'พัฒนา' หารือโรงเรียนแพทย์-กทม.-ประกันสังคม ปั้น 'Super App' รวมทุกบริการสุขภาพในแอปฯ เดียว ตั้งเป้าใช้งานเฟสแรกสิ้นปีนี้

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นั่งหัวโต๊ะหารือร่วมโรงเรียนแพทย์ กทม. ประกันสังคม และหน่วยงานระบบสุขภาพของไทย รุกพัฒนา "Super App" ด้านสุขภาพ เชื่อมโยงข้อมูลรักษาพยาบาลทั่วกรุงเทพฯ รวมทุกบริการไว้ในแอปฯ เดียว ทั้งตรวจสอบสิทธิ นัดหมอ รับยา เทเลเมดิซีน ข้อมูลส่งเสริมสุขภาพ หวังยุติสับสนแอปฯ สุขภาพภาครัฐที่มีมากกว่า 50 แอปฯ ตั้งเป้าเปิดตัวเฟสแรกภายในสิ้นปี 2568 เป็นของขวัญและยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทย ตามนโยบาย Quick Win ใน 4 เดือน


นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ตามที่ได้มีการประกาศนโยบายเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการในช่วง 4 เดือน (Quick Win) ซึ่งหนึ่งในนั้นมีเรื่องของ "หมอไม่ล้า ประชาชนไม่รอ เชื่อมต่อทุกบริการผ่านเทคโนโลยี" โดยจะพัฒนาแอปพลิเคชั่น “หมอพร้อม” ให้เป็น "หมอพร้อม+" ซึ่งจะเป็น Super App ด้านสุขภาพหลักที่ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการต่างๆ ตั้งแต่การตรวจสอบสิทธิ, นัดหมายแพทย์, ดูประวัติการรักษา, รับยา, ปรึกษาแพทย์ทางไกล (Telemedicine) ไปจนถึงข้อมูลส่งเสริมสุขภาพ โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือการยุติความสับสนจากแอปพลิเคชันด้านสุขภาพของภาครัฐที่มีมากกว่า 50 แอปพลิเคชันในปัจจุบัน สู่การเป็น "Super App" เพียงแอปพลิเคชันเดียว เชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพเป็นระบบเดียวทั้งประเทศภายใต้มาตรฐานความปลอดภัยทางไซเบอร์ ซึ่งล่าสุดเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา ตนพร้อมด้วย นพ.สมฤกษ์ จึงสมาน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นำทีมผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขประชุมหารือการพัฒนา Super App เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลการรักษาพยาบาลทั่วกรุงเทพมหานคร ร่วมกับผู้บริหารระดับสูงจากหน่วยงานที่เป็นเสาหลักของระบบสุขภาพประเทศไทย ทั้งโรงเรียนแพทย์ คือโรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และโรงพยาบาลรามาธิบดี , กรุงเทพมหานคร, โรงพยาบาลราชวิถี, กรมการแพทย์, กรมอนามัย, สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.), สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน , สภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมฯ และแพทยสภา


"นี่คือจุดเริ่มต้นของการปฏิรูประบบสุขภาพดิจิทัลครั้งสำคัญที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง หลักคิดนี้ได้รับการตอบรับในระดับสูงจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสนับสนุนจากกระทรวงแรงงาน ซึ่งจะทำให้ข้อมูลและสิทธิประโยชน์ของผู้ประกันตนกว่าสิบล้านคน ถูกเชื่อมต่อเข้ากับระบบสุขภาพแห่งชาติได้อย่างสมบูรณ์ หัวใจหลักของความร่วมมือนี้ คือการทลายกำแพงข้อมูลระหว่างสถานพยาบาล ทำให้เกิดการเชื่อมโยงประวัติสุขภาพของผู้ป่วยแบบไร้รอยต่อ แพทย์จะสามารถเข้าถึงข้อมูลที่จำเป็นต่อการรักษาได้อย่างรวดเร็วและครบถ้วน ลดความซ้ำซ้อนในการสั่งยาและการตรวจทางห้องปฏิบัติการ เพิ่มความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการดูแลผู้ป่วย โดยตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนว่าประชาชนจะได้ใช้บริการเฟสแรกของ Super App ภายในสิ้นปี 2568 อย่างแน่นอน เพื่อเป็นของขวัญและยกระดับคุณภาพชีวิตด้านสุขภาพให้กับคนไทยทุกคน" นายพัฒนากล่าวทิ้งท้าย