กรมอนามัย รับมอบเทคโนโลยี Dust Boy เซ็นเซอร์คุณภาพอากาศ 500 เครื่อง เพื่อนำมาใช้ในการตรวจคุณภาพอากาศ วัดค่าฝุ่น PM2.5 PM10 อุณหภูมิและความชื้น

กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข รับมอบเทคโนโลยี Dust Boy จากกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เพื่อนำมาใช้ในการตรวจคุณภาพอากาศ วัดค่าฝุ่น PM2.5 PM10 อุณหภูมิและความชื้น พร้อมส่งมอบไปยังพื้นที่ต่างๆ เพื่อเฝ้าระวังคุณภาพอาการให้ประชาชนสุขภาพดี

นายแพทย์อรรถพล แก้วสัมฤทธิ์ รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยในการรับมอบผลงานวิจัยและนวัตกรรม เพื่อการใช้ประโยชน์ Go Green ด้วยวิจัยและนวัตกรรม เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2566 ณ อาคาร สวทช. (โยธี) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม ว่า กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข มีบทบาทสำคัญในการดูแลสุขภาพประชาชน และกำหนดมาตรการในการดำเนินงานที่สอดรับกับวาระแห่งชาติ เรื่อง การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง โดยมีภารกิจสำคัญในการลดหรือป้องกันปัจจัยเสี่ยงการสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพ ตลอดจนการเฝ?าระวังและเตือนภัยถึงผลกระทบต่อสุขภาพ เพื่อให้ประชาชนสามารถดูแลและป้องกันตนเองจากฝุ่นละอองขนาดเล็กได้อย่างทันท่วงที


“ในปี 2564 ที่ผ่านมา กรมอนามัยได้บูรณาการความร่วมมือกับศูนย์ข้อมูลการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ดำเนินโครงการวิจัยการเฝ?าระวังและเตือนภัยป?ญหาหมอกควันด?วยเครื่องตรวจวัดคุณภาพอากาศระบบเซ็นเซอร? DustBoy ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่พัฒนาขึ้นมา เพื่อวัดข้อมูลฝุ่นละอองขนาดเล็กในอากาศด้วยระบบเซ็นเซอร์ และเชื่อมต่อข้อมูลด้วยระบบสถาปัตยกรรมเน็ตเวิร์คอัจฉริยะ โดยเครื่องวัดฝุ่นมีหลักการทำงานโดยเทคนิคการกระเจิงแสง (Light Scattering) สามารถวัดฝุ่น PM2.5 PM10 อุณหภูมิและความชื้น สามารถเชื่อมต่อข้อมูลด้วยระบบสถาปัตยกรรมเน็ตเวิร์คอัจฉริยะ พร?อมส?งข?อมูลผลการวัดแบบออนไลน์ผ่านสัญญาณ WIFI 2.4 GHz สามารถใช?เครื่องคอมพิวเตอร?หรือสมาร?ทโฟนดูผลการวัดได้ เริ่มใช้งานตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่เสี่ยงตามภาคต่าง ๆ ของประเทศไทย โดยส่วนใหญ่ติดตั้งในสถานบริการสาธารณสุขทั้งในระดับจังหวัด อำเภอ และตำบล รวมถึงสถานที่ที่มีกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ โรงเรียน สถานพัฒนาเด็กปฐมวัย และสถานดูแลผู้สูงอายุ” นายแพทย์อรรถพล กล่าว


นายแพทย์อรรถพล กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมอนามัยยังคงดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งได้รับสนับสนุนเครื่องตรวจวัดปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กในบรรยากาศด้วยระบบเซนเซอร์ (Dust Boy) จากกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) จำนวน 500 เครื่อง เพื่อขยายผลการเฝ้าระวังให้ครอบคลุมพื้นที่เสี่ยง รวมถึงเป็นเครื่องมือในการเฝ้าระวัง สื่อสาร และแจ้งเตือนให้ประชาชนสามารถดูแลตนเองและปฏิบัติตนในการป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพได้อย่างเหมาะสม โดยจะติดตั้งในสถานบริการสาธารณสุข องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ซึ่งจะส่งผลให้มีการเฝ้าระวัง ป้องกันได้อย่างทันท่วงที สร้างการรับรู้และสามารถดูแลตนเองและปฏิบัติตนในการป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพได้ อย่างเหมาะสม รวมถึงเชื่อมโยงข้อมูลสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ เพื่อวางแผนการคุ้มครองสุขภาพของประชาชนต่อไป” รองอธิบดีกรมอนามัยกล่าว


***


กรมอนามัย / 31 ตุลาคม 2566