เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2567 ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์) ในฐานะผู้แทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ปรึกษาหารือร่วมกับนายกสภาการพยาบาลและคณะ เพื่อหาแนวทางการแก้ปัญหาการขาดแคลนพยาบาลทั้งระบบ โดยมีความเห็นร่วมกันในเรื่องการธำรงรักษากำลังคนทางการพยาบาลไว้ในระบบบริการสุขภาพ มีระบบการดูแลที่เหมาะสม การดึงศักยภาพพยาบาลอาวุโสหรือพยาบาลที่อยู่นอกระบบริการเข้ามาทำงาน การพัฒนาความก้าวหน้า การพัฒนาคุณภาพชีวิต การดูแลสวัสดิการความเป็นอยู่ โดยสภาการพยาบาลมีข้อเสนอในการแก้ปัญหา ทั้งระยะสั้นและปานกลาง ดังนี้
ข้อเสนอมาตรการระยะสั้นในระยะ 1-2 ปี เร่งรัดการเติมกำลังคนเข้าสู่ระบบ
1. พัฒนาตำแหน่งงานที่มีคุณค่าและระบบการจ้างงานพยาบาลอาวุโสที่มีความรู้และความเชี่ยวชาญ ร่วมกับการฝึกอบรมเพื่อให้มีทักษะใหม่ หรือเพิ่มทักษะที่จำเป็น
2. ส่งเสริมระบบการจ้างงานแบบบางเวลาในภาครัฐ ที่มีประสิทธิภาพและจูงใจพยาบาลวิชาชีพที่ออกจากงานไปแล้วสามารถเลือกเวลาที่จะกลับเข้ามาทำงานได้
ข้อเสนอมาตรการระยะปานกลาง ในช่วง 1-5 ปี เพิ่มการคงอยู่เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต การกระจายและใช้ประโยชน์กำลังคนที่มีอยู่อย่างคุ้มค่า ดังนี้
1. วางแผนผลิตกำลังคนทางการพยาบาลในภาพรวมของประเทศ เพื่อรองรับนโยบายการพัฒนาของประเทศ แบบมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ทั้งผู้ใช้และผู้ผลิต เร่งรัดพัฒนาศักยภาพการผลิต ทั้งการพัฒนาอาจารย์พยาบาล การสรรหา การธำรงรักษา และสร้างแรงจูงใจในการเพิ่มอาจารย์ใหม่
2. เพิ่มประสิทธิภาพการกระจาย การใช้ประโยชน์ และการธำรงรักษากำลังคนไว้ในระบบบริการสุขภาพของกระทรวงสาธารณสุข โดยจัดระบบการหมุนเวียนงาน การเพิ่มแรงจูงใจในงานบริการสุขภาพในระดับปฐมภูมิ จัดระบบเพิ่มพูนทักษะวิชาชีพแก่พยาบาลจบใหม่ ก่อนออกไปทำงานในหน่วยงานต้นสังกัดที่ให้ทุนการศึกษา เชิดชูเกียรติพยาบาลวิชาชีพที่ทำหน้าที่ครูพี่เลี้ยงหรืออาจารย์ร่วมผลิต ส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรมด้านการบริหารงานบุคคล เช่น Mid-Career recruitment strategy เพื่อรับพยาบาลที่มีทักษะ ความรู้ความเชี่ยวชาญสูงจากหน่วยงานต่างสังกัด เข้าทำงาน
3. สร้างแรงจูงใจและความผูกพันองค์กร โดยเร่งรัดมาตรการสร้างความปลอดภัยในการทำงานของบุคลากร การออกแบบกระบวนการทำงานเพื่อให้ผู้ป่วยปลอดภัย บุคลากรปลอดภัย สนับสนุนความก้าวหน้าในการทำงานอย่างเป็นธรรม ปรับปรุงค่าตอบแทนและสิทธิประโยชน์ ให้สามารถสร้างแรงจูงใจในการคงอยู่และทุ่มเททำงาน สนับสนุนการศึกษาต่อเนื่องหลังปริญญา ส่งเสริมความเข้มแข็งของเครือข่ายวิชาชีพ และการจัดกิจกรรมเชิดชูเกียรติในโอกาสต่าง ๆ
สภาการพยาบาล พร้อมให้ความร่วมมือกับรัฐบาล และกระทรวงสาธารณสุขในการขับเคลื่อนและผลักดันมาตรการดังกล่าวอย่างเต็มที่ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาสุขภาพอนามัยของประชาชนและการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ