หมอชลน่านมอบ สปสช.เตรียมพร้อม สายด่วน สปสช. 1330 จัดบริการช่องทางพิเศษดูแลประชาชน 4 จังหวัด “บัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่” เตรียม 2 พันคู่สายรองรับ เจ้าหน้าที่บริการ 400 คน ให้ข้อมูลและขั้นตอน พร้อมช่วยแก้ไขปัญหากรณีติดขัดการเข้ารับบริการ เผยข้อมูลช่วง 2 วันที่ผ่านมา มีประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดรับบริการตามนโยบายแล้วกว่า 1.2 หมื่นคน   

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลได้มีนโยบาย “บัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่” โดยได้เริ่มให้บริการแล้วเมื่อวันที่ 7 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา ใน 4 จังหวัด คือ แพร่ ร้อยเอ็ด เพชรบุรี และนราธิวาส ซึ่งจากข้อมูลในระบบของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) มีประชาชนใช้สิทธิบัตรทองตามนโยบายอย่างต่อเนื่องตลอดในช่วง 2 วันที่ผ่านมา

        ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนใน 4 จังหวัดดังกล่าวนี้ ได้รับบริการโดยสะดวก ไม่ติดขัดใดๆ ได้มอบหมายให้ สปสช. เตรียมความพร้อมทั้งการให้ข้อมูลและตอบข้อสงสัยการรับบริการ การช่วยแก้ปัญหาในกรณีที่เกิดอุปสรรคการเข้ารับบริการขึ้น รวมถึงการนัดคิวรับบริการตามนโยบาย ผ่านกลไก สายด่วน สปสช. 1330 โดยได้มีการเตรียมคู่สายรองรับจำนวน 2,000 คู่สาย และมีเจ้าหน้าที่สายด่วน สปสช. 1330 รวมถึงพยาบาลเกษียณอายุที่ร่วมเป็นอาสาสมัครสายด่วนฯ จำนวน 400 คน

นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า ด้วยพื้นที่ของแต่ละจังหวัดที่นำร่องบัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่นี้ มีประชาชนผู้ใช้สิทธิบัตรทองเป็นจำนวนมาก โดยจังหวัดแพร่มีจำนวนประชากรผู้มีสิทธิบัตรทอง จำนวน  439,960 คน จังหวัดร้อยเอ็ด จำนวน 1,317,917 คน จังหวัดเพชรบุรี จำนวน 486,568 คน และจังหวัดนราธิวาส จำนวน 845,051 คน ไม่นับรวมประชากรแฝงในจังหวัดและประชากรที่เดินทางมาจากต่างพื้นที่ ดังนั้นเพื่อให้การบริการเป็นอย่างสะดวกและรวดเร็ว ตอบสนองการรับบริการได้ทันท่วงที สปสช. ยังได้มีการแยกช่องทางการรับบริการรายจังหวัด ซึ่งสามารถเลือกกดหมายเลขบริการของสายด่วน 1330 ตามจังหวัดได้เลย โดยพร้อมให้บริการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง ดังนี้

• จังหวัดแพร่ โทร. 1330 กด 61


• จังหวัดเพชรบุรี โทร. 1330 กด 65


• จังหวัดร้อยเอ็ด โทร. 1330 กด 67


• จังหวัดนราธิวาส โทร. 1330 กด 612    

นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า ด้วยบัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่ เป็นนโยบายใหม่ที่ยกระดับระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติสู่ “30 บาท อัปเกรด” โดยรัฐบาล ในช่วงแรกประชาชนอาจไม่เข้าใจและสงสัยข้อมูลการเข้ารับบริการต่างๆ ได้ และในระหว่างนี้ยังเป็นช่วงของการเริ่มต้นระบบ ดังนั้นในช่องทางดังกล่าวนี้ประชาชนผู้ใช้สิทธิบัตรทองยังสามารถร่วมสะท้อนความเห็นเข้ามาได้ ซึ่งสายด่วน สปสช. 1330 จะทำการรวบรวมข้อมูลปัญหาอุปสรรคการรับบริการ และความเห็นต่างๆ ที่ได้นี้ เพื่อนำไปสู่การพัฒนานโยบายนี้ให้ดียิ่งขึ้นต่อไป 

ด้าน นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสข.) กล่าวว่า ในส่วนของภาพรวมการรับบริการบัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา มีประชาชนเข้ารับบริการแล้ว จำนวน 12,396 คน แยกเป็นข้อมูลรายจังหวัด ดังนี้ 1. จ.แพร่ มีประชาชนรับบริการจำนวน 3,229 คน 2. จ.ร้อยเอ็ด จำนวน 3,939 คน 3. จ.เพชรบุรี จำนวน 2,509 คน และ 4. จ.นราธิวาส จำนวน 2,719 คน สำหรับในส่วนของบริการสายด่วน สปสช. 1330 ผ่าน 4 หมายเลขข้างต้นนี้ ภาพรวมยังไม่มีประชาชนโทรเข้ามาแจ้งปัญหาหรือติดขัดการรับบริการแต่อย่างใด มีเพียงการสอบถามข้อมูลการใช้สิทธิตามนโยบายเท่านั้น  

        นพ.จเด็จ กล่าวย้ำเพิ่มเติมว่า การเข้ารับบริการบัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่นี้ สามารถใช้สิทธิบัตรทองฯ เข้ารับบริการโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายได้ที่ โรงพยาบาลรัฐทุกแห่ง และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) รวมถึงสถานพยาบาลเอกชน อาทิ คลินิกเวชกรรม ร้านยา คลินิกการพยาบาลและการผดุงครรภ์ คลินิกทันตกรรม คลินิกการแพทย์แผนไทย คลินิกเทคนิคการแพทย์ เป็นต้น ที่ได้ร่วมขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ