ฟอร์มาลีน สารตัวร้าย ใช้ผิดชีวิตเสี่ยงมะเร็ง


“ฟอร์มาลีน” (Formalin) หรือ ฟอร์มาลดีไฮด์ สารเคมีที่นำมาใช้ในงานต่างๆ ทั้งด้านอุตสาหกรรม การแพทย์ เคมี และการเกษตร หากนำไปใช้อย่างถูกวิธีจะเป็นประโยชน์ แต่หากใช้อย่างผิดวัตถุประสงค์ก็จะเกิดโทษภัยร้ายแรงตามมา ดังเช่นกรณีข่าวการตรวจพบเนื้อสัตว์แช่ฟอร์มาลีน ซึ่งเป็นความมักง่ายและเห็นแก่ตัวของผู้ประกอบการที่ไม่คำนึงถึงอันตรายต่อสุขภาพของผู้บริโภค  


นายแพทย์วีรวุฒิ อิ่มสำราญ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า การกรณีการเผยแพร่ข่าวการลักลอบผลิตวัตถุดิบชิ้นส่วนเนื้อสัตว์แช่ในถังน้ำผสมฟอร์มาลิน ส่งขายร้านหมูกะทะและร้านอาหารอีสาน ทำให้ผู้บริโภคมีความกังวลถึงการบริโภคหมูกะทะที่อาจกล่าวได้ว่าเป็นเมนูยอดฮิตที่นิยมทั้งแบบนั่งรับประทานที่ร้านและซื้อแบบชั่งกิโลตามตลาดสดนั้น สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับสารฟอร์มาลิน ดังนี้

 


ฟอร์มาลีน เป็นสารพิษชนิดหนึ่งประกอบด้วยก๊าซฟอร์มาลดีไฮด์ (formaldehyde) ละลายน้ำด้วยความเข้มข้น 37% โดยน้ำหนัก และมักผสมเมทานอลประมาณ 10-15% สารฟอร์มาลีนมีสถานะเป็นสารละลาย ไม่มีสี มีกลิ่นฉุนรุนแรง คุณสมบัติแตกต่างกันตามความเข้มข้นฟอร์มาลดีไฮด์ในน้ำและอัตราส่วนผสมของเมทานอล มีการนำฟอร์มาลีนมาใช้ประโยชน์หลายด้าน เช่น ใช้เป็นส่วนผสมของน้ำฆ่าเชื้อและน้ำยาทำความสะอาด ใช้ในอุตสาหกรรมกระดาษ อุตสาหกรรมสิ่งทอ และอุตสาหกรรมการผลิตสี นอกจากนี้ในทางการแพทย์มีการนำฟอร์มาลีนมาใช้สำหรับรักษาสภาพร่างกายของศพไม่ให้เน่าเปื่อย อย่างไรก็ตามไม่อนุญาตให้นำฟอร์มาลีนมาใช้ในการถนอมอาหาร


 


นายแพทย์สกานต์ บุนนาค ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า ประเทศไทยจัดให้สารฟอร์มาลดีไฮด์หรือฟอร์มาลีนเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 2 ตามพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 หากผลิต นำเข้า หรือมีไว้ครอบครองต้องขึ้นทะเบียน และเป็นสารห้ามใช้ในอาหารตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับที่ 151 (พ.ศ. 2536) เรื่อง กำหนดวัตถุที่ห้ามใช้ในอาหาร หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องมีการเฝ้าระวัง ตรวจติดตามการปนเปื้อนของฟอร์มาลดีไฮด์ในอาหารอย่างต่อเนื่อง จากรายงานขององค์การวิจัยมะเร็งนานาชาติ (International Agency for Research on Cancer; IARC) จัดให้สารฟอร์มาลดีไฮด์หรือฟอร์มาลีนเป็นสารก่อมะเร็ง Group 1 ซึ่งหมายถึงมีข้อมูลยืนยันแน่ชัดแล้วว่าสารชนิดนี้เป็นสารก่อมะเร็งในมนุษย์ โดยข้อมูลงานวิจัยที่ศึกษาในผู้ที่สัมผัสสารนี้ในปริมาณสูงอย่างต่อเนื่องยาวนาน เช่น คนงานในโรงงานอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง พบว่าสารนี้เป็นสาเหตุของมะเร็งเม็ดเลือดขาว (myeloid leukemia) และมะเร็งโพรงจมูก เป็นต้น อย่างไรก็ตามผลกระทบต่อสุขภาพจากการสัมผัสสารฟอร์มาลดีไฮด์/ฟอร์มาลีนนั้นเกี่ยวข้องกับหลายปัจจัย เช่น ปริมาณที่ได้รับเข้าสู่ร่างกายได้ทั้งจากการรับประทาน การหายใจ และทางผิวหนัง รวมถึงระยะเวลาที่สัมผัส สำหรับอาการเฉียบพลันจากการสัมผัสสารในความเข้มข้นระดับต่ำอาจทำให้เกิดอาการแพ้ต่าง ๆ เช่น การระคายเคืองในระบบทางเดินอาหาร คลื่นไส้อาเจียน อาการแสบจมูก ปวดศรีษะ ระคายเคืองในระบบทางเดินหายใจ เกิดผื่นคัน ผิวหนังคล้ำดำ มีอาการแสบคันตามผิวหนัง เป็นต้น