เกร๊ทเตอร์ ฟาร์ม่า ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าเวชภัณฑ์ รวมถึงสินค้าอุปโภคบริโภคของไทย พร้อมจัดทัพโชว์งานวิจัยและพัฒนา ขับเคลื่อนนวัตกรรมสเต็มเซลล์รายแรกของไทยที่ได้รับอนุญาตจาก อย. ตั้งเป้าขับเคลื่อนองค์กรสู่ความเป็นผู้นําด้านนวัตกรรมสุขภาพของอาเซียน สร้างมูลค่าธุรกิจตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพของไทยสู่อาเซียนและตลาดโลก เตรียมจัดทัพสินค้าร่วม CPHI South East Asia 2024 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 10 - 12 กรกฎาคม 2567 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
ด้าน ภก.ดร.เชิญพร เต็งอำนวย กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัท เกร๊ทเตอร์ฟาร์ม่า จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าเวชภัณฑ์ รวมถึงสินค้าอุปโภคบริโภค เปิดเผยว่า ประเทศไทยมีศักยภาพในการเป็นเมดิคัลฮับ (Medical Hub) จากจุดเด่นด้านบริการทางการแพทย์ที่มีข้อได้เปรียบเรื่องราคา การบริการที่ดี รวมทั้งคุณภาพของบุคลากร โดยเฉพาะแพทย์ทางเลือกและการดูแลฟื้นฟู ทำให้อุตสาหกรรมการแพทย์ของไทยครบวงจร มีแนวโน้มการลงทุนสูงในอนาคต
ขณะที่ประเทศไทยมีความจำเป็นต้องพึ่งพาการนำเข้ายาจากต่างประเทศเป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 65% ของตลาดอุตสาหกรรมยาที่มีมูลค่าสูงถึง 2 แสนล้านบาท โดยมีเพียง 35% เท่านั้นที่เป็นการผลิตยาในไทย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมยาสำเร็จรูปหรือขั้นปลายน้ำ หรือเป็นการผลิตยาชื่อสามัญ (Generic drug) โดยเป็นการผลิตลอกเลียนสูตรยาต้นตำรับหรือยาต้นแบบจากต่างประเทศที่หมดสิทธิบัตรไปแล้ว ส่วนการผลิตยาขั้นต้นน้ำ หรือยาค้นคว้าขึ้นมาใหม่ และการผลิตยาขั้นกลาง หรือการผลิตวัตถุดิบนั้นยังมีน้อยมาก
กลุ่มบริษัท เกร๊ทเตอร์ ฟาร์ม่า จึงมีความมุ่งมั่นที่จะเป็นบริษัทชั้นนําของอาเซียนในการพัฒนานวัตกรรมด้านสุขภาพและความงาม เริ่มต้นจากการที่บริษัทต้องการที่จะผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ ตอบโจทย์ปัญหาสุขภาพของคนไทย ให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ได้ด้วยราคาที่ยุติธรรม ทดแทนการนําเข้าและยังสามารถสร้างผลกําไรให้กับคู่ค้าได้อย่างยั่งยืน
“เราต้องการเป็นผู้ผลิตยาแบบครบวงจร ตั้งแต่ขั้นต้นน้ำถึงปลายน้ำโดยเฉพาะในยากลุ่มเฉพาะทาง เพื่อทดแทนการนำเข้า เช่น ยากลุ่มผลิตภัณฑ์การแพทย์ขั้นสูง (Advance Therapy Medicinal Products) ยาชีววัตถุ และผลิตภัณฑ์โพรไบโอติกส์ (Probiotic) เป็นต้น” ภก.ดร.เชิญพร กล่าว
ทั้งนี้ แนวทางการพัฒนาในหลายกลุ่มผลิตภัณฑ์ โดยร่วมกับคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล พัฒนาชุดทดสอบและวัคซีนโรคภูมิแพ้ ตั้งแต่กระบวนการเพาะเลี้ยงไรฝุ่น และแมลงสาบ และกระบวนการสกัดเพื่อให้ได้สารสำคัญซึ่งเป็นวัตถุดิบที่จำเพาะต่ออาการแพ้ของคนไทย ตลอดจนกระบวนการผลิตชุดทดสอบและวัคซีนจนได้ผลิตภัณฑ์สู่ตลาดเป็นรายแรกในอาเซียน รวมทั้งเป็นผู้ผลิตรายแรกของ ASEAN ที่เริ่มการวิจัยและพัฒนายากลุ่มผลิตภัณฑ์การแพทย์ขั้นสูง (Advance Therapy Medicinal Products) เช่น สเต็มเซลล์ และการพัฒนา NK cell เพื่อเป็นการรักษาทางเลือกในการรักษามะเร็งจากการที่บริษัทได้รับการอนุมัติใบอนุญาตเพื่อการผลิตอย่างเป็นทางการจากคณะกรรมการอาหารและยากระทรวงสาธารณสุขของประเทศไทย
นอกจากการยกระดับศักยภาพด้านวิจัยและนวัตกรรมแล้ว เกร๊ทเตอร์ฟาร์ม่า ได้ให้ความสำคัญกับการขยายตลาดใหม่ ล่าสุดการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ช่วยยกระดับภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้โดนใจกลุ่มเจเนอเรชั่น Z (Gen Z) มากยิ่งขึ้น โดยดึง ไบร์ท วชิรวิชญ์ ชีวอารี มาเป็นพรีเซนเตอร์ ซึ่งเป็นตัวแทนแบรนด์ในการชวนคนรุ่นใหม่ “มา… ซิงค์ไปกับไบร์ท” พร้อมกันนี้บริษัทฯ ยังได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในงานซีพีเอชไอ เซาธ์ อีสต์ เอเชีย 2024 (CPHI South East Asia 2024) เพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์ และนำเสนอนวัตกรรมใหม่ ๆ ของเกร๊ทเตอร์ฟาร์ม่า ให้กับผู้ที่เข้าชมงาน
“เกร๊ทเตอร์ฟาร์ม่า มุ่งมั่นที่จะเป็นบริษัทชั้นนําของอาเซียนในการพัฒนานวัตกรรมด้านสุขภาพและความงาม โดยผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ ตอบโจทย์ปัญหาสุขภาพของคนไทย ให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ได้ด้วยราคาที่ยุติธรรม ทดแทนการนําเข้าและสร้างผลกําไรให้กับคู่ค้าได้อย่างยั่งยืน” ภก.ดร.เชิญพร กล่าว
ด้าน นางสาวรุ้งเพชร ชิตานุวัตร์ ผู้อำนวยการกลุ่มโครงการภูมิภาคอาเซียน อินฟอร์มา มาเก็ตส์ และผู้จัดการทั่วไป – ฟิลิปปินส์ ในฐานะผู้จัดงาน “ซีพีเอชไอ เซาธ์ อีสต์ เอเชีย 2024 (CPHI South East Asia 2024)” เปิดเผยว่า “ด้วยมูลค่าตลาดประมาณ 225 พันล้านบาท ประเทศไทยจึงเป็นหนึ่งในตลาดเภสัชกรรมชั้นนำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าทำให้ยามีราคาไม่แพงและเข้าถึงได้มากขึ้น ซึ่งส่งผลให้มูลค่าตลาดยาในประเทศไทยเพิ่มขึ้น อีกทั้งรัฐบาลยังได้เสนอแผนยุทธศาสตร์เพื่อพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการแพทย์ในเอเชีย เพื่อดึงดูดผู้ป่วยชาวต่างชาติและนักท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ คาดว่าจะมีส่วนสนับสนุนอุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพ รวมทั้งเป็นโอกาสที่สำคัญสำหรับบริษัทขนาดเล็กและขนาดกลาง (MSMEs) ในภาคเภสัชกรรมที่จะเพิ่มศักยภาพทางธุรกิจและการแข่งขันให้องค์กร”
การจัดแสดงงานในปีนี้เป้าหมายสำคัญ คือการร่วมเป็นส่วนหนึ่งที่จะสร้างความมั่นคงทางการยาของประเทศไทย เพื่อช่วยขับเคลื่อนสุขภาพและเศรษฐกิจ ให้ก้าวไปสู่ การเป็น Medical Hub ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยมาตรฐานการผลิตยาในประเทศไทยนั้น มีมาตรฐานในระดับสากลพร้อมแข่งขันในการเป็นผู้ผลิตยาสู่ตลาดต่างประเทศ ในปีนี้ จัดมีการจัดแสดงงานคู่กับ“Medlab Asia & Asia Health 2024” เพื่อให้ครอบคลุมทั้งอุตสาหกรรมยา อุปกรณ์ในห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ เครื่องมือแพทย์ และการดูแลสุขภาพอย่างครบวงจร ซึ่งงาน “CPHI South East Asia 2024” และ“Medlab Asia & Asia Health 2024” จะเป็นตัวกลางที่เชื่อมโยงศักยภาพของภาคส่วนในอุตสาหกรรมยาไทยให้เป็นที่ประจักษ์ในสายตาของนานาชาติ ภายใต้คอนเซ็ป International Healthcare Week ที่มุ่งเน้นการสร้างศักยภาพการพัฒนาระบบและการดูแลสุขภาพครบวงจร
ร่วมเปิดประสบการณ์และเทคโนโลยี นวัตกรรมในอุตสาหกรรมยา พร้อมคว้าโอกาสใหม่ทางธุรกิจก่อนใครได้ที่ งานซีพีเอชไอ เซาธ์ อีสต์ เอเชีย (CPHI South East Asia 2024) งานแสดงสินค้า เทคโนโลยี และการประชุมด้านอุตสาหกรรมการผลิตยา ครบวงจรในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จัดวันที่ 10 - 12 กรกฎาคม 2567 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ลงทะเบียนที่ ww.cphi.com/sea