กรมอนามัย เตือนเทรนด์เครื่องดื่มสะเทือนวงการ “อิ๊วโซดา”

www.rodweekly.com

กรมอนามัย เตือน กระแสเครื่องดื่ม“อิ๊วโซดา” ควรอ่านฉลากให้รอบคอบก่อนทำตามกระแส มิเช่นนั้น อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ ย้ำ ซีอิ๊วควรใช้ให้เหมาะตามวัตถุประสงค์


                ดร.นายแพทย์สราวุฒิ บุญสุขรองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากกรณีมีการคิดสูตรเทรนด์เครื่องดื่มใหม่“อิ๊วโซดา” ที่กำลังเป็นกระแสในโลกโซเชียลโดยการนำซีอิ๊วดำสูตรเฉพาะ(สูตรราดบนไอศกรีม) 3 ช้อนโต๊ะผสมกับเครื่องดื่มโซดา 1 กระป๋อง เพื่อดื่มคลายร้อน ซึ่งซีอิ๊วนี้มีส่วนประกอบหลัก คือน้ำตาลทรายร้อยละ 56  กลูโคสไซรัปร้อยละ 13.4 และซีอิ๊ว(soy sauce ) ร้อยละ 13.6 จากส่วนผสมดังกล่าว หากผสมซีอิ๊ว3 ช้อนโต๊ะ เครื่องดื่มแก้วนั้นจะมีปริมาณน้ำตาลสูง ซึ่งข้อมูลจาก สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย สำรวจพบ คนไทยกินน้ำตาลมากถึง 25 ช้อนชาต่อวัน ซึ่งเกินกว่าที่องค์การอนามัยโลก (WHO) กำหนด คือ ไม่ควรกินน้ำตาล
เกิน 6 ช้อนชาต่อวันซึ่งหากประชาชนนำซีอิ๊วดำที่ผลิตสำหรับใช้เป็นเครื่องปรุงรสมาทำตามอัตราส่วนดังกล่าว เครื่องดื่มแก้วนั้นจะมีโซเดียมสูงถึง 3,600 มิลลิกรัม (ซีอิ้วดำ 1 ช้อนโต๊ะมีโซเดียมประมาณ 1,200 มิลลิกรัม)  ซึ่งเกินกว่าปริมาณที่เหมาะสมต่อร่างกาย ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลกเพื่อการมีสุขภาพที่ดีกำหนดให้บริโภคโซเดียมไม่เกิน 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน หรือเทียบเท่าเกลือ 1 ช้อนชา หรือ 5 กรัม หรือน้ำปลาไม่เกิน 4 ช้อนชา หรือคิดเป็นปริมาณซีอิ๊วดำไม่เกิน 6 ช้อนชาต่อวัน


ดร.นายแพทย์สราวุฒิ กล่าวต่อไปว่า ปกติร่างกายจะได้รับน้ำตาล โซเดียมจากอาหารที่บริโภคทั่วไป
ในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว ประชาชนจึงควรระมัดระวังการดื่มเครื่องดื่มที่จะทำให้ร่างกายได้รับน้ำตาลและโซเดียมเพิ่มขึ้นอีกทั้งโซดา (Soda) เป็นเครื่องดื่มที่มีการอัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ละลายอยู่ในน้ำ ทำให้มีความซ่าจึงช่วยให้รู้สึกสดชื่น กะปรี้กะเปร่า แต่โซดายังมีฤทธิ์เป็นกรดหากดื่มตอนท้องว่างจะทำให้เกิดการระคายเคืองกระเพาะอาหาร และโซดายังเต็มไปด้วยก๊าซที่ทำให้อิ่มเร็ว การดื่มเครื่องดื่มที่ผสมโซดามากเกินไป อาจทำให้ร่างกายได้รับน้ำเปล่าไม่เพียงพอ โดยเฉพาะในช่วงที่อากาศร้อนจัด ควรดื่มน้ำเปล่าที่ไม่เย็นจัด เพื่อคลายร้อน
และช่วยลดอุณหภูมิของร่างกายป้องกันโรคลมแดด (heat stroke)


“ทั้งนี้ประชาชนควรทำความเข้าใจให้ดีก่อนตัดสินใจทำตามกระแส แม้ว่าจะมีการผลิตซีอิ๊วดำสูตรเฉพาะเพื่อนำมาใช้ แต่การนำซีอิ๊วชนิดนี้มาใช้มีข้อควรระวังสำหรับผู้ที่แพ้ถั่วเหลืองหรือกลูเต้น สำหรับซีอิ๊วดำทั่วไปจัดเป็นผลิตภัณฑ์ประเภทเครื่องปรุงรสที่มีรสเค็ม แม้ว่าจะมีปริมาณโซเดียมน้อยกว่า เกลือและน้ำปลา ก็ควรจะใช้เพื่อปรุงรสอาหารเพียงเล็กน้อยเท่านั้นแต่หากนำมาทำเป็นเครื่องดื่มอาจทำให้ร่างกายได้รับโซเดียมสูงมากเกินไป  ซึ่งจะส่งกระทบกับสุขภาพ ปัจจุบันมีการผลิตซีอิ๊วออกมามากมายหลายสูตรเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค จึงควรเลือกใช้ให้เหมาะตามวัตถุประสงค์การเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ครื่องปรุงรส ควรอ่านฉลากก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ เพื่อให้เกิดความมั่นใจในคุณภาพและบริโภคได้อย่างปลอดภัย สำหรับผู้ที่เป็นโรคไต หรือโรคความดันโลหิตสูง
ควรหลีกเลี่ยงการบริโภคอาหารที่มีเกลือในปริมาณสูงหรือบริโภคในปริมาณที่จำกัด” รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าว