คงจะดีไม่น้อยถ้าจะมีที่พึ่งพิงให้ผู้ป่วยมะเร็ง ที่ซึ่งไม่เพียงเป็นดูเเค่โรคทางกาย แต่ยังดูแลถึงจิตใจ ให้กำลังใจและเข้าใจผู้ป่วย ดูแลรักษาโรคมะเร็งตั้งแต่ระยะเริ่มต้นจนระยะท้ายและดูแลใส่ใจไปถึงครอบครัว และรับฟังความเห็นของคนในครอบครัว และที่สำคัญควรเป็นโรงพยาบาลที่ใครก็สามารถเข้าถึงได้ ค่ารักษาพยาบาลไม่แพงจนเกินไป
รศ.นพ.คมกริช ฐานิสโร รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มโรงพยาบาลแพทย์รังสิต ได้กล่าวเริ่มต้นกับเราในวันที่พบกันครั้งแรก โรงพยาบาลแพทย์รังสิตเริ่มต้นดำเนินการมาเกือบ 40 ปี จากโรงพยาบาลเล็กๆในบริเวณจังหวัดปทุมธานี ขยายกิจการจนมีโรงพยาบาลแม่และเด็กแพทย์รังสิต และโรงพยาบาลทั่วไปเเพทย์รังสิต 2
นายรณชิต แย้มสอาด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แพทย์รังสิตเฮลท์แคร์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้ตอกย้ำเจตนารมณ์กับเราว่า "เราเป็นบริษัทที่เน้นความมีธรรมาภิบาลและความยั่งยืน จะดำเนินธุรกิจอยู่บนความสมดุลกับจริยธรรมทางการแพทย์"
ในปัจจุบันกลุ่มรพ.เเพทย์รังสิต ได้ขยายการลงทุนเป็นบริษัทมหาชนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา และได้ตั้งเป้าหมายใหม่ในการก่อตั้งโรงพยาบาลมะเร็งเเบบครบวงจรทั้งด้านมาตรฐานการรักษาและเทคโนโลยีใหม่ๆ โดยในปัจจุบันได้เริ่มการให้บริการเคมีบำบัด การตรวจมะเร็งทั่วไป ในปีหน้าจะเปิดศูนย์มะเร็งเต้านม และมะเร็งนรีเวช พร้อมๆกับการก่อสร้างตึกใหม่ในบริเวณริมถนนวิภาวดีรังสิต ซึ่งจะพร้อมให้บริการในต้นปี 2568 จะเปิดบริการผู้ป่วยทั้งเชิงป้องกัน รักษาและฟื้นฟูผู้ป่วยมะเร็ง มีศูนย์การรักษาผ่านหลอดเลือด ศูนย์รังสีรักษา รวมทั้งหอผู้ป่วยมะเร็งเฉพาะทาง ขณะนี้ได้มีการทาบทามติดต่อแพทย์เฉพาะทางหลากหลายสาขาเข้ามาร่วมงาน ซึ่งนับเป็นการประกาศความพร้อมว่าโรงพยาบาลแพทย์รังสิต จะเป็นโรงพยาบาลของทุกคน ทุกจังหวัดไม่เพียงแค่เป็นโรงพยาบาลในจังหวัดปทุมธานีอีกต่อไป
นายแพทย์กฤชรัตน์ ตระกูลช่าง ที่ปรึกษาและรักษาการผู้อำนวยการโรงพยาบาลแพทย์รังสิต 2 ผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลได้ย้ำให้เราฟังว่า "สิ่งที่เรายึดมั่นมาตลอดเกือบ 40 ปี นอกจากในเรื่องประสิทธิภาพมาตรฐานการรักษา เรายังยึดถือจรรยาบรรณ และความยุติธรรมโดยเฉพาะในเรื่องของราคาค่ารักษาพยาบาลที่ไม่แพง"
โครงการก่อตั้งโรงพยาบาลมะเร็งเเห่งนี้ ยังมีแนวทางการรักษาในมาตรฐานหลัก ทั้งการผ่าตัดที่ทันสมัย การฉายแสง การให้เคมีบำบัด การใช้ยามุ่งเป้า และการรักษาด้วยภูมิบำบัด แต่จะเสริมด้วยการรักษาทางเลือกไม่ว่าจะเป็นการใช้ความร้อน ความเย็น คลื่นเสียง การใช้ธรรมชาติบำบัด การใช้พฤติกรรมบำบัด การมีกิจกรรมกลุ่ม การใช้อาสาสมัคร หรือกิจกรรมเพื่อนช่วยเพื่อน ทั้งหมดนี้จะเป็นสิ่งที่เสริมให้ผลการดูแลรักษาผู้ป่วยมะเร็งดียิ่งขึ้นไปกว่าสิ่งที่เคยทำกันมาในอดีต
ไม่เพียงแต่เรื่องของมาตรฐานการรักษา แต่โรงพยาบาลแห่งนี้ จะเปลี่ยนวิธีคิดในการดูแลผู้ป่วย จากการที่ใช้แพทย์เป็นศูนย์กลาง แพทย์เป็นพระเจ้า ตัดสินความเป็นความตายของผู้ป่วย เปลี่ยนมาเป็นใช้ผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง มีการรับฟังความคิดเห็นของผู้ป่วยและครอบครัว มีการหารือกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์หลากหลายสาขาสหวิชาชีพ ประชุมหารือกันจนได้ข้อสรุปก่อนที่จะนำมาคุยกับผู้ป่วยและครอบครัวเป็นผู้ร่วมตัดสินใจในวางเเผนการรักษา หรือกระทั่งการยุติการรักษา
โรงพยาบาลจะสร้างสิ่งแวดล้อมและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่จะเอื้อต่อผู้ป่วยทุกระยะโรค โดยเฉพาะผู้ป่วยในระยะท้าย โรงพยาบาลมะเร็งแพทย์รังสิตมีทีมดูแลผู้ป่วยแบบประคับประคองและผู้ป่วยระยะท้าย หรือ palliative care ที่เข้มแข็ง
"เราไม่ได้เป็นเพียงแค่แพทย์แต่เรายังเป็นเพื่อนของผู้ป่วย เป็นเพื่อนของครอบครัว เรามีหน้าที่ดูแลรักษาเขาตั้งแต่วันแรกจนวันที่เค้าหายหรือดีขึ้นหรือแม้กระทั่งถึงวันสุดท้ายในชีวิต ให้เค้ามีชีวิตที่มีคุณภาพ มีศักดิ์ศรี แม้หากถ้าเค้าต้องเสียชีวิตลงก็ให้เสียชีวิตลงด้วยความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์"
รศ.นพ.คมกริช ฐานิสโร ได้กล่าวปิดท้ายพร้อมกับความเชื่อมั่น และสัญญากับเราว่า จะได้มีโอกาสเห็นโรงพยาบาลมะเร็ง ที่สมบูรณ์แบบแห่งนี้ในระยะอันใกล้อย่างแน่นอน