สวทช. โดยนาโนเทค จับมือพันธมิตร ปูพรมใช้ “ชุดตรวจคัดกรองโรคไต” นำร่องสร้าง “ขอนแก่นโมเดล” พร้อมตั้งเป้าขยายผลทั่วไทยในปี 2571

www medi.co.th

กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดย ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค) ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น และองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ลงนามความร่วมมือด้าน “การนำนวัตกรรมชุดตรวจคัดกรองโรคไต และภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน เพื่อส่งเสริมการบริหารจัดการสุขภาพในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น” โดยมีเป้าหมายเพื่อจัดกิจกรรมอบรมการใช้ชุดตรวจคัดกรองโรคไตให้แก่บุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ครอบคลุมทั้ง 248 แห่งในจังหวัดขอนแก่น เพื่อขับเคลื่อนการใช้ชุดตรวจคัดกรองอย่างครอบคลุมทั่วทั้งจังหวัด เป็นการนำร่อง ‘ขอนแก่นโมเดล’ ซึ่งตั้งเป้าขยายผลสู่ระดับประเทศภายในปี 2571 เพื่อยกระดับสุขภาวะของประชาชนไทยด้วยนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ทันสมัย เข้าถึงง่าย และตอบโจทย์ความต้องการในพื้นที่


ดร.อุรชา รักษ์ตานนท์ชัย ผู้อำนวยการศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค) สำนักงานพัฒนา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กล่าวว่า “ขุมพลังหลักของประเทศ” ของ อว. โดย สวทช. นั้น เป็นการขับเคลื่อนการใช้ประโยชน์จากวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อพัฒนา “ระบบนิเวศวิจัยและนวัตกรรม” ให้เข้มแข็ง และขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด ผ่านกลยุทธ์การพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อประเทศไทยยั่งยืน (S&T Implementation for Sustainable Thailand) ที่มุ่งเป้าหมาย 4 มิติ ประกอบด้วย การเพิ่มอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ การลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม การสร้างความยั่งยืนของธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และการพึ่งพาตนเอง ทั้งนี้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนงานวิจัยของนาโนเทค ภายใต้ SF ชุดตรวจสุขภาวะ ที่มุ่งสู่การเป็นผู้นำระดับประเทศด้านนวัตกรรมชุดตรวจสุขภาวะ ต่อยอดผลงานวิจัยสู่เชิงพาณิชย์ ยกระดับเศรษฐกิจ และสร้างมูลค่าเพิ่ม ที่สำคัญคือ ประชาชนเข้าถึงได้ เพื่อสนับสนุนสังคมเท่าเทียมและยั่งยืน


“ชุดตรวจคัดกรองโรคไตนี้ เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ S&T Implementation for Sustainable Thailand โดยเป็นนวัตกรรมชุดตรวจแบบรวดเร็ว (Rapid Test) ที่ต่อยอดงานวิจัย ‘AL-Strip’ โดย ดร.สาธิตา ตปนียากร ซึ่งเป็นชุดตรวจคัดกรองโรคไตเชิงคุณภาพที่ประชาชนทั่วไปใช้ตรวจคัดกรองโรคได้ด้วยตัวเอง และทราบผลตรวจได้ภายใน 5 นาที ในปัจจุบันได้ถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กัผู้ประกอบการไทยแล้ว 3 ราย คือ บริษัทอินโนซุส จำกัด, บริษัทเมดไบโอซิน จำกัด และ บริษัทไฮไลฟ์ เฮลท์ จำกัด นอกจากนี้ ยังส่งมอบชุดตรวจคัดกรองโรคไตให้กับพันธมิตร อาทิ โครงการป้องกันและชะลอโรคไตเรื้อรังในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (CKDNET) มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต 7 ขอนแก่น สภาเภสัชกรรม และอื่น ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อขยายผลการใช้ประโยชน์นวัตกรรมให้กลุ่มผู้ใช้จริง” ดร.อุรชา กล่าว


ดร.เดือนเพ็ญ จาปรุง นักวิจัยอาวุโส นาโนเทค และผู้อำนวยการขับเคลื่อนแผนงานนวัตกรรมชุดตรวจรวดเร็ว สวทช. กล่าวว่า โครงการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมชุดตรวจแบบรวดเร็ว (Rapid Test) มีเป้าหมายเพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมไทยสู่การพึ่งตนเอง ลดภาระค่าใช้จ่าย ลดการนำเข้าผลิตภัณฑ์ทางด้านการแพทย์ของประเทศ ช่วยเพิ่มการเข้าถึงการบริการทางการแพทย์และสาธารณสุขของประชาชน ด้วยกลยุทธ์การสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตรเพื่อสร้างความเชื่อมั่นจากการนำผลงานวิจัยสู่การใช้งานจริง นำร่องด้วยนวัตกรรมชุดตรวจคัดกรองโรคไต ที่มีความร่วมมือจากพันธมิตรหลายภาคส่วน รวมถึงสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น และองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ที่ร่วมลงนามในครั้งนี้


ชุดตรวจคัดกรองโรคไตนี้เป็นการต่อยอดผลงานวิจัย ‘AL-Strip’ ชุดตรวจโรคไตเชิงคุณภาพสำหรับใช้ตรวจคัดกรองโรคได้ด้วยตัวเอง ทราบผลภายใน 5 นาที โดยผู้ใช้งานสามารถใช้ชุดตรวจได้ด้วยตนเองเพียงหยดปัสสาวะที่เก็บใหม่ลงในช่องที่กำหนดของชุดตรวจคัดกรอง จากนั้นอ่านผลจากแถบสีที่ปรากฏ (คล้ายกับการใช้ชุดตรวจคัดกรองโรคโควิด-19) หลักการทำงานของชุดตรวจนี้อาศัยการวิเคราะห์ปริมาณอัลบูมินในปัสสาวะ โดยอัลบูมินเป็นโปรตีนที่เป็นสารประกอบหลักของเลือด หากพบว่ามีอัลบูมินเจือปนอยู่ในปัสสาวะเกินกว่า 20 ไมโครกรัมต่อมิลลิลิตร ชุดตรวจจะแสดงผลด้วยแถบสี 1 ขีด หมายถึง ‘มีความเสี่ยงเป็นโรคไตในระดับสูง’ แนะนำให้ผู้ที่ได้รับผลตรวจแบบนี้ ควรเข้ารับการตรวจโดยละเอียดที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์วินิจฉัยความผิดปกติของร่างกาย และเข้ารับการรักษาตามระยะของความผิดปกติที่พบ หากผู้ป่วยตรวจพบความผิดปกติตั้งแต่อยู่ในระยะเริ่มต้น จะทำให้มีโอกาสหันกลับมาดูแลตัวเองด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหารเพื่อชะลอความเสื่อมของไตได้


“สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ เป็นการอบรมเชิงปฏิบัติการการใช้ชุดตรวจคัดกรองโรคไตให้กับบุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ครอบคลุมทั้ง 248 แห่งในจังหวัดขอนแก่น เพื่อให้เกิดการคัดกรองด้วยชุดตรวจคัดกรองโรคไตอย่างเต็มศักยภาพในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น เป็นการปูทางสร้าง “ขอนแก่นโมเดล” ขับเคลื่อนการคัดกรองโรคไตแบบเชิงรุกเพื่อลดจำนวนผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังในประเทศไทย ลดช่องโหว่ของการเข้าไม่ถึงการตรวจคัดกรองโรคไตได้ตั้งแต่ระยะต้นของประชาชน จากค่าใช้จ่ายในการตรวจที่ค่อนข้างสูง รวมถึงหน่วยงานด้านสาธารณสุขที่ให้บริการตรวจยังมีไม่เพียงพอ เพราะต้องเป็นสถานพยาบาลขนาดใหญ่ที่มีความพร้อมด้านอุปกรณ์ทางการแพทย์ และด้านเทคนิคการแพทย์ในการดำเนินการตรวจในห้องปฏิบัติการ ซึ่งจังหวัดขอนแก่นจะเป็นโมเดลนำร่องในการพัฒนาระบบการคัดกรองโรคไตแบบใหม่นี้ ก่อนที่จะขยายผลทั่วประเทศภายในปี 2571” ดร.เดือนเพ็ญเผย


นางสาลินี ไวยนนท์ นักวิชาการสาธารณสุขเชี่ยวชาญ(ด้านส่งเสริมพัฒนา) สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า โรคไตเรื้อรัง เป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญของประเทศไทย และจังหวัดขอนแก่นเองมีอุบัติการณ์ผู้ป่วยโรคไตปีละกว่า 30,000 ราย จากการค้นหาและคัดกรองในกลุ่มผู้ป่วยโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูงเพียงร้อยละ 50 ซึ่งหมายความว่าหากมีการค้นหามากขึ้นก็มีโอกาสในการพบผู้ป่วยโรคไตมากขึ้นด้วยเช่นกัน จังหวัดขอนแก่นในฐานะศูนย์กลางของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบบริการสุขภาพ และให้ความรู้แก่ประชาชนในเรื่องของการดูแลสุขภาพไตอย่างถูกต้อง โดยการส่งเสริมให้หน่วยงานสาธารณสุข โรงพยาบาลชุมชน และ อสม. ที่มีบทบาทสำคัญในการเผยแพร่ความรู้ เช่น การคัดกรองผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง การให้คำแนะนำเรื่องโภชนาการ การออกกำลังกาย และการติดตามดูแลผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง


ในด้านการรักษา จังหวัดขอนแก่นได้เตรียมพร้อมด้านบุคลากรและเทคโนโลยีทางการแพทย์ การให้บริการ CKD Clinic ซึ่งมีครอบคลุมทุกโรงพยาบาลในพื้นที่ การให้บริการ RRT (การบริการ APD CAPD การฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม : HD และการส่งเสริมการปลูกถ่ายไต : KT) ที่มีความพร้อมและเพียงพอ ซึ่งมีผู้ป่วยเข้ารับบริการ APD CAPD จำนวน 1,700 ราย HD จำนวน 2,978 ราย และ KT ที่ได้รับยากดภูมิ จำนวน 426 ราย เพื่อให้ผู้ป่วยเข้าถึงการรักษาอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม พร้อมทั้งมีการประสานงานกับภาคีเครือข่าย ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน เพื่อสร้างระบบการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม


“แม้มีการจัดระบบบริการรักษาไว้รองรับอย่างดี แต่การป้องกันย่อมดีกว่า ต้องขอขอบคุณ สวทช. ที่สนับสนุนนวัตกรรมชุดตรวจคัดกรองโรคไต เพื่อคัดกรองกลุ่มเสี่ยงโรคไต ซึ่งสามารถตรวจได้ด้วยตนเองและทราบผลภายใน 5 นาที เพื่อให้ประชาชนเข้าสู่กระบวนการรักษาได้ตั้งแต่ระยะแรก โดยสามารถเข้ารับการตรวจเลือดเพื่อวิเคราะห์อัตราการกรองของไต และเข้าสู่กระบวนการวินิจฉัยและรักษาตามแนวทางต่อไป” นางสาลินีกล่าว


นายวัฒนา ช่างเหลา นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า องค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น มีความยินดีที่ได้ร่วมมือกับหน่วยงานและภาคีเครือข่ายต่าง ๆ เพื่อลดอัตราการเกิดโรคไตเรื้อรังในประชาชน โดยการตรวจคัดกรองจะช่วยให้สามารถระบุผู้ที่มีความเสี่ยงได้อย่างรวดเร็ว และนำไปสู่การให้คำแนะนำในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น การควบคุมอาหาร การออกกำลังกาย และการดูแลสุขภาพในระยะยาว โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่นจะส่งเสริมการใช้นวัตกรรมชุดตรวจคัดกรองโรคไตและภาวะแทรกซ้อนโรคเบาหวานในสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา นวมินทราชินี และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลในสังกัดที่ได้รับถ่ายโอนมายังองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่นอย่างครบถ้วน 100 เปอร์เซ็นต์ จำนวน 248 แห่ง ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ 26 อำเภอ การดำเนินการนี้จะเป็นกลไกสำคัญในการสร้างเครือข่ายการดูแลสุขภาพในชุมชน ร่วมกับ อสม. และหน่วยงานในพื้นที่ เพื่อเพิ่มการเข้าถึงบริการของประชาชนในเขตพื้นที่จังหวัดขอนแก่น


“เราต้องการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับโรคไตและส่งเสริมให้ประชาชนดูแลสุขภาพของตนเองอย่างจริงจัง เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและลดภาระของระบบสาธารณสุขในจังหวัดขอนแก่น ความร่วมมือนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการ “ค้นหา คัดกรอง ป้องกัน ชะลอไตเสื่อม” และการทำงานร่วมกันระหว่างโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล องค์การบริหารส่วนจังหวัด และหน่วยงานในภาคส่วนต่าง ๆ จึงเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งจะนำไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ได้อย่างยั่งยืน” นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่นย้ำ