วูบหมดสติ เกิดจากโรคหัวใจหรือโรคทางสมองกันแน่?

www.medi.co.th

อาการวูบ เป็นภาวะที่ไม่ปกติของร่างกาย โดยมักเกิดจากการที่เลือดและออกซิเจนไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอทำให้รู้สึกเวียนศีรษะ ใจหวิวๆ คลื่นไส้ ทรงตัวไม่อยู่ บางคนอาจมีอาการเตือนล่วงหน้ามาก่อน เช่น รู้สึกหนักศีรษะ รู้สึกโคลงเคลง ไม่มีแรงประคองตัว ตามัวลง หรือมองเห็นภาพเป็นจุด ฯลฯ แล้วจึงเริ่มมีอาการวูบหรือเป็นลม


วูบจากความผิดปกติของหัวใจ ผู้ป่วยมักมีอาการหน้ามืด ใจสั่น มวนท้อง เหงื่อแตก ตัวเย็น คลื่นไส้อาเจียน ที่สำคัญคือมักมีอาการวูบในช่วงเวลาสั้นๆ ตื่นขึ้นมาก็ยังจำเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ได้ และกลับมาเป็นปกติได้ อาจเกิดจากกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด หลอดเลือดหัวใจอุดตัน หัวใจเต้นผิดจังหวะ หรือโรคที่เกิดจากโครงสร้างหัวใจผิดปกติ เช่น ลิ้นหัวใจตีบหรือรั่ว และโรคอื่นๆ ส่งผลให้การสูบฉีดเลือดไม่คล่องตัว เลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ
วูบจากความผิดปกติของสมอง ผู้ป่วยมักมีอาการวูบร่วมกับอาการทางระบบประสาทอื่นๆ เช่น อาการชักเกร็ง เหม่อ สับสนเมื่อตื่นจากอาการวูบ ผู้ป่วยจะไม่สามารถจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ได้ หรืออาจมีอาการอื่นร่วมด้วยเมื่อฟื้นขึ้นมา เช่น ปากเบี้ยว ลิ้นแข็ง พูดไม่ชัด ชาหรืออ่อนแรงครึ่งซีก ซึ่งอาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณเตือนถึงความผิดปกติ ของภาวะทางสมอง เช่น หลอดเลือดสมองตีบหรืออุดตัน ทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ หรืออาจเกิดจากโรคทางสมองอื่นๆ เช่น โรคลมชัก หรือเกิดความผิดปกติของสมองส่วนที่เกี่ยวข้องกับการทรงตัว ซึ่งจะทำให้เกิดอาการวูบ เวียนศีรษะบ่อยๆ ได้
การรักษาและควบคุมภาวะวูบหมดสตินั้น ขึ้นอยู่กับสาเหตุของการเกิดโรค บางสาเหตุสามารถรักษาหายได้แต่บางสาเหตุอาจไม่สามารถรักษาให้หายได้ แต่สามารถรักษาเพื่อลดความรุนแรง และความถี่ของการเกิดโรคได้ และช่วยให้เรารู้จักปรับการใช้ชีวิต รวมถึงหลีกเลี่ยงงานบางอาชีพที่จะมีอันตรายจากการอาการวูบ เช่น พนักงานขับรถ ช่างทาสี งานที่ต้องทำงานกับเครื่องจักร เป็นต้น


ดังนั้นผู้ที่เคยมีอาการวูบ เป็นลมหมดสติ และไม่แน่ใจสาเหตุการเกิด ควรไปปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุและรับการรักษาอย่างเหมาะสม เพราะหากปล่อยทิ้งไว้ อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้... นอกจากนี้ผู้ป่วยหรือผู้ใกล้ชิดควรต้องสังเกตอาการวูบที่เกิดขึ้น เพื่อช่วยให้แพทย์สามารถวินิจฉัยโรคได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ