“ไข้หวัด vs ไข้หวัดใหญ่”

www.medi.co.th

การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ ส่งผลให้เกิดการเจ็บป่วยจากการติดเชื้อไวรัสทางเดินหายใจได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะอาการคัดจมูก มีน้ำมูก และไข้ แต่จะทราบได้อย่างไรว่า อาการที่เด็กเป็นนี้ เกิดจากโรคไข้หวัด หรือไข้หวัดใหญ่ ลองมาดูความแตกต่าง เพื่อการดูแลและป้องกันที่ถูกต้อง


ไข้หวัด เกิดจากเชื้อไวรัสทางเดินหายใจ อาการมักไม่รุนแรงมาก เช่น



  • มีไข้

  • ไอ มีเสมหะ

  • มีน้ำมูก จาม

  • คัดจมูก

  • อ่อนเพลีย


ไข้หวัดใหญ่ เกิดจากเชื้อไวรัส Influenza โดยที่ระบาดในคนมักเกิดจากสายพันธุ์ A และ B สำหรับอาการแสดง จะรุนแรงกว่าไข้หวัดธรรมดามาก



  • มีไข้สูง

  • ไอ เจ็บคอ

  • มีน้ำมูก

  • อ่อนเพลีย

  • ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ

  • ทานไม่ค่อยได้

  • คลื่นไส้ อาเจียน

  • บางรายอาจหนาวสั่น

  • บางรายอาจมีท้องเสียร่วมด้วย


กลุ่มเสี่ยงของโรคไข้หวัดใหญ่



  • อายุ โดยเฉพาะเด็กเล็กอายุน้อยกว่า 2 ปี และผู้สูงอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป

  • โรคประจำตัว โดยเฉพาะโรคปอด โรคหัวใจ ภูมิคุ้มกันต่ำ

  • สตรีมีครรภ์


อย่างไรก็ดี หากเด็กมีไข้ร่วมกับอาการฉุกเฉินต่าง ๆ เช่น ชัก หายใจหอบ อาเจียน อุจจาระเหลว ปัสสาวะน้อย ควรรีบมาพบแพทย์เพื่อรับการรักษาทันที หากแพทย์เห็นสมควรให้รักษาด้วยยาต้านไวรัส หรือยาปฏิชีวนะ ควรให้เด็กได้รับยาจนครบตามกำหนด และหมั่นสังเกตอาการ ถ้าอาการไม่ดีขึ้นหรือทรุดลงควรมาพบแพทย์ก่อนวันนัดติดตามอาการ


วัคซีนป้องไข้หวัดใหญ่



  • เด็กสามารถรับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ ได้ตั้งแต่อายุ 6 เดือนขึ้นไป

  • เด็กอายุน้อยกว่า 8 ในปีแรกควรรับวัคซีน 2 เข็มและ 1 เข็มในปีต่อไป

  • เด็กอายุมากกว่า 8 ปี ควรรับวัคซีน ปีละ 1 เข็ม เป็นประจำทุกปี


นอกจากนี้ ควรเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของเด็กตั้งแต่แรกเริ่ม ด้วยการปลูกฝังการล้างมือเป็นประจำ รับประทานอาหารที่สะอาด สดใหม่ มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ นอกจากนี้ควรรับวัคซีนตามที่แพทย์แนะนำ