นายธนิตพล ไชยนันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย          นายแพทย์สุวรรณชัย  วัฒนายิ่งเจริญชัย  อธิบดีกรมอนามัย แพทย์หญิงศรินนา แสงอรุณ ผู้อำนวยการศูนย์อนามัยที่ 3 นครสวรรค์          และผู้บริหารกรมอนามัย ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมยกระดับความพร้อมพื้นที่ต้นแบบ “ชุมชนที่เป็นมิตรกับผู้สูงอายุ” ณ หอประชุมเทศบาลตำบลโกรกพระ อำเภอโกรกพระ จังหวัดนครสวรรค์ พร้อมร่วมงานฉลองเทศกาลตรุษจีนปากน้ำโพ 107 ปี ณ เวทีวัฒนธรรมตรุษจีนปากน้ำโพ เทศบาลนครนครสวรรค์

นายธนิตพล ไชยนันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขโดยกรมอนามัยร่วมกับเครือข่ายขับเคลื่อนมาตรฐานชุมชนที่เป็นมิตรกับผู้สูงอายุ : Age-Friendly Communities มุ่งเน้นการสร้างคุณภาพชีวิต  ให้ผู้สูงอายุใช้ชีวิตร่วมกับทุกคนในสังคมได้อย่างเท่าเทียม สะดวก และปลอดภัย รวมถึงมีการจัดสภาวะแวดล้อมที่เหมาะสม      และน่าอยู่สำหรับผู้สูงวัย โดยในปีงบประมาณ 2566 ได้เตรียมความพร้อม เพื่อยกระดับในชุมชนครอบคลุมจังหวัดละ 1 ชุมชน โดยพัฒนาตามหลักเกณฑ์ 8 องค์ประกอบ ขององค์การอนามัยโลก ได้แก่ 1) อาคารสถานที่ และบริเวณภายนอก 2) ระบบขนส่ง    และยานพาหนะ 3) ที่อยู่อาศัยของผู้สูงอายุ 4) การเข้าร่วมกิจกรรมทางสังคม5) การให้ความเคารพและการยอมรับ 6) การมีส่วนร่วมในฐานะพลเมือง และการจ้างงาน7) การสื่อสารและการให้ข้อมูล และ 8) การบริการชุมชนและบริการสุขภาพ      โดยในส่วนของอำเภอโกรกพระ จังหวัดนครสวรรค์ ถือเป็นหนึ่งในชุมชนต้นแบบที่ผ่านการประเมินคุณลักษณะพื้นฐาน  และพร้อมยกระดับการขับเคลื่อนตามมาตรฐานดังกล่าวด้วย

 “สำหรับการจัดงานเทศกาลตรุษจีนปากน้ำโพ 107 ปี นครสวรรค์ในปีนี้ คาดว่าจะมีประชาชนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวร่วมงานเป็นจำนวนมาก กระทรวงสาธารณสุขยังคงขอความร่วมมือพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีน ได้ปฏิบัติตามขอแนะนำ  ด้านความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะกลุ่ม 608 ที่เข้าร่วมงานขอให้ปฏิบัติดังนี้ 1) สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า เมื่ออยู่ในสถานที่ปิด อากาศถ่ายเทไม่สะดวก หรือต้องทำกิจกรรมที่มีคนร่วมกันจำนวนมาก 2) ล้างมือด้วยสบู่และน้ำ หรือเจลแอลกอฮอล์ทุกครั้งเมื่อสัมผัสวัตถุ หรือสิ่งของที่ใช้ร่วมกัน และให้หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสบริเวณใบหน้า 3) คัดกรองตนเองเมื่อมีอาการ หรือเมื่อมีความเสี่ยงด้วย ATK” ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าว

ทางด้าน นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า การจับจ่ายสินค้าในช่วงเทศกาลตรุษจีน กรมอนามัยยังคงเน้นย้ำเรื่องอาหารปลอดภัย โดยขอให้ประชาชนเลือกซื้ออาหารและวัตถุดิบจากแหล่งที่มีเครื่องหมายรับรอง ของราชการ โดยเฉพาะเป็ด ไก่ ต้องสดใหม่ ไม่มีสีคล้ำ ผิวหนัง หรือเครื่องใน ไม่มีจ้ำเลือด ส่วนเนื้อหมูต้องมีสีแดงธรรมชาติ เมื่อกดดูเนื้อไม่กระด้าง ไข่ไก่ และไข่เป็ด ควรเลือกฟองที่ดูสดใหม่ สะอาด สำหรับผักและผลไม้ ก่อนกินหรือนำมาปรุงอาหาร
ต้องล้างให้สะอาดทุกครั้ง โดยให้ล้างผ่านน้ำก๊อกที่ไหลนาน 2 นาที หรือแช่ในน้ำผสมเกลืออัตราส่วน 2 ช้อนโต๊ะต่อน้ำ 4 ลิตร หรือน้ำผสมน้ำส้มสายชู อัตราส่วนครึ่งถ้วยตวงต่อน้ำ 4 ลิตร หรือน้ำผสมโซเดียมไบคาร์บอเนต (เบคกิ้งโซดา) อัตราส่วน 1 ช้อนโต๊ะต่อน้ำ 4 ลิตร แช่ทิ้งไว้ 10–15 นาที จากนั้นล้างด้วยน้ำเปล่า 2 ครั้ง เพื่อความสะอาด และลดการปนเปื้อน สำหรับสถานประกอบการด้านอาหาร ได้แก่ ร้านอาหาร ตลาด โรงทานศาลเจ้า หรือสถานที่ที่มีการรวมกลุ่ม ควรยกระดับ
มาตรการป้องกันควบคุมโรคจากอาหารและน้ำเป็นสื่อ ได้แก่ อุจจาระร่วง อาหารเป็นพิษ รวมถึงโรคโควิด-19

        “นอกจากนี้ เพื่อเป็นการลดปริมาณฝุ่น PM 2.5 ให้เลือกใช้ธูปขนาดสั้น ลดระยะเวลาจุดธูป และดับให้เร็วขึ้น เลือกกระดาษเงิน กระดาษทอง ที่มีคุณภาพ แต่ควรลดปริมาณการเผา ลดควัน และลดฝุ่น หากต้องจุดธูปภายในบ้าน ควรเปิดประตู หน้าต่าง หรือจุดนอกบ้านในพื้นที่เปิดโล่ง สำหรับวัดหรือศาลเจ้า ควรตั้งกระถางธูปไว้นอกอาคาร หรือในที่ที่อากาศถ่ายเทสะดวก เมื่อเสร็จพิธีกรรม หรือหลังสัมผัสธูปหรือกระดาษเงิน กระดาษทอง ควรล้างมือ ล้างหน้า ล้างตา และเก็บกวาด
ก้านธูป ขี้เถ้า ใส่ถุงและมัดปากถุงให้แน่น ป้องกันการฟุ้งกระจายเข้าสู่ร่างกายและสิ่งแวดล้อม พร้อมนำไปกำจัดอย่างถูกต้อง” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว