ซาลัส ไบโอซูติคอล (ประเทศไทย) เปิดตัวห้องปฏิบัติการสำหรับการผลิตและสกัดกัญชาและกัญชง มูลค่า 600 ล้านบาท ที่อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมกำลังการผลิตสูงแห่งแรกในเอเชีย มุ่งตอบสนองความต้องการผลิตภัณฑ์จากสารสกัด CBD และผลิตภัณฑ์ THC
โรงงานแห่งนี้จะมีกำลังการสกัดชีวมวลมากกว่า 200,000 กิโลกรัมต่อปี ผลิตน้ำมัน CBD ได้มากกว่า 50,000 ลิตร และผลิต Isolate powder และ CBD Isolate Water Soluble ได้ 90,000 กิโลกรัมต่อปี ซึ่งทำให้ SBT เป็นหนึ่งในผู้ผลิตและสกัดกัญชาและกัญชงที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งนอกทวีปอเมริกาเหนือ โดยบริษัทมีพื้นที่การเพาะปลูกในระบบปิดขนาด 800 ตร.ม. และอาคารอื่นๆ มีกำลังการผลิตสูงในการสกัดและการกลั่นโดยใช้อุปกรณ์ที่ทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งในอุตสาหกรรมกัญชา และมีห้องปฏิบัติการระดับการแพทย์เพื่อวิเคราะห์กัญชงและกัญชา ทำให้มีกระบวนการการกลั่นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สามารถผลิตผลิตภัณฑ์สารสกัด CBD ในระดับสูงและมีคุณภาพที่โดดเด่นเหนือคู่แข่ง ด้วยความเชี่ยวชาญของ MPXI หนึ่งในผู้นำอุตสาหกรรมกัญชาระดับโลกที่ดำเนินงานอยู่ใน 5 ทวีปทั่วโลก SBT ได้นำการผลิตที่ดีที่สุดในระดับเดียวกันมาใช้ในโรงงานผลิตระดับการแพทย์ตามมาตรฐาน GMP ของไทย และยุโรป
วิลเลียม สก็อต บอยส์ ประธานบริษัท ประธานกรรมการ และประธานกรรมการบริหารของ MPXI ประธานบริษัทและประธานกรรมการของ SIM กล่าวว่า “ตลาดเกิดใหม่ของผลิตภัณฑ์สารสกัด CBD และ THC มาตรฐานการแพทย์ในประเทศไทยกำลังเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยแนวทางการสนับสนุนของรัฐบาลไทย จะทำให้ประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางขนาดใหญ่ในการเพาะปลูกและผลิตกัญชามาตรฐานการแพทย์ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ MPXI ยินดีที่ได้มีส่วนสำคัญในการวางแผน พัฒนา และบริหารจัดการโรงงานในเชียงใหม่ของ SBT ในฐานะผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนร่วมในการลงทุน MPXI คาดว่าโรงงานนี้จะสร้างรายได้และผลกำไรในระยะเวลาอันใกล้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทางการเงินของ MPXI และ SIM เป็นอย่างมาก ตลอดจนสร้างผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหุ้นของ MPXI และ SIM อีกด้วย”
ท่ามกลางกระแสการใช้กัญชาทั่วโลก ประเทศไทยซึ่งมีจำนวนประชากรกว่า 70 ล้านคนเป็นพื้นที่ที่มีแนวโน้มที่ดีสำหรับอุตสาหกรรมนี้ ภายหลังจากที่กฎหมายรับรองการใช้กัญชาทางการแพทย์ในปี พ.ศ. 2562 มีผู้ป่วยชาวไทยประมาณ 600,000 คนที่สามารถเข้ารับการรักษาโดยการใช้กัญชา รวมถึงในปัจจุบันประเทศไทยเป็นประเทศที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเพื่อจุดประสงค์ด้านการแพทย์มากเป็นอันดับสามของโลก คาดว่ารายได้จากการรวมอุตสาหกรรมกัญชาเข้ากับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์เพียงอย่างเดียวน่าจะสร้างรายได้ถึง 60 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี พ.ศ. 2567 ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ยังสนับสนุนให้กัญชาทางการแพทย์เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของประเทศไทยอีกด้วย
ธนดี พันธุมโกมล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการ SBT กล่าวว่า “เรารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งกับก้าวแรกที่สำคัญของเราในประเทศไทย การเปิดโรงงานผลิต CBD ในประเทศจะช่วยให้เราตอบสนองต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้นของผลิตภัณฑ์สารสกัด CBD ที่หลากหลายทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก โรงงานแห่งนี้จะสร้างห่วงโซ่ที่มีมูลค่าตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ให้ประโยชน์แก่ผู้ถือหุ้น รวมถึงทำให้ชุมชนท้องถิ่นมีโอกาสในการทำงานและรายได้เพิ่มขึ้น”
SBT จะทำงานอย่างใกล้ชิดกับสถาบันวิจัยและพัฒนากัญชงกัญชาและสมุนไพร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน โดยจะทำการวิจัยเพื่อทำความเข้าใจด้านการเกษตรและเศรษฐกิจการเกษตรของกัญชาและกัญชงในเขตร้อน รวมถึงการสกัดเพื่อวัตถุประสงค์ทางการแพทย์เพื่อใช้เป็นสารตั้งต้นสำหรับภาคอุตสาหกรรมต่างๆ นอกจากนี้ SBT ยังมีเป้าหมายที่จะเข้าไปมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชน และกลุ่มเกษตรกรในท้องถิ่นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการดำเนินการเพาะปลูกพืชกัญชงที่มีสาร CBD สูง และ THC ต่ำ โดย SBT ได้สร้างแปลงสาธิตสำหรับเพาะปลูกกัญชงกลางแจ้งที่วิทยาเขตต่างๆ ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสานถึง 5 วิทยาเขต เพื่อพัฒนาเทคนิคการเพาะปลูกและถ่ายทอดความรู้แก่เกษตรกรในท้องถิ่น
เนื่องจากประเทศไทยได้มีการลงทุนในตลาดกัญชาทางการแพทย์อย่างต่อเนื่อง โอกาสต่างๆ สำหรับธุรกิจในอนาคตจะเพิ่มขึ้น ในฐานะที่เราเป็นบริษัทกัญชาทางการแพทย์แห่งแรกในอเมริกาเหนือที่ก้าวเข้าสู่ตลาดของประเทศไทย ในขั้นแรก SBT จะเริ่มผลิตผลิตภัณฑ์กัญชามาตรฐานการแพทย์ที่เป็นไปตามมาตรฐาน EU-GMP เช่น CBD distillate Isolate Powder และ CBD Isolate Water Soluble เพื่อจำหน่ายในประเทศ บริษัทมุ่งเน้นการผลิตผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงสำหรับตลาดในประเทศ และตั้งเป้าที่จะครองตลาดในอาเซียนด้วยการขยายตลาดทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เมื่อประเทศไทยประกาศตัวเองเป็นประเทศส่งออกซึ่งคาดการณ์ว่าจะมีมูลค่าการส่งออกที่ 618 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี พ.ศ. 2567
SBT พร้อมก้าวไปข้างหน้าด้วยฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งและการสนับสนุนจากลูกค้า SBT จะเข้าสู่หลากหลายภาคอุตสหากรรมในตลาด การได้รับความสนใจจากผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่ม เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพ อาหารเสริม ธุรกิจสปา และอาหารสัตว์หลายแห่งในประเทศไทย SBT จะผลิตสาร CBD Distillate และ Isolate เพื่อใช้ในเชิงพาณิชย์ได้ภายในไตรมาสที่ 4 ของ พ.ศ. 2564 ในระยะของการผลิตยากัญชาและกัญชง SBT อยู่ระหว่างการดำเนินการให้โรงงานได้รับมาตรฐาน GMP เพื่อดำเนินการผลิตยาเม็ด แคปซูล ยาเหน็บ แผ่นยาชนิดติดผิวหนัง และยาชนิดรับประทานที่มีคุณภาพทางการแพทย์ซึ่งมีส่วนประกอบของสารแคนนาบินอยด์ (cannabinoids) ที่มีประโยชน์ทางการแพทย์อื่นๆ ภายใต้การอนุมัติของรัฐบาล