ศูนย์ตรวจสารต้องห้ามในนักกีฬา ม.มหิดล หนึ่งเดียวในอาเซียนพร้อมสนับสนุนระบบสุ่มตรวจสารตามมาตรฐานสากล WADAหนุนซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพโปร่งใสและยุติธรรม
ใกล้เข้ามาแล้วสำหรับมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 9–20 ธันวาคม 2568 โดยจะมีนักกีฬากว่า 12,000 คนจาก 11 ประเทศ เข้าร่วมชิงชัยในกว่า 500 เหรียญทองจาก 50 ชนิดกีฬา ล่าสุด เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2568 ณ โรงแรมอโนมา แกรนด์ กรุงเทพฯ มหาวิทยาลัยมหิดล โดยศูนย์ตรวจสอบสารต้องห้ามในนักกีฬา (National Doping Control Centre: NDCC) สถาบันวิทยาศาสตร์การวิเคราะห์และตรวจสารในการกีฬา ประกาศความพร้อมด้านห้องปฏิบัติการ เครื่องมือ บุคลากร และมาตรฐานด้านสารต้องห้ามระดับโลก เพื่อสนับสนุนนโยบาย Clean Sport มุ่งยกระดับความโปร่งใสของซีเกมส์ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ
NDCC ม.มหิดล เป็น 1 ใน 29 ห้องปฏิบัติการทั่วโลกที่ได้รับการรับรองจากองค์การต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก (WADA) และเป็น ห้องปฏิบัติการแห่งเดียวในอาเซียน ที่ผ่านมาตรฐานสูงสุดด้านการตรวจสารต้องห้ามในนักกีฬา ทำให้ประเทศไทยมีศักยภาพรองรับการแข่งขันระดับภูมิภาคและนานาชาติได้อย่างมั่นใจ

รองศาสตราจารย์ ดร.สิทธิวัฒน์ เลิศศิริ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวช่วงหนึ่งในงานมหิดลชูศูนย์ตรวจโด๊ปมาตรฐานโลก เสริมศักยภาพไทยเจ้าภาพซีเกมส์ใสสะอาดว่า “นี่คือ Real World Impact ของมหิดลที่ผลักดันตลอดหลายทศวรรษ ไม่เพียงด้านสุขภาพหรือสังคม แต่รวมถึงวงการกีฬานานาชาติด้วย เราได้ทำงานร่วมกับองค์กรสำคัญ เช่น WADA และ INTERPOL มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับมาตรฐานต่อต้านสารต้องห้ามของไทยการเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ครั้งที่ 33 เป็นโอกาสสำคัญที่ประเทศไทยจะประกาศให้ภูมิภาครับรู้ว่า ‘กีฬาไทยโปร่งใสและยุติธรรม’ และมหิดลพร้อมสนับสนุนเต็มที่ ทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาบุคลากร และความร่วมมือระดับโลก เพื่อให้ชัยชนะของนักกีฬาทุกคนเป็นชัยชนะที่แท้จริง”
ทางด้าน Mr.Gunter Younger ผู้อำนวยการฝ่ายข่าวกรองและการสืบสวน องค์การต่อต้าน สารต้องห้ามโลก (WADA) กล่าวว่า “WADA มองไทยเป็นศูนย์กลางสำคัญของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทั้งด้านมาตรฐานและความพร้อมของบุคลากร ศูนย์ตรวจสารต้องห้ามของมหิดลถือเป็นพันธมิตรที่มีบทบาทอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการสนับสนุนโครงการเสริมสร้างศักยภาพด้านข่าวกรองและการสืบสวน (I&I) ที่ WADA จัดร่วมกับ INTERPOL ในปีที่ผ่านมาความร่วมมือของไทยและมหิดลทำให้เราเชื่อมั่นว่าซีเกมส์ครั้งนี้จะเป็นการแข่งขันที่ใสสะอาด ยุติธรรม และเป็นแบบอย่างที่ดีของภูมิภาคนี้”
รองศาสตราจารย์.ดร.สิริพงษ์ ฐิตะมาดี ผู้อำนวยการสถาบันวิทยาศาสตร์การวิเคราะห์และตรวจสารในการกีฬา มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า “ในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา ไทยพัฒนาระบบต่อต้านสารต้องห้ามอย่างก้าวกระโดด ทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐาน เทคนิคการตรวจวิเคราะห์ และความร่วมมือระดับนานาชาติ โดยมีศูนย์ตรวจโด๊ปของมหิดลเป็นหัวใจหลัก ความก้าวหน้าเหล่านี้ช่วยให้ไทยสามารถจัดการแข่งขันระดับนานาชาติได้อย่างโปร่งใสและได้รับความเชื่อถือโดยเมื่ออาคารปฏิบัติการแห่งใหม่ของสถาบัน ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างเมื่อแล้วเสร็จจะยิ่งทำให้ไทยมีศูนย์ตรวจสารต้องห้ามที่ทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชีย รองรับสารรูปแบบใหม่ การตรวจผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และเทคนิคเฉพาะทางอีกหลายแขนง นี่คือการยกระดับศักยภาพของประเทศอย่างแท้จริง

รองศาสจารย์ ดร.ณัฏฐินี พันธ์วิศวาส หัวหน้าศูนย์ตรวจสอบสารต้องห้ามในนักกีฬา (NDCC) กล่าวว่า “ภารกิจของ NDCC คือการทำให้ทุกชัยชนะบนสนามแข่งขันเป็นชัยชนะที่แท้จริง เราพร้อมตรวจวิเคราะห์ตัวอย่างตามมาตรฐาน WADA พร้อมเทคนิคตรวจสารใหม่ การตรวจผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร–สมุนไพร และการพัฒนาห้องปฏิบัติการเฉพาะทางในอาคารใหม่ ซึ่งจะเพิ่มศักยภาพการตรวจสารได้หลายเท่าตัวสถาบันได้ลงทุนพัฒนาเครื่องมือวิทยาศาสตร์ เทคนิคการวิเคราะห์สารต้องห้าม และระบบบริหารจัดการที่ตอบสนองมาตรฐาน WADA สิ่งเหล่านี้ทำให้เรามีศักยภาพรองรับการตรวจตัวอย่างจำนวนมาก พร้อมทั้งพัฒนาระบบการวิจัยเพื่อตรวจจับสารรูปแบบใหม่ ๆการเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ครั้งนี้คือจังหวะสำคัญที่เราจะได้แสดงบทบาทดังกล่าวต่อภูมิภาค ศูนย์พร้อมอย่างเต็มที่สำหรับซีเกมส์ครั้งที่ 33 และพร้อมสนับสนุนประเทศไทยในฐานะเจ้าภาพการแข่งขันที่โปร่งใสที่สุดครั้งหนึ่งของภูมิภาค”
นายวราวุธ ศิลปอาชา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และประธานคณะกรรมการอำนวยการสมาคมกีฬาฟิกเกอร์และสปีดสเกตติ้งแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “ในฐานะผู้ทำงานด้านการบริหารกีฬามาอย่างต่อเนื่อง ผมเห็นได้ชัดถึงพัฒนาการของระบบตรวจสารต้องห้ามของไทย โดยเฉพาะการที่เรามีห้องแล็บมาตรฐาน WADA ของตัวเอง สิ่งนี้ทำให้ไทยมีความพร้อมทั้งในเชิงการแข่งขันและเชิงความเชื่อมั่นของสังคมนานาชาติซีเกมส์ครั้งนี้จึงเป็นโอกาสให้ไทยแสดงให้เห็นว่า เราสามารถจัดมหกรรมกีฬาที่ใสสะอาด ยุติธรรม และโปร่งใสได้อย่างสมบูรณ์แบบ”

นางสาวนันทกาญจน์ เอี่ยมสอาด (อันนา) นักกีฬาแบดมินตันทีมชาติไทย กล่าวว่า “สำหรับนักกีฬา สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการได้แข่งขันในระบบที่ยุติธรรม การที่ประเทศไทยมีศูนย์ตรวจโด๊ปที่ได้มาตรฐานโลก ทำให้พวกเรามั่นใจว่าทุกเหรียญรางวัลจะสะท้อนความสามารถจริง ๆ ของนักกีฬา และทำให้ซีเกมส์ครั้งนี้เป็นการแข่งขันที่นักกีฬาทุกชาติไว้วางใจได้”
การที่ประเทศไทยมีศูนย์ตรวจสารต้องห้ามที่ได้รับการรับรองจาก WADA ตั้งอยู่ภายในประเทศ นับเป็นรากฐานสำคัญของความน่าเชื่อถือในเวทีกีฬานานาชาติ การเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ครั้งที่ 33 จึงไม่ใช่เพียงบทบาทการจัดการแข่งขันเท่านั้น แต่เป็นการประกาศให้ภูมิภาคเห็นว่าไทยมีศักยภาพด้านมาตรฐานกีฬา โปร่งใส ยุติธรรม และเป็นผู้นำในระบบต่อต้านสารต้องห้ามของเอเชียตะวันออก เฉียงใต้
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์ตรวจสอบสารต้องห้ามในนักกีฬา (NDCC) มหาวิทยาลัยมหิดล โทร.02-354-7147 ต่อ 9

