารถใช้รักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัส เพื่อลดอาการและเร่งเวลาให้ฟื้นจากโรค ยาเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับกลุ่มที่วัคซีนเกิดประสิทธิผลน้อย เช่น ผู้ป่วยที่เป็นโรคมะเร็งโลหิตในเลือด
    ในชุดรายงาน 7 ตอนต่อเนื่องกันซึ่งเผยแพร่ใน Biochemical Journal คณะนักวิทยาศาสตร์ได้พบโมเลกุล 15 ชนิด ที่ยับยั้งการเติบโตของ SARS-CoV-2 ด้วยการขัดขวางเอนไซม์ต่าง ๆ 15 เอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับการทำสำเนาของไวรัส
    คณะผู้วิจัยจาก Francis Crick Institute และ University of Dundee ได้พัฒนาวิธีการและดำเนินการทดสอบโมเลกุลประมาณ 5,000 โมเลกุล ที่รับจากคณะทำงาน High Throughput Screening ของสถาบัน Crick เพื่อดูว่ามีโมเลกุลไหนบ้างที่สามารถยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ใด ๆ ใน 7 เอนไซม์ของ SARS-CoV-2 ได้  การทดสอบพิจารณาจากการเปลี่ยนแปลงของฟลูออเรสเซนต์ด้วยการใช้เครื่องมือสร้างภาพพิเศษที่ตรวจว่าเอนไซม์ได้รับผลกระทบหรือไม่
    จากนั้นคณะผู้วิจัยได้พิสูจน์ผลและทดสอบตัวยับยั้ง (inhibitor) ที่มีศักยภาพในการต่อต้าน SARS-CoV-2 ในห้องปฏิบัติการ เพื่อดูว่าตัวยับยั้งนั้นสามารถชะลอการเติบโตของไวรัสได้หรือไม่  คณะทำงานได้พบว่า มีอย่างน้อย 1 ตัว ที่เป็นตัวยับยั้งเอนไซม์ทั้ง 7 ได้
    มี 3 โมเลกุล ที่พบว่าเป็นยาที่มีอยู่ในปัจจุบันซึ่งใช้รักษาโรคอื่น กล่าวคือ ยา lomeguatrib ใช้รักษาโรคมะเร็งผิวหนังเมลาโนมาและมีผลข้างเคียงน้อยมาก ยา suramin เป็นยารักษาโรคเหงาหลับอัฟริกัน (African sleeping sickness) และโรคพยาธิตาบอดหรือโรคตาบอดแถบแม่น้ำ (river blindness) และยา trifluperidol ใช้ในผู้ป่วยภาวะเมเนีย (mania) และโรคจิตเภท (schizophrenia) เนื่องจากมีข้อมูลความปลอดภัยของยาเหล่านี้อยู่แล้ว จึงมีความเป็นไปได้ที่จะพัฒนายาเหล่านี้ให้เป็นยาต้านไวรัส SARS-CoV-2 ได้เร็วขึ้น
    John Diffley ผู้นำการเขียนรายงานและรองผู้อำนวยการวิจัยและหัวหน้า Chromosome Replication Laboratory ที่สถาบัน Crick กล่าวว่า “เราได้พัฒนากล่องเครื่องมือข้อมูลทางเคมีเกี่ยวกับยา COVID-19 ใหม่ ๆ ที่มีศักยภาพ  เราหวังว่าจะดึงดูดความสนใจจากนักวิทยาศาสตร์ที่มีความชำนาญในการพัฒนายาและความชำนาญทางคลินิกที่จำเป็นต่อการทดสอบยาเหล่านี้ต่อไป และในที่สุดจะพบว่ายาใดจะเป็นยาที่มีความปลอดภัยและมีประสิทธิผลในการรักษา COVID-19
    ยังมีการทดสอบทั้ง 15 โมเลกุลร่วมกับยา remdesivir ซึ่งเป็นยาต้านไวรัสที่ใช้รักษาผู้ป่วย COVID-19  ในจำนวนนี้พบว่ามีอยู่ 4 โมเลกุล ซึ่งมีเป้าหมายที่เอนไซม์ Nsp14 mRNA Cap methyltransferase ของ SARS-CoV-2 ช่วยเสริมให้ประสิทธิผลของยาต้านไวรัสดีขึ้นจากการทดสอบทางห้องปฏิบัติการ
    ขณะนี้นักวิทยาศาสตร์วางแผนที่จะดำเนินการทดสอบเพื่อดูว่าการจับคู่ใด ๆ ของโมเลกุล 15 โมเลกุล ที่พบว่าช่วยลดการเติบโตของไวรัสมากกว่ากรณีที่ใช้โมเลกุลเพียงอย่างเดียว  การมุ่งเป้าที่เอนไซม์ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับการทำสำเนาเพิ่มจำนวนของไวรัส ยังสามารถช่วยเตรียมการสำหรับการระบาดของไวรัสในอนาคตด้วย
    “โปรตีนที่อยู่ภายนอกของไวรัสมีพัฒนาการที่รวดเร็ว แต่ภายในไวรัสต่างกลุ่มกันจะเป็นโปรตีนที่มีการอนุรักษ์ไว้อย่างดี ซึ่งจะมีการเปลี่ยนแปลงน้อยมากเมื่อเวลาผ่านไป” John กล่าวและว่า
    “ถ้าเราพัฒนายาที่ยับยั้งโปรตีนเหล่านี้ได้ ในสถานการณ์ระบาดในอนาคต ยาเหล่านี้จะเป็นปราการด่านแรกที่ทรงคุณประโยชน์อย่างมาก ก่อนที่จะมีวัคซีนออกมาให้ใช้