โรคตาแดง เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส adenovirus ไวรัสชนิดนี้แบ่งเป็นกลุ่มย่อย ๆ ได้มากกว่า 50 กลุ่ม และประมาณ 1 ใน 3 สามารถทำให้เกิดโรคตาแดงได้ ส่วนใหญ่มีการระบาดในช่วงหน้าฝนเกือบทุกปี พบได้ทุกเพศ ทุกวัย และมักเกิดในโรงเรียน โรงพยาบาล ที่ทำงาน สถานเลี้ยงเด็ก ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีผู้คนอยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก การติดต่อของโรค เกิดจากการสัมผัสขี้ตาหรือน้ำตาของผู้ป่วยโดยตรง การใช้ของใช้ร่วมกัน หรือแม้กระทั่งการไอ จาม หายใจรดกัน ไม่ติดต่อทางการสบตากัน หรือรับประทานอาหารร่วมกัน อาการเกิดได้ภายใน 1-2 วัน ระยะการติดต่อไปยังผู้อื่นประมาณ 14 วัน  ระยะเวลาของโรคจะเป็นประมาณ 5-14 วัน หากไม่มีโรคแทรกซ้อนอื่น ๆ

 

อาการ
* ตาแดง เคืองตา น้ำตาไหล ตาบวม มีขี้ตา
* เป็นหลังรับเชื้อใน 1-2 วัน
* อาการคงอยู่ได้นาน 1-2 สัปดาห์
การติดต่อ
* การสัมผัสหรือใช้ของร่วมกันในครัวเรือนที่มีผู้ป่วย เช่น ผ้าเช็ดตัว หมอน
* การสัมผัสพื้นผิวในที่สาธารณะที่มีเชื้อโรคจากผู้ป่วย เช่น ลูกบิดประตู ปุ่มลิฟต์ เบาะที่นั่ง
* การสัมผัสเชื้อโรคจากแหล่งน้ำ ฝุ่น โคลนในธรรมชาติ
การรักษา
* การให้ยาปฏิชีวนะชนิดหยอดและป้าย เพื่อต้านเชื้อแบคทีเรีย เชื้อปรสิต
* หากเป็นจากเชื้อไวรัสไม่มียารักษาโดยเฉพาะ อาจใช้ยาปฏิชีวนะหยอด เพื่อป้องกันการติดเชื้อซ้ำเติมจากแบคทีเรีย
* สวมแว่นกันแดดหากมีอาการเคืองตา แพ้แสง
* ไม่ปิดตา และไม่ต้องล้างตา
* หากอาการไม่ดีขึ้นควรพบแพทย์เพื่อการวินิจฉัยและการรักษา
การป้องกันการติดเชื้อ
1.ควรล้างมือบ่อย ๆ และระวังไม่ใช้มือสัมผัสรอบดวงตา หรือขยี้ตา
2.เมื่อจะจับบริเวณตาหรือขยี้ตา ให้ล้างมือก่อนทุกครั้ง
3.ไม่ใช้ผ้าเช็ดหน้าหรือผ้าเช็ดตัวร่วมกับผู้ที่เป็นโรคตาแดง
4.อย่าปล่อยให้แมลงหวี่ หรือแมลงวันตอมตา
5.หมั่นดูแลรักษาความสะอาดของร่างกาย สิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ เช่น เสื้อผ้า ผ้าเช็ดหน้า ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ให้สะอาดอยู่เสมอ ผู้ป่วยโรคตาแดงควรหยุดเรียน หรือหยุดงานรักษาตัวอยู่ที่บ้าน เพื่อป้องกันไม่ให้โรคตาแดงลุกลาม หรือติดต่อสู่คนอื่น