1.ไม่ควรอาบน้ำอุ่น หรืออาบน้ำนานเกินไป
หน้าหนาวแบบนี้ใครหลายคนคงต้องเลือกอาบน้ำอุ่นแน่ ๆ แต่บอกเลยว่า เลี่ยงได้จะดีกว่านะคะ เพราะน้ำอุ่นจะชะล้างเอาน้ำมันที่หล่อเลี้ยงผิวออก ทำให้ผิวยิ่งแตกง่าย แห้งเป็นขุยหนักกว่าเดิม แต่เข้าใจว่าอากาศหนาว ๆ ก็ยากจะทนอาบน้ำเย็น ๆ ใช่ไหมล่ะคะ ดังนั้น ถ้าหลีกเลี่ยงการอาบน้ำอุ่นไม่ได้จริง ๆ ก็ให้เลือกอาบน้ำที่อุ่นน้อยที่สุด โดยอาบแต่ละครั้งไม่ควรเกิน 15 นาที และอาบไม่เกินวันละ 2 ครั้งจะดีที่สุดค่ะ
2. เลือกใช้สบู่ให้ถูก
บางคนอาจสังเกตได้ว่า หลังจากถูสบู่แล้วอาบน้ำ จะรู้สึกได้ว่าผิวมีความมันน้อยลง ผิวรู้สึกแห้งตึง นั่นก็เพราะสบู่จะทำให้ผิวแห้ง และอาจมีปัญหาผิวแตกตามมาได้ง่าย ดังนั้น ควรเลือกสบู่ที่มีคุณสมบัติเพิ่มความชุ่มชื้น และเหมาะสมกับสภาพผิวของเรา
3.ขัดผิวให้น้อยลง
สายรักผิวที่ชอบขัดหรือสครับผิวต้องพักก่อนเลยค่ะ เพราะการขัดผิวจะยิ่งไปทำให้ผิวชั้นนอกนั้นบางลง พอผิวบางก็ง่ายต่อการเกิดผิวแตก-แห้งเสีย ถ้าอยากขัดจริง ๆ ก็ให้ลดเหลือแค่สัปดาห์ละครั้งก็เพียงพอแล้วค่ะ
4.อาบน้ำเสร็จแล้วต้องรีบทาโลชั่น
ช่วงที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จแล้วเช็ดตัวพอหมาด คือจังหวะที่ดีในการทาโลชั่นบำรุงผิวเลยล่ะค่ะ เพราะโลชั่นที่ทาจะเก็บล็อกความชุ่มชื้น และความเนียนนุ่มของผิวไว้ได้ยาวนานเป็นพิเศษกว่าการทาโลชั่นในช่วงเวลาทั่วไป จึงช่วยลดโอกาสการเกิดผิวแตกระหว่างวันได้
สิ่งสำคัญคือ การเลือกใช้โลชั่นบำรุงผิว ที่มีคุณสมบัติที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น และดูแลรักษาปัญหาผิว โดยเลือกโลชั่นที่มีส่วนประกอบที่ทำหน้าที่ในการเพิ่มความชุ่มชื้น เช่น Argan oil , Glycerin, mineral oil และหลีกเลี่ยงครีมที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ น้ำหอม หรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเรตินอยด์ เพราะจะทำให้ผิวแห้งมากยิ่งขึ้นค่ะ
5.ทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน
นอกจากความเย็นในหน้าหนาว จะเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ผิวแตกแล้ว แสงแดดก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ต้องระวังเลยค่ะ เพราะแดดจะทำลายความชุ่มชื้นของผิว ถ้าผิวเจอทั้งอากาศเย็น เจอทั้งแดด บอกเลยว่าผิวยิ่งแตกแห้งแบบทวีคูณไปเลยค่ะ ฉะนั้น นอกจากจะต้องทาโลชั่นแล้ว ก่อนออกจากบ้านก็อย่าลืมที่จะทาครีมกันแดดด้วยนะคะ โดยเลือกใช้ครีมที่มี SPF 30+ ขึ้นไป จะช่วยป้องกันแสงแดดไม่ให้ทำลายความชุ่มชื้นของผิวได้ดียิ่งขึ้นค่ะ
6.เลือกเสื้อผ้าที่ไม่ทำให้ผิวระคายเคือง
ในหน้าหนาวหลายคนจะเลือกใส่เสื้อผ้าขนสัตว์ หรือสเวตเตอร์ที่ทำจากใยสังเคราะห์ใช่ไหมล่ะคะ ซึ่งเนื้อผ้าพวกนี้ส่วนใหญ่จะทำลายผิว ทำให้รู้สึกระคายเคืองตามผิวหนัง เพิ่มโอกาสที่ผิวจะแตกแห้งกว่าเดิม ดังนั้น ในช่วงหน้าหนาวนี้ ให้พยายามเลือกสวมใส่เสื้อผ้าที่มีเนื้อผ้าที่นุ่มสบาย สัมผัสไม่ระคายเคืองผิวอย่างพวกผ้าคอตตอน จะดีที่สุดค่ะ
7.ใส่ถุงเท้ายาวป้องกันผิวที่ขาแตก
ผิวบริเวณหน้าแข้ง หรือช่วงขา เป็นอีกบริเวณที่หลายคนเจอปัญหาผิวแตกมาก บางคนถึงกับลอกออกมาเป็นแผ่น ๆ สำหรับใครที่มีปัญหานี้ ให้ทาโลชั่นบำรุงผิวที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น แล้วสวมถุงเท้ายาวทับทันที จะช่วยให้ผิวคงความชุ่มชื้นได้ดี แถมยังช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกายได้อีกด้วยค่ะ
8.กินอาหารที่ช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น
นอกจากเราจะดูแลผิวภายนอกให้ดีแล้ว เราก็ต้องดูแลไปถึงภายในค่ะ ด้วยการกินอาหารที่มีส่วนช่วยในการเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ทำให้ผิวอิ่มน้ำไม่แตกง่าย เช่น
omega 3 เช่น ปลา ถั่ว เนื้อไก่ ฯลฯ จะช่วยเติมไขมันให้ผิว ซึ่งเป็นไขมันชนิดดี ไม่ส่งผลเสียต่อร่างกายมากนัก ทำให้ผิวไม่แห้งแตกง่ายค่ะ
เลือกกินผักผลไม้ที่มีวิตามิน A, C, E และ Zinc เพื่อเติมอาหารให้กับผิว ซึ่งมีส่วนช่วยในการผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินในผิว ทำให้ผิวเรียบเนียน และคงความชุ่มชื้นได้นาน
ผักที่ช่วยทำให้ผิวอิ่มน้ำ เช่น แตงกวา ฟัก แครอท มะเขือเทศ ฯลฯ
ผลไม้ที่ช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นจากภายใน เช่น แตงโม แคนตาลูป แอปเปิ้ล ส้ม กีวี ฯลฯ
9.อย่าปล่อยให้ร่างกายขาดน้ำ
ช่วงหน้าหนาวเป็นช่วงที่ร่างกายต้องการน้ำเป็นพิเศษไม่ต่างจากหน้าร้อนเลยค่ะ แม้จะไม่รู้สึกกระหายน้ำ แต่จริง ๆ แล้วภายในเรานั้นต้องการน้ำมาช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ซึ่งถ้าร่างกายมีน้ำเพียงพอ ก็จะส่งผลให้ผิวนั้นอิ่มน้ำและคงความชุ่มชื้นได้ดี ดังนั้น ควรดื่มน้ำเปล่าวันละ 8-10 แก้ว หรือกินน้ำตามน้ำหนัก ก็จะช่วยให้ผิวดี แถมยังมีส่วนช่วยให้น้ำหนักลดด้วยค่ะ บอกเลยว่า สายดูแลรูปร่างต้องไม่พลาดเทคนิคนี้เลยค่ะ
10.ห้ามดึง แกะ เกา ผิวที่หลุดลอกออกมา
ผิวที่แตกมักจะร่อนออกมาเป็นแผ่น ๆ หรือขุย ๆ หลายคนก็อดใจไม่ไหวที่จะดึงหรือลอกออกมา ซึ่งยิ่งเราไปดึงมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำลายชั้นผิวเรามากเท่านั้น แถมยังทำให้ผิวอักเสบจนอาจติดเชื้อได้ ควรปล่อยให้ผิวหลุดลอกออกมาเองตามธรรมชาติจะดีกว่า แต่ถ้าทนไม่ไหวจริง ๆ ให้ใช้สำลีชุบน้ำเกลือหรือน้ำเปล่า มาเช็ดเบา ๆ ให้ผิวที่ลอกหลุดออก จากนั้นให้รีบทาโลชั่นบำรุงผิวทันที

ข้อมูลจาก ALLWELLHEALTHCARE