ผู้สูงอายุปลื้ม โครงการฟันเทียม รากฟันเทียม เฉลิมพระเกียรติฯ ช่วยให้มีฟันกลับมาเคี้ยวอาหารได้อีกครั้ง ชี้ฝังรากฟันเทียมแล้วคุณภาพชีวิตดีขึ้น รู้สึกมั่นใจเวลายิ้มหรือพูดคุย ทานอาหารได้หลากหลายมากขึ้น แนะผู้สูงอายุที่มีปัญหาสูญเสียฟันมารับบริการรากฟันเทียมฟรี
โครงการฟันเทียม รากฟันเทียมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 72 พรรษา 28 กรกฎาคม 2567 เป็นความร่วมมือระหว่างกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) มูลนิธิทันตนวัตกรรม ตลอดจนหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้บริการฟันเทียมและรากฟันเทียมแก่ผู้สูงอายุที่สูญเสียฟันจนไม่สามารถบดเคี้ยวอาหารได้ โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มีผู้สูงอายุจำนวนมากได้รับฟันเทียมและรากฟันเทียมฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย และสามารถกลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอีกครั้ง
นายธงชัย ระฆัง ผู้ใช้สิทธิบัตรทองที่รับบริการฟันเทียมและรากฟันเทียมจากโรงพยาบาลแม่วงก์ จ.นครสวรรค์ กล่าวว่า ฟันบนของตนหลุดไปหลายซี่ เมื่อมีโครงการนี้เกิดขึ้น ทันตแพทย์จึงแนะนำให้ฝังรากฟันเทียม เมื่อฟังคำแนะนำแล้วตนจึงตัดสินใจเริ่มดำเนินการในวันนั้นเลย เริ่มจากการถอนฟันที่เหลือออกแล้วใส่รากฟันเทียม หลังจากนั้นประมาณ 1 เดือน ทันตแพทย์ก็นัดให้มาใส่ฟันเทียม ปัจจุบันตนใส่มาได้ 2-3 สัปดาห์แล้ว รู้สึกมั่นใจมากขึ้นเวลายิ้มหรือพูดคุย แต่ยังมีปัญหาในการเคี้ยวอาหารเพราะรู้สึกว่าขอบฟันเทียมยังกดเหงือก ต้องค่อยๆ เคี้ยว ทันตแพทย์จึงนัดให้มาแก้ไขอีกครั้ง
เช่นเดียวกับ นางบุญยืน ยอดทองหลาง หนึ่งในผู้สูงอายุที่รับการฝังรากฟันเทียมจากโรงพยาบาลแม่วงก์ กล่าวว่า ตนมีอาการโยกและปวดจี๊ดๆ เลยไปถอนฟันออก พอไม่มีฟันก็เคี้ยวอะไรก็ไม่ได้ เคี้ยวข้าวก็ไม่แหลก ทันตแพทย์จึงแนะนำให้ฝังรากฟัน ซึ่งในตอนแรกก็จะไม่ทำเพราะรู้สึกกลัว แต่พอมาทำจริงก็ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด และเมื่อทำแล้วสามารถทานข้าวได้ดีกว่าเดิม อีกทั้งไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายด้วย ต้องขอบคุณทันตแพทย์โรงพยาบาลแม่วงก์อย่างมากที่ช่วยฝังรากฟันเทียมให้
ขณะที่ นายสำรวย ธรรมมุนี คนไข้อีกหนึ่งรายที่รับการฝังรากฟันเทียมจากโรงพยาบาลแม่วงก์ กล่าวว่า ด้วยความที่ตนอายุมาก ฟันเริ่มมีสภาพไม่ดี เจ็บปวดจนต้องซื้อยาแก้ปวดทานเอง หนักเข้าก็ต้องไปที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) เพื่อถอนฟันออก ไปถอนฟันอยู่หลายครั้งจนสูญเสียฟันหมดทั้งปาก ทำให้รู้สึกหมดความมั่นใจ ที่สำคัญคือไม่มีฟันไว้เคี้ยวอาหารแข็งๆ เคี้ยวอะไรก็ไม่ละเอียด ประกอบกับตนทำงานที่ใช้แรง เมื่อทานอาหารได้ไม่เต็มที่ร่างกายก็ซูบลง
“ตอนแรกก็ไปที่ รพ.สต.ก่อน แต่สุดท้ายก็ต้องมาให้โรงพยาบาลแม่วงก์ใส่รากฟันเทียมให้ เพราะมั่นใจในฝีมือหมอที่มาตรฐานในการรักษา พอใส่รากฟันเทียมและฟันเทียมแล้วก็มั่นใจ เคี้ยวอะไรก็สะดวก พอเห็นว่ามันดีแบบนี้ก็เลยแนะนำทั้งภรรยาและน้องสะใภ้ให้มาใส่รากฟันเทียมด้วย”นายสำรวย กล่าว
นายเล็ก พู่ระหง อีกหนึ่งคนไข้ที่รับการฝังรากฟันเทียมจากโรงพยาบาลแม่วงก์ กล่าวว่า ตนเริ่มจากมีอาการปวดฟันมาก มีโรคเหงือกอักเสบร่วม เคี้ยวอาหารไม่ได้เลย จึงมาถอนฟันที่โรงพยาบาลแม่วงก์แล้วทันตแพทย์แนะนำว่าควรฝังรากฟันเทียม ไม่อย่างนั้นถ้าอายุมากจะมีปัญหา ตนจึงตัดสินใจใส่รากฟันเทียมเลย
“เคยไปถามคลินิก เขาบอกว่าแพงมาก หมื่นกว่าบาท เราก็ตกใจ แต่มาที่โรงพยาบาลแม่วงก์ไม่เสียเงิน ตอนนี้ฝังรากฟันเทียมและใส่ฟันเทียมมา 1 สัปดาห์แล้ว รู้สึกดีใจมาก เวลาพูดคุย เวลายิ้มก็มั่นใจมากขึ้น ใบหน้าดูดีขึ้น การทานอาหารเริ่มเคี้ยวได้ ก็อยากแนะนำคนที่มีปัญหาในช่องปากว่ามาทำเถอะแล้วชีวิตจะดีขึ้น ทานอาหารได้อีกเยอะ”นายเล็ก กล่าว
ด้าน นางสาคร บุญยง กล่าวว่า ตนมาถอนฟันแล้วลูกสะใภ้กับทันตแพทย์แนะนำให้ฝังรากฟันเทียม ตนก็เลยตกลงทำ พอทำแล้วก็รู้สึกแน่นดี กลับบ้านแล้วไม่มีปัญหาการใช้งานเลย ทานอาหารได้ทุกอย่างแล้วจากเดิมที่เมื่อก่อนเคี้ยวไม่ได้เลย พอกลับมาเคี้ยวข้าวได้แล้วมีความสุขมาก
นางสาคร กล่าวด้วยว่า การใส่รากฟันเทียมนี้ ตนเคยไปถามที่คลินิกถึงได้ทราบว่าราคาเป็นหมื่นบาท โครงการนี้จึงถือเป็นโครงการที่เป็นประโยชน์กับประชาชน คนมีเงินน้อยก็รับการฝังรากฟันเทียมได้ ไม่เสียเงิน
เช่นเดียวกับ นายสุรัตน์ พลวุฒิไกร อีกหนึ่งผู้ป่วยที่รับการรักษาจากโรงพยาบาลแม่วงก์ กล่าวว่า ตนสูญเสียฟัน ไม่มีฟันมานานแล้วและอยากใส่ฟันเทียมมาตลอด พอมีโครงการนี้เกิดขึ้นจึงมาสอบถามที่โรงพยาบาลแล้วก็ได้ทำเลย พอได้ใส่แล้วรู้สึกดีมาก
“ขอบคุณมากที่มีโครงการนี้ขึ้นมาช่วยเหลือผู้สูงวัยให้ได้รับรากฟันเทียม มีฟันแล้วมั่นใจมาก การพูดคุย การทานอาหาร มีคุณภาพชีวิตดีขึ้น ก็อยากอยากบอกคนอื่นๆ ที่มีปัญหาแบบเดียวกันว่าทำแล้วดีมาก ดีกว่าไม่ได้ทำ”นายสุรัตน์ กล่าว