นายแพทย์ยงยศ ธรรมวุฒิ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข รักษาราชการแทนอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ มอบนโยบายและแนวทางการดำเนินงานให้กับผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ในส่วนกลาง และศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ส่วนภูมิภาคทั้ง 15 แห่ง ว่า กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เป็นหน่วยงานสังกัดกระทรวงสาธารณสุขที่มีหน้าที่และความรับผิดชอบโดยตรงในการให้บริการตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการ มีการศึกษาวิจัย และพัฒนาองค์ความรู้และเทคโนโลยีด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ เพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหาสาธารณสุขของประเทศ มีการพัฒนาระบบคุณภาพตามมาตรฐานสากลของห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ และห้องปฏิบัติการรังสีวินิจฉัยในประเทศไทย การตรวจวิเคราะห์ประเมินความเสี่ยงผลิตภัณฑ์สุขภาพ เพื่อแจ้งเตือนภัยและคุ้มครองสุขภาพของประชาชน ทั้งนี้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ พร้อมพัฒนางานด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ และสนับสนุนนโยบายกระทรวงสาธารณสุข พ.ศ. 2567 Quick Win 100 วัน เพื่อผู้บริโภคปลอดภัย เครือข่ายสุขภาพแข็งแรง คนไทยสุขภาพดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง การเพิ่มศักยภาพห้องปฏิบัติการในการตรวจคัดกรอง เพื่อวินิจฉัยและรักษาโรคมะเร็ง โดยการตรวจยีน BRCA1/BRCA2 สาเหตุมะเร็งเต้านมในผู้หญิง 10,000 รายต่อปี การตรวจมะเร็งปากมดลูก HPV DNA 14 สายพันธุ์ รองรับการฉีดวัคซีนและการรักษาระยะยาว พัฒนาห้องปฏิบัติการศูนย์ความเป็นเลิศด้านสุขภาพแม่และเด็ก (Laboratory Excellent Center for Mother & Child Health) เพื่อตรวจคัดกรองสุขภาพแม่และเด็ก และการดูแลตลอดทุกช่วงวัย เพิ่มประสิทธิภาพการตรวจและคัดกรองวัณโรค ด้วยวิธีทางชีวโมเลกุล (Molecular) ในประชากรกลุ่มเสี่ยง โดยผลักดัน การใช้ชีวโมเลกุลในการตรวจวินิจฉัยให้ครอบคลุมทุกเขตสุขภาพ การตรวจวัณโรคดื้อยา การติดตามการระบาดตามชายแดนและพื้นที่เฉพาะ จัดทำ National Essential Diagnostic List (NEDL) สำหรับสถานพยาบาลในแต่ละระดับ เพื่อให้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงานของประเทศ พร้อมสร้างเครือข่ายห้องปฏิบัติการสู่ชุมชน และความรอบรู้ด้านสุขภาพ บูรณาการข้อมูลสุขภาพ iLab Plus แอปพลิเคชั่นผูกพัน Human genomic Thailand และเชื้อดื้อยาต้านจุลชีพ (AMR) พัฒนาห้องปฏิบัติการรองรับข้อกำหนดตามกฎหมายในการขึ้นทะเบียนและส่งเสริมภาคอุตสาหกรรม เพิ่มขีดความสามารถในการตรวจผลิตภัณฑ์สุขภาพ ให้มีคุณภาพและความปลอดภัย เพื่อแข่งขันในตลาดโลกได้ และพัฒนาห้องปฏิบัติการตามมาตรฐานสากล ด้าน OECD GLP ส่งเสริม Soft power ในการท่องเที่ยว ทั้ง OTOP/SMEs โดยยกระดับผลิตภัณฑ์สมุนไพร ยา อาหาร เครื่องสำอาง ให้ได้มาตรฐานสากล สร้างรายได้ให้กับชุมชนและพัฒนามาตรฐานอาหารริมบาทวิถี หรือสตรีทฟู้ด (Street food) และในขณะเดียวกันสร้างขวัญกำลังใจรวมทั้งส่งเสริมให้เจ้าหน้าที่เติบโตในสายงาน
นายแพทย์ยงยศ กล่าวต่ออีกว่า สำหรับการขับเคลื่อนกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ พ.ศ. 2567 ได้มอบแนวทางการดำเนินงานใน 10 ประเด็นมุ่งเน้น ได้แก่ 1) พัฒนาศักยภาพของศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ทุกแห่งให้เป็น Excellent center สามารถให้บริการได้ครอบคลุมชุดสิทธิประโยชน์ 2) การจัดการโรคที่เป็นปัญหาสำคัญด้านสาธารณสุข โดยนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ เช่น วัณโรค และมะเร็ง 3) พัฒนาการตรวจคัดกรองแม่และทารกให้ครอบคลุม โรคหายาก (IEM) ตรวจกลุ่มอาการดาวน์ในหญิงตั้งครรภ์ และโรคธาลัสซีเมีย 4) พัฒนาศักยภาพห้องปฏิบัติการให้รองรับรายการทดสอบที่ประกาศตามกฎหมายของประเทศ เพื่อคุ้มครองผู้บริโภค 5) ผลักดันและสร้างเศรษฐกิจจากผลิตภัณฑ์สุขภาพ สมุนไพร ยา เครื่องสำอาง อาหาร 6) สร้างความมั่นใจในการตรวจหาโรคที่เป็นปัญหาในแหล่งท่องเที่ยว เชื้อโนโรไวรัส (Norovirus) และเชื้อลีจิโอเนลลา (Legionella spp.) และอาหารปลอดภัย 7) ผลักดัน พ.ร.บ.ห้องปฏิบัติการและจัดทำ National Essential Laboratory List เพื่อเป็นมาตรฐานของโรงพยาบาลในระดับ Primary/Second และ Tertiary 8) สนับสนุนการแพทย์จีโนมิกส์ (Genomic Medicine) หรือการแพทย์แม่นยำ (stems cell, cell therapy, immunotherapy, gene therapy) และพัฒนาห้องปฏิบัติการตรวจรับรองมาตรฐาน ATMP ของประเทศไทย 9) จัดตั้งธนาคารทรัพยากรชีวภาพแห่งชาติ (National Biobank) พร้อมระบบบริหารจัดการ และ10) สร้างขวัญกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ของกรมฯร่วมกันทำงานอย่างมีความสุขและมีประสิทธิภาพ เพื่อพัฒนางานวิทยาศาสตร์การแพทย์ ในการสนับสนุนการวินิจฉัย รักษาโรค คุ้มครองประชาชนด้านสุขภาพ และกรมฯ คงไว้ซึ่งระบบมาตรฐาน ทั้งในระดับชาติ และสากล พัฒนานวัตกรรมเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ต่อระบบสุขภาพของประเทศ โดยมีการถ่ายทอดหรือต่อยอดให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อสุขภาพที่ดีของประชาชน