ปี 2562 กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายให้สถานพยาบาลเปิดให้บริการรักษาด้วยสารสกัดกัญชาทางการแพทย์แก่ผู้ป่วยที่มีข้อบ่งชี้ ซึ่งรวมถึงกลุ่มผู้ป่วยมะเร็งโดยคำนึงถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัยจากการใช้ยาเป็นสำคัญ ทำให้สารสกัดกัญชาทางการแพทย์เป็นหนึ่งในนวัตกรรมทางการแพทย์ที่สามารถช่วยบรรเทาอาการเจ็บป่วยของผู้ป่วยมะเร็งได้
นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า จากนโยบายดังกล่าว กรมการแพทย์ได้มอบหมายให้สถาบันมะเร็งแห่งชาติ เริ่มดำเนินการวิจัยทางคลินิกการใช้สารสกัดกัญชาทางการแพทย์ในผู้ป่วยมะเร็งเพื่อให้ทราบถึงประสิทธิผลและนำไปใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงเชิงนโยบายได้ จากนั้นได้มีการให้บริการกัญชาทางการแพทย์ในรูปแบบพิเศษ ณ คลินิกนวัตกรรมการแพทย์ผสมผสานด้านโรคมะเร็งมาตั้งแต่ เดือนเมษายน 2563 ในกลุ่มผู้ป่วยมะเร็งที่มีข้อบ่งชี้ ได้แก่ อาการคลื่นไส้อาเจียนจากเคมีบําบัด อาการรบกวนในผู้ป่วยมะเร็งระยะประคับประคองและระยะท้าย เช่น ปวด นอนไม่หลับและเบื่ออาหาร เป็นต้น จนถึงปัจจุบันได้มีการขยายบริการเป็น “คลินิกกัญชาทางการแพทย์แบบบูรณาการ”
นายแพทย์สกานต์ บุนนาค ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า การบริการกัญชาทางการแพทย์แบบ บูรณาการประกอบด้วย การให้คำปรึกษา การตรวจรักษาและสั่งจ่ายยาด้วยทีมสหวิชาชีพที่ผ่านการอบรมเฉพาะและมีความรู้ ความสามารถ มีบริการทั้งแพทย์แผนปัจจุบันและแผนไทย ด้วยผลิตภัณฑ์กัญชาจากแหล่งของกรมการแพทย์และองค์การเภสัชกรรม (สูตร High THC, High CBD, THC:CBD,1:1) และจากกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกคือ เดชาออยด์ ทั้งหมดเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนแล้วทั้งสิ้น หลักของบริการคือ บรรเทาอาการรบกวนจากโรคและการรักษาทำให้ผู้ป่วยมะเร็งมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น ผลของการรักษาทำให้ร้อยละ 60 ของผู้ป่วยมะเร็งมีอาการดีขึ้นหลังใช้กัญชาทางการแพทย์และไม่พบอาการอันไม่พึงประสงค์ที่รุนแรง ประสบการณ์บริการทำให้สถาบันมะเร็งแห่งชาติเชื่อมั่นว่า การใช้กัญชาทางการแพทย์อย่างถูกต้องและเหมาะสมโดยปราศจากอคติเชิงลบ สามารถช่วยให้ผู้ป่วยมะเร็งมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและมีความมั่นใจในการให้บริการกัญชาทางการแพทย์แก่ผู้ป่วยมะเร็งในทุกระยะได้อย่างปลอดภัย
นอกจากนี้ สถาบันมะเร็งแห่งชาติยังเปิดโอกาสการเข้าถึงสารสกัดกัญชาทางการแพทย์ทั้งด้านการแพทย์แผนปัจจุบันและการแพทย์แผนไทย ณ คลินิกนวัตกรรมการแพทย์ผสมผสานด้านโรคมะเร็ง โดยผู้สนใจหรือประสงค์ขอเข้ารับบริการสามารถติดต่อขอรับคำปรึกษาและนัดหมายล่วงหน้าผ่านช่องทางการติดต่อหน่วยบริการได้หลายช่องทาง ทั้งที่คลินิกโดยตรง ทางโทรศัพท์ หรือไลน์แอปพลิเคชั่น และในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด 19 หน่วยบริการได้เปิดบริการติดตามดูแลผู้ป่วยผ่านระบบออนไลน์ (DMS Telemedicine) ทำให้ผู้ป่วยได้รับบริการใกล้เคียงในภาวะปกติ ร่วมกับการจัดทำแนวทางการเบิกจ่ายผ่านกองทุนสุขภาพหลักของประเทศเพื่อให้ผู้ป่วยมะเร็งสามารถเข้าถึงบริการกัญชาทางการแพทย์ได้มากขึ้น และเป็นต้นแบบสำหรับหน่วยงานอื่นๆเพื่อการเข้าถึงกัญชาทางการแพทย์เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ สถาบันมะเร็งแห่งชาติร่วมกับภาคีเครือข่ายกำลังดำเนินการศึกษาวิจัยการใช้กัญชาทางการแพทย์เพื่อการรักษาโรคมะเร็งชนิดต่างๆ โดยมีการวิจัยทั้งในระดับเซลล์และสัตว์ทดลองและกำลังดำเนินโครงการวิจัยทางคลินิกในผู้ป่วยมะเร็งศีรษะและลำคอระยะ 3-4 ซึ่งจะเป็นข้อมูลทางวิชาการที่มีประโยชน์และส่งเสริมการใช้กัญชาทางการแพทย์อย่างถูกต้องและเหมาะสมในอนาคต