แอนไท เอจจิง แลป เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ AG - TRIO PACK เน้นปรับพฤติกรรมเพื่อการป้องกัน ตอบรับการแพทย์เวชศาสตร์วิถีชีวิต Life Style Medicine

www medi.co.th

ปัจจุบันประเทศไทยมีผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเป็นอันดับ 3 ของโลก จากข้อมูลงานวิจัยพบว่า      ในปี 2565 ประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์  โดยมีสัดส่วนประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไป      ในอัตราร้อยละ20 ของจำนวนประชากรทั้งหมดและคาดว่าใน ปี 2576 จะเข้าสู่การเป็นสังคมสูงอายุ          ระดับสูงสุดคือมีสัดส่วนประชากรที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปในอัตราร้อยละ 28 ของประชากรทั้งหมด               


ด้วยสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจเงินเฟ้อเฉลี่ยปี่ละประมาณ 4% ค่ารักษาพยาบาลแพงขึ้นปีละ 5-8%  โดยเฉลี่ยค่าใช้จ่ายรักษาพยาบาลต่อการเข้าโรงพยาบาล 1 ครั้ง มากกว่า 3 หมื่น  และอาจต้องมีเงินออมขั้นต่ำ 10 ล้านบาท  เพื่อที่จะมีเงินใช้ 530,000 บาท / ปี เมื่อถึงวัย 60 ปี  โดยเฉพาะอย่างยิ่งอายุขัยโดยเฉลี่ยของคนไทยจะยืนยาวขึ้นอยู่ที่ 85 ปี  อีกทั้งจากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ระบุว่า ทุกๆ 4 นาที จะมีคนไทยเสียชีวิตจากมะเร็ง 1 คน และทุกๆ 6 นาที คนไทยเสียชีวิตจากโรคหัวใจ 1 คน เช่นเดียวกับโรคหลอดเลือดในสมอง   ดังนั้นจึงต้องมีการเตรียมพร้อมรับมือสังคมสูงวัยเพื่อการใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ


จากสถานการณ์ดังกล่าว บริษัท แอนไท เอจจิง แลป จำกัด จึงเปิดตัวผลิตภัณฑ์ชุดดูแลสุขภาพ AG - TRIO PACK ( AG 1 / AG 2 / AG 5 ) ที่สามารถตอบโจทย์การชะลอความชราได้ โดยช่วยปรับและรักษาสมดุลในร่างกายและระบบภูมิคุ้มกัน ต้านอนุมูลอิสระและลดภาวะการอักเสบของเซลล์  รวมถึงส่งเสริมการทำงานของเซลล์ที่เกิดใหม่  ฟื้นฟูเซลล์และยับยั้งการอักเสบในระดับเซลล์   ซึ่งผลิตภัณฑ์ใหม่นี้เน้นส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคเรื้อรัง   เจาะตลาดผู้รักสุขภาพและผู้สูงวัย ที่มีมูลค่าตลาดไม่ต่ำกว่า 38,000 ล้านบาท จากผลงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ โดย Carlos Lopez – Otin Professor of Biochemistry and Molecular Biology, University of Oviodo ได้แสดงแนวคิดเกี่ยวกับ THE 9 Hallmarks of Aging ซึ่งได้รวมองค์ความรู้เกี่ยวกับปัจจัยต่างๆ ที่มีพบให้เกิดภาวะชรา โดยประกอบด้วย 9 สาเหตุ คือ การสูญเสียเสถียรภาพของจีโนม (Genomic Instabillity) การสึกกร่อนหรือหดสั้นของเทโลเมียร์ (Telomere Attrition) การเปลี่ยนแปลงของภาวะเหนือพันธุกรรม (Epigenetic Alternations) การขาดภาวะสมดุลของโปรตีน (Loss of Proteostasis) การลดการทำงานของสเต็มเซลล์ (Stem Cell Exhaustion) การเปลี่ยนแปลงของการติดต่อสื่อสารระหว่างเซลล์ ( Altered Intercellular Communication) การลดลงหรือความผิดปกติจากการรับรู้สารอาหาร (Deregulated Nutrient Sensing)   การเสื่อมสภาพของไมโทคอนเดรีย (Mitochondrial Dysfunction) และการเกิดเซลล์ชราภาพ (Cellular Senescene) 

นางสาวผาณิต  พูนสุวรรณ ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตภัณฑ์ บริษัท แอนไท เอจจิง แลป จำกัด เผยว่าผลิตภัณฑ์ชุดนี้เป็นผลิตภัณฑ์ที่บริษัทฯ ได้ต่อยอดมาจากผลงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ระดับโลก และผ่านการขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์กับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) เรียบร้อยแล้ว (AG1อย.67-1-18762-5-0298 / AG2 อย.13-1-01563-5-0256 / AG5 อย.13-1-01563-5-0256) จึงมั่นใจได้เรื่องความปลอดภัยในการบริโภค ทั้งนี้แนวโน้มการดูแลรักษาทางการแพทย์ในอนาคตอันใกล้นี้ เน้นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและรูปแบบการดำเนินชีวิตของคนเพื่อสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคเรื้อรัง โดยการใช้วิธีการเชิงรักษาแบบไม่ใช้ยา มุ่งเน้นไปที่ปัจจัยที่ส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาว เช่น การออกกำลังกาย การบริโภคอาหารที่เหมาะสม การจัดการรูปแบบการใช้ชีวิต การดูแลตัวเองและสิ่งแวดล้อม การปรับพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการเกิดโรค เช่นการเลิกสูบบุหรี่ การลดการดื่มแอลกอฮอล์ และการควบคุมน้ำหนักตัว เป็นต้น  ซึ่งการบริโภคผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่เหมาะสมกับอาการหรือพฤติกรรม จึงเป็นแนวทางที่สอดคล้องกับการแพทย์เวชศาสตร์วิถีชีวิตLife Style Medicine ช่วยต้านความเสื่อมของเซลล์ และลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรค NCDs เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคมะเร็งและโรคร้ายอื่นๆด้วยเช่นกัน ซึ่งเราคาดหวังว่าผลิตภัณฑ์ต่างๆของบริษัทจะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย และปรับค่านิยมเรื่องการบริโภคผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ที่สามารถช่วยดูแลและป้องกัน เสริมสร้างสังคมคุณภาพให้กับผู้รักสุขภาพและผู้สูงวัยได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข” นางสาวผาณิตกล่าว