ม.มหิดล คิดค้นกระบวนการดัดแปลงพื้นผิวโลหะเสริม "ซิลเวอร์นาโน" ยับยั้งเชื้อโรค

ปัญหาการติดเชื้อในโรงพยาบาลของผู้ป่วยเป็นสาเหตุสำคัญลำดับต้นๆ ของการครองเตียงในโรงพยาบาลนานขึ้น และส่งผลให้มีการเพิ่มอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยจำนวนไม่น้อย ทั้งโรงพยาบาลในประเทศไทย และหลายประเทศทั่วโลก
          โดยเฉพาะเชื้อแบคทีเรีย ปัจจัยหนึ่งที่เป็นสาเหตุของการแพร่กระจายเชื้อโรคต่อมาสู่ผู้ป่วย คือ การสะสมของเชื้อโรคบนอุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆ ที่อยู่รอบตัวผู้ป่วย
          ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.มัณฑนา จริยาบูรณ์ อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เจ้าของผลงานนวัตกรรมกระบวนการดัดแปลงพื้นผิวโลหะเสริม "ซิลเวอร์นาโน" ยับยั้งเชื้อ "อีโคไล" และ "สแตปฟิโลคอคคัส ออเรียส" ได้ด้วยตนเอง มีผลวิจัยเป็นที่ยอมรับจนได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิชาการนานาชาติ และอนุสิทธิบัตร ดำเนินการโดย สถาบันบริหารจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรม (iNT) มหาวิทยาลัยมหิดล
          จากการค้นคว้าร่วมกับนักวิจัยในห้องปฏิบัติการหน่วยวิจัยวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมพื้นผิว (Center for Surface Science and Engineering - SSE) คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล จนค้นพบนวัตกรรมใหม่ซึ่งสามารถเพิ่มคุณสมบัติการยับยั้งเชื้อ "อีโคไล" และ "สแตปฟิโลคอคคัส ออเรียส" ในกระบวนการทำอโนไดซ์ (anodizing) ดัดแปลงพื้นผิวโลหะอลูมิเนียมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน โดยใส่อนุภาคซิลเวอร์นาโนซึ่งมีคุณสมบัติยับยั้งเชื้อโรคลงไปในขั้นตอนก่อนการปิดรูพรุนในชั้นฟิล์ม
          จากการทดสอบประสิทธิภาพตามมาตรฐาน JIS Z 2801 พบว่า นวัตกรรมกระบวนการดัดแปลงพื้นผิวโลหะเสริม "ซิลเวอร์นาโน" ยับยั้งเชื้อโรคที่คิดค้นขึ้นดังกล่าว สามารถยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย "อีโคไล" และ "สแตปฟิโลคอคคัส ออเรียส" ได้ถึง 100%
          รวมทั้งสามารถขัดถูและทนต่อสารเคมีได้ดีเยี่ยม โดยที่ยังคงไว้ซึ่งประสิทธิภาพในการยับยั้งเชื้อ นวัตกรรมนี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ที่ "จุดสัมผัสร่วม" ซึ่งเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค และบ่อยครั้งที่การทำความสะอาดอาจไม่ทั่วถึง อาทิ บริเวณแผ่นโลหะที่ติดอยู่บนบานประตูของโรงพยาบาล ลูกบิด กรอบประตู ฯลฯ
          นอกจากนี้ ทางผู้วิจัยเตรียมผลิตเป็น "ถาดวางเครื่องมือแพทย์ยับยั้งเชื้อโรค" และต่อยอดให้มีคุณสมบัติที่สามารถยับยั้งเชื้อโรคที่พบบ่อยชนิดอื่นๆ อาทิ โรคไข้หวัดใหญ่ โรคมือเท้าปาก รวมทั้งโรค COVID-19 ได้ต่อไปในอนาคต
          ทั้งนี้ ผลงานดังกล่าวเป็นเพียงจากการทดสอบในห้องปฏิบัติการ หากนำไปใช้จริงจะต้องมีการทดสอบการแพ้ และยื่นขออนุญาต สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ก่อน
          ซึ่งนอกจากสามารถใช้กับอุปกรณ์ทางการแพทย์ และสิ่งของต่างๆ ที่จำเป็นภายในโรงพยาบาลแล้ว ยังสามารถประยุกต์ใช้กับสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ในชีวิตประจำวัน ซึ่งรวมถึง "เคสโทรศัพท์มือถือ" ตลอดจนในอุตสาหกรรมการผลิตอาหาร และฟาร์มปศุสัตว์ เป็นต้น เพื่อลดการสะสมของเชื้อโรคได้ต่อไปอีกด้วย
          อย่างไรก็ดี แม้ซิลเวอร์นาโนจะมีคุณสมบัติที่ดีในการยับยั้งเชื้อโรค และมีการนำไปประยุกต์ใช้กันอย่างแพร่หลายเช่นปัจจุบัน แต่ยังพบข้อกังวลในเรื่องผลกระทบจากการปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อม
          ที่ผ่านมาแม้จะมีการใช้วัสดุจากธรรมชาติมาช่วยลดข้อจำกัดดังกล่าว แต่ยังพบให้ผลลัพธ์ได้ไม่เทียบเท่า จึงเป็นโจทย์ท้าทายที่รอคอยนักวิทยาศาสตร์มาทำให้เกิดความยั่งยืนต่อไป

ติดตามข่าวสารที่น่าสนใจจากมหาวิทยาลัยมหิดลได้ที่ www.mahidol.ac.th
สัมภาษณ์ และเขียนข่าวโดย ฐิติรัตน์ เดชพรหม นักประชาสัมพันธ์ (ชำนาญการ)
งานสื่อสารองค์กร กองบริหารงานทั่วไป สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยมหิดล โทร. 0-2849-6210