นางภาวิณี รุ่งทนต์กิจ รองผู้อำนวยการสำนักอนามัย (สนอ.) รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักอนามัย กทม. กล่าวถึงการป้องกันและลดความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยจากโรคต่าง ๆ ในช่วงที่สภาพอากาศแปรปรวนว่า สนอ. มีมาตรการเชิงรุกในการส่งเสริมความรู้และให้คำแนะนำแก่ประชาชนเกี่ยวกับวิธีดูแลรักษาสุขภาพและสุขอนามัย เพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยจากโรคต่าง ๆ ในช่วงที่สภาพอากาศแปรปรวน
โดยช่วงอากาศเปลี่ยนแปลง จะส่งผลให้ภูมิต้านทานในร่างกายลดลง จึงควรรับประทานอาหารมีประโยชน์ ครบ 5 หมู่ เลือกรับประทานร้อนและปรุงสุก รับประทานผลไม้สดที่อุดมด้วยวิตามินซี เช่น ส้ม ฝรั่ง มะละกอ มะขามป้อม มะขามเทศ สตรอเบอร์รี่ พลับ จะช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย หลีกเลี่ยงอาหารที่เค็มจัด หวานจัด มันจัด งดของมึนเมา งดสารเสพติด งดสูบบุหรี่ ดื่มน้ำเปล่าสะอาดให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย อย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว การดื่มน้ำจะช่วยรักษาสมดุลของร่างกายไม่เป็นหวัดง่าย ทั้งยังช่วยลดโอกาสในการติดเชื้อโรคต่าง ๆ เข้าสู่ร่างกาย นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกายสม่ำเสมอ
หากร่างกายปรับตัวต่อสภาพอากาศแปรปรวนไม่ทัน อาจทำให้เกิดความเสี่ยงเป็นโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ เช่น ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ปอดบวม หัด และโรคระบบทางเดินอาหาร เช่น อาหารเป็นพิษและอุจจาระร่วง ประกอบกับสถานการณ์โรคโควิด 19 ที่มีแนวโน้มพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นในช่วงอากาศเย็น ขอให้ประชาชนระมัดระวัง ดูแลสุขภาพของตนเองและบุคคลในครอบครัว โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ได้แก่ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ ซึ่งมีภูมิคุ้มกันต่ำ มีความเสี่ยงเจ็บป่วยได้ง่าย จึงควรดูแลร่างกายของตนเองให้แข็งแรง หากครอบครัวที่มีเด็กทารกเน้นย้ำให้ดื่มนมแม่เป็นประจำ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ทารกแรกเกิด – 6 เดือน หลังจากนั้นสามารถให้นมแม่ควบคู่อาหารตามวัย สำหรับกลุ่มวัยอื่นควรรักษาความอบอุ่นของร่างกายสม่ำเสมอ ไม่สวมเสื้อผ้าเปียกชื้นโดยเฉพาะช่วงที่มีฝนตก พกร่มและเสื้อกันฝนติดตัว หากมีอาการผิดปกติสามารถรับการรักษาได้ที่สถานพยาบาลตามสิทธิ์