4 สัญญาณเตือนเลือดหนืด เสี่ยงวูบอันตรายถึงตาย และการป้องกัน

หลายคนตกใจที่อยู่ดี ๆ ก็วูบ หน้ามืด เหมือนโลกหมุน จริง ๆ แล้วหนึ่งในตัวการคือ “เลือดหนืด เลือดไหลช้า” ครับ พอเลือดข้นขึ้นเพราะดื่มน้ำน้อย ไขมันสูง เครียดจัด หรือไม่ค่อยขยับ หัวใจต้องทำงานหนักกว่าเดิม สุดท้ายเสี่ยงลิ่มเลือด หลอดเลือดอุดตันแบบเฉียบพลันได้เลย นี่คือ 4 สัญญาณสำคัญที่ถ้าเจอ ต้องรีบปรับพฤติกรรมทันทีครับ
1) มือเท้าเย็นง่าย ปลายมือปลายเท้าชาบ่อย
เวลาเลือดหนืด มันจะไหลไปส่วนปลายช้ากว่าปกติ ปลายประสาทเลยโดนเลือดไปเลี้ยงไม่พอ ทำให้ “เย็น–ชา–จี๊ด” ตามปลายมือปลายเท้า โดยเฉพาะคนที่นั่งนาน ใส่รองเท้าคับ สูบบุหรี่ หรือกินเค็มเป็นประจำ ถ้าอาการลามถึงช่วงแขน–ขา เป็นบ่อย ๆ แปลว่าเลือดเริ่มไหลไม่ลื่นจริง ๆ แล้วครับ
2) เหนื่อยง่าย เดินนิดเดียวก็ใจสั่น
เลือดหนืด = หัวใจต้องออกแรงมากขึ้นในการสูบฉีด เลยทำให้เหนื่อยเร็ว หายใจถี่ หรือมี “ใจสั่นตุ๊บ ๆ” หลังเดินขึ้นบันไดแค่ไม่กี่ขั้น ถ้าเมื่อก่อนทำกิจกรรมได้ปกติ แต่พักหลังเริ่มเหนื่อยกว่าเดิม แบบนี้ไม่ปกติครับ อาการนี้จะเจอบ่อยในคนที่ความดันสูง ไขมันสูง นอนน้อย หรือเครียดสะสมเรื้อรังครับ
3) เวียนหัว หน้ามืดเวลาเปลี่ยนท่าเร็ว ๆ
ยืนขึ้นแล้ววูบ คล้ายจะล้ม อันนี้บอกใกล้ชัดที่สุดว่าเลือดไหลช้าครับ พอเลือดข้นขึ้น มันจะไหลขึ้นสมองช้า ทำให้ “สมองขาดเลือดชั่วคราว” เลยรู้สึกหน้ามืด เหมือนภาพดับไปวูบเดียว ถ้าเป็นหลังตื่นนอน หรือลุกจากเก้าอี้ที่นั่งยาว ๆ นี่คือสัญญาณที่ห้ามมองข้ามเลยครับ
4) ผิวซีดหมอง แห้งง่าย เหมือนเลือดมาเลี้ยงผิวไม่พอ
ผิวคนเลือดไหลดีจะดูชุ่ม ๆ มีน้ำมีนวล แต่ถ้าเลือดหนืด ใบหน้าจะเริ่มซีดหมอง ไม่สดใส บางคนทาครีมยังไงก็ไม่ดีขึ้น เพราะต้นเหตุคือ “เลือดส่งอาหาร–ออกซิเจนให้ผิวได้น้อยลง” มักมาพร้อมอาการเหนื่อยง่าย มือเท้าเย็น หรือเบลอบ่อย ๆ ครับ
เลือดไหลเวียนดีขึ้นได้ แค่ทำแบบนี้ทุกวัน


ไม่ต้องยา ไม่ต้องเสริมเยอะ แค่จัดนิสัยให้ถูก เลือดก็ลื่นขึ้นได้จริงครับ
1) ดื่มน้ำทีละน้อย แต่ดื่มเรื่อย ๆ
การกระดกทีเดียวครึ่งลิตรไม่ช่วยนะครับ ให้จิบน้ำเป็นช่วง ๆ ทั้งวัน ร่างกายจะดูดซึมได้ดีกว่า และเลือดจะกลับมานิ่ม ลื่น ไม่เหนียวข้นแบบเดิม
2) ขยับร่างกายทุก 45–60 นาที
นั่งนาน = เลือดค้าง = เลือดหนืด แค่ลุกยืดตัว 1 นาที หรือเดินไปห้องน้ำรอบหนึ่ง ระบบหมุนเวียนเลือดจะดีขึ้นทันที ยิ่งถ้ามีเวลาเดินเร็ว 15–20 นาทีต่อวัน ยิ่งช่วยให้เลือดลื่นแบบรู้สึกได้เลยครับ
3) ลดหวาน มัน เค็ม โดยเฉพาะตอนเย็น
น้ำตาลสูง–ไขมันสูงทำให้เลือดเหนียวขึ้น เค็มทำให้ร่างกายกักน้ำ กดหัวใจทำงานหนัก พอเลือดเหนียว + หัวใจเหนื่อย = วูบง่ายมาก ลองลดหวานหลังบ่ายสอง ลดอาหารมันตอนเย็น จะช่วยได้เยอะมากครับ
4) หายใจลึกวันละ 5 นาทีช่วยเลือดไหลลื่นขึ้นจริง
การหายใจลึกทำให้หลอดเลือดขยายตัว หัวใจเต้นเป็นจังหวะดีขึ้น เลือดไหลได้สม่ำเสมอ โดยเฉพาะคนเครียด หรือทำงานหน้าจอทั้งวัน ลองทำก่อนนอนหรือระหว่างพักได้เลยครับ


ลองจิบน้ำเป็นช่วง ๆ ขยับร่างทุกชั่วโมง ลดหวานมันเค็มสักนิด แล้วหายใจลึกวันละ 5 นาที ถ้าทำต่อเนื่อง เลือดจะลื่นขึ้น เหนื่อยน้อยลง ไม่วูบง่าย ใครทำแล้วดีขึ้น มาเล่าให้ผมฟังได้นะครับ หรือใครมีคำถามก็พิมพ์มาถามได้เลยครับ


 

ขอบคุณข้อมูลจาก Facebook หมดเจด