ดื่มน้ำมากเกินไป อาจทำให้เกิดภาวะน้ำเป็นพิษ ทำให้ไตและหัวใจทำงานหนัก

การดื่มน้ำเป็นสิ่งที่ดีต่อสุขภาพ แต่บางครั้งสภาพอากาศที่ร้อนจนเกินไป บางทีอาจเผลอดื่มน้ำมากเกินไป ผลเสียจึงเกิดกับสุขภาพ เพราะว่าไตจะทำงานหนักมากขึ้น ในการขับน้ำส่วนเกินออกจากร่างกาย หากมีปัญหาเกี่ยวกับไตอยู่แล้ว จะยิ่งเป็นอันตรายต่อร่างกายมากยิ่งขึ้น อีกทั้งร่างกายยังสามารถเกิดภาวะน้ำเป็นพิษได้


ดื่มน้ำมากเกินไปจะเกิดผลเสียอย่างไร
โซเดียมต่ำกว่าปกติ
- ค่าปกติของโซเดียมในร่างกายนั้นจะอยู่ที่ 135-145 mEg/L.
- แต่ถ้าหากดื่มน้ำมากเกินไปร่างกายเสียสมดุล โดยค่าของโซเดียมนั้นจะอยู่ต่ำกว่า 135 mEq/L นี่คือภาวะโซเดียมในเลือดต่ำ
- อาการของภาวะโซเดียมในเลือดต่ำมักจะมีอาการสับสนเพียงเล็กน้อย หรือการเป็นตะคริวที่กล้ามเนื้อ หากมีอาการรุนแรงจะมีความรู้สึกง่วงนอน และไม่รู้สึกตัวในที่สุด


เซลล์บวม
- ในร่างกายของมนุษย์จะมีโซเดียม และโพแทสเซียมไอออนที่ทำหน้าที่เป็นอิเล็กโทรไลต์ในร่างกาย และรักษาสมดุลของเหลว ระหว่างเซลล์ และเลือด หากดื่มน้ำมากเกินไปน้ำก็จะเข้าไปในเซลล์ ทำให้เซลล์บวมมากขึ้น จะมีอาการปวดศีรษะ ชัก และไม่รู้สึกตัว มีความเสี่ยงในการเสียชีวิต


กล้ามเนื้อเป็นตะคริว
- เมื่อร่างกายเสียสมดุลจากการดื่มน้ำมากเกินไป กล้ามเนื้อจะเกิดการหดเกร็ง และเป็นตะคริวในที่สุด


ไตทำงานหนัก
-หากดื่มน้ำครั้งละมากๆ ไตจะกรองน้ำส่วนเกินออกจากเลือดอย่างหนัก ส่งผลให้เกิดโรคไตเรื้อรัง และโรคหัวใจและหลอดเลือดได้


หัวใจทำงานหนัก
-เมื่อดื่มน้ำเข้าไปในร่างกาย ลำไส้เล็กจะทำการออสโมซิส (Osmosis) น้ำไปในกระแสเลือด เมื่อปริมาณน้ำเข้าสู่ร่างกายเยอะ ปริมาตรเลือดก็เพิ่มสูงขึ้น หัวใจจึงต้องทำงานหนัก สามารถเกิดอาการชักได้


โพแทสเซียมต่ำกว่าปกติ
- เมื่อได้รับน้ำมากเกินไป ทำให้ระดับของโพแทสเซียมในร่างกายต่ำลง ทำให้ความดันโลหิตต่ำ มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน เสี่ยงต่อการเป็นอัมพาตได้


เหนื่อย อ่อนเพลีย
- หากไตทำงานหนักขึ้น ร่างกายจะมีความรู้สึก อ่อนเพลีย และเหนื่อยได้เช่นกัน


อาการที่เกิดขึ้นหากดื่มน้ำมากเกินไป
ไตไม่สามารถขับน้ำออกไปได้หมด จะเกิดอาการดังนี้
- คลื่นไส้
- อาเจียน
- ท้องเสีย
- อ่อนเพลีย


เมื่อเซลล์เกิดการบวมน้ำ จะเกิดอาการดังนี้
- สับสน มึนงง
- ปวดศีรษะ
- ง่วงซึม
- ริมฝีปาก มือ และเท้า มีอาการบวม
ระดับแร่ธาตุในร่างกายลดลงผิดปกติ จะเกิดอาการดังนี้
- เกร็งของกล้ามเนื้อหรือตะคริว
- เกิดอาการชัก
- สูญเสียการรับรู้
- การเสียชีวิตได้


บุคคลที่มีความเสี่ยงดื่มน้ำมากเกินไป
- ผู้ป่วยโรคไต
- ผู้ป่วย โรคหัวใจ
- นักกีฬา หรือผู้ที่ออกกำลังกายอย่างหนัก
- ผู้ที่อาศัยอยู่ในเขตอากาศร้อน
- ผู้ที่เคยใช้ยาเสพติด รวมถึงการติดแอลกอฮอล์
- ผู้ที่กำลังลดน้ำหนัก
- ทารกที่ไม่ได้รับนมแม่ หรือทารกที่อยู่ในครรภ์ของมารดาที่ติดยาเสพติด
- ผู้ป่วยจิตเวช เช่น ผู้ป่วยโรคไบโพลาร์


การดื่มน้ำให้เหมาะสมกับร่างกาย
- ผู้ชายควรดื่มน้ำไม่เกิน 3.7 ลิตรต่อวัน
- ผู้หญิงควรดื่มน้ำไม่เกิน 2.7 ลิตรต่อวัน
- ควรจิบน้ำทีละน้อยตลอดทั้งวัน
-หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำทีละมากๆ ในเวลาสั้นๆ


นอกจากการดื่มน้ำแล้ว การปัสสาวะก็เป็นเรื่องที่สำคัญ ปกติแล้วควรปัสสาวะทุกๆ 3-4 ชั่วโมง ใน 1 วัน และสีปัสสาวะต้องเป็นสีเหลืองอ่อนๆ หากมีการปัสสาวะน้อยกว่า 3-4 ครั้ง ต่อวัน และปัสสาวะเป็นสีเข้ม แสดงว่าร่างกายได้รับน้ำน้อยจนเกินไป หากมีการปัสสาวะมากกว่า 6–8 ครั้งต่อวัน และปัสสาวะมีสีใส แสดงว่าร่างกายได้รับน้ำมากเกินไป

ข้อมูลจากโรงพยาบาลเพชรเวช


https://www.petcharavejhospital.com/en/Article/article_detail/Over-Drink-Water-Negative-Effects-to-Health?amp=1