ชาปลายนิ้ว-ปลายเท้าในหน้าหนาว ระวังเป็นสัญญาณเตือนเลือดหนืด ป้องกันได้อย่างไร

พอเข้าหน้าหนาวแล้วหลายคนเริ่มมีอาการ “ชาปลายมือ–เท้า” คิดว่าแค่เลือดไหลเวียนช้าตามอากาศเย็น แต่จริง ๆ อาจเป็นสัญญาณว่าเลือดเริ่มข้น หนืด และไหลเวียนไม่ดีอย่างที่คิด ยิ่งคนวัย 40–60+ ปี ยิ่งต้องระวัง เพราะอาการเล็ก ๆ เหล่านี้อาจเป็นตัวบอกว่าหลอดเลือดกำลังทำงานหนัก ร่างกายส่งเลือดไปเลี้ยงปลายแขนขาได้ไม่พอ ถ้าปล่อยไว้นานอาจเสี่ยงหัวใจทำงานหนักและหน้ามืดง่ายขึ้น วันนี้มาดูกันว่า 5 อาการเตือนที่หลายคนมองข้ามมีอะไรบ้าง
1. ชาปลายมือ–เท้าเป็น ๆ หาย ๆ
พออากาศเย็นทำให้หลอดเลือดหดตัวเร็ว แต่ถ้ามีอาการชาบ่อยจนรำคาญหรือเป็นทุกวัน นี่คือสัญญาณว่าเลือดไหลเวียนยากขึ้นเพราะเลือดข้นกว่าปกติ เพราะเลือดที่หนืดจะไหลไปเลี้ยงปลายประสาทได้ช้า ทำให้รู้สึกเหมือนโดนเหน็บหรือถูกบีบจากด้านใน ยิ่งเวลาเหยียดนิ้วหรือขยับจังหวะเร็ว ๆ แล้วอาการยิ่งชัด แสดงว่าระบบไหลเวียนกำลังมีปัญหาครับ ควรเช็กพฤติกรรมเสี่ยง เช่น ดื่มน้ำน้อย นั่งนาน หรือพักผ่อนไม่พอ เพราะทั้งหมดนี้ทำให้เลือดหนืดขึ้นแบบไม่รู้ตัวครับ
2. ปลายมือ–เท้าเย็นจัดแม้อยู่ในที่อุ่น
ถ้าคนอื่นบอกว่าห้องอุ่นกำลังพอดี แต่ปลายมือปลายเท้าเรายังเย็นจนซีด นี่อาจเป็นสัญญาณว่าหลอดเลือดส่วนปลายหดตัวเกินปกติ เพราะเลือดไหลไปไม่ถึง อาจเกิดจากเลือดหนืดเกิน ทำให้หัวใจต้องสูบฉีดแรงขึ้นแต่ยังส่งเลือดไปปลายแขนขาไม่ดีพอ จึงเกิดอาการเย็นเฉียบเป็นช่วง ๆ ยิ่งถ้ามีร่วมกับอาการชาเมื่อขยับ จะยิ่งบอกว่าเลือดไหลเวียนไม่ดีตั้งแต่ต้นทางเลยครับ
3. เวียนหัวง่ายเวลาเปลี่ยนท่าทาง
ลุกจากเตียงแล้วมึนแวบ หรือเปลี่ยนท่านั่งเป็นยืนแล้วรู้สึกตาลาย ถ้าใครรู้สึกนี้อย่าปล่อยผ่านนะครับ เพราะอาจเกิดจากเลือดหนืดจนหัวใจต้องบีบตัวแรงขึ้นเพื่อส่งเลือดไปเลี้ยงสมอง แต่ใช้เวลาในการปรับตัวนาน ทำให้เกิดอาการเวียนหัวแบบฉับพลัน ยิ่งในอากาศเย็น หลอดเลือดหดตัวไว เลือดยิ่งไหวเวียนช้าลง โดยเฉพาะถ้าดื่มน้ำน้อยหรือพักผ่อนน้อยเป็นประจำ ยิ่งต้องระวังครับ
4. ปวดตุบ ๆ หรือหนักบริเวณน่องเวลาเดิน
เมื่อเลือดไหลเวียนไม่ดี กล้ามเนื้อบริเวณขาจะขาดเลือดชั่วคราว ทำให้รู้สึกปวดตุบ หนัก หรือเกร็งง่ายเวลาเดิน โดยเฉพาะในอากาศหนาวที่หลอดเลือดยิ่งตีบแคบ หากเลือดหนืดร่วมด้วย หัวใจจะต้องสูบฉีดมากขึ้นเพื่อดันเลือดลงขา เลยปวดเป็นพัก ๆ ทั้งที่เดินนิดเดียวก็มาแล้ว ถ้าปล่อยนานอาจเป็นสัญญาณเริ่มต้นของหลอดเลือดตีบได้ครับ
5. หัวใจเต้นแรงกว่าปกติในช่วงอากาศเย็น
บางคนอยู่เฉย ๆ แต่รู้สึกหัวใจเต้นแรงขึ้นหรือเต้นเร็ว โดยเฉพาะตอนอากาศเย็นมาก นี่เป็นสัญญาณว่าเลือดหนืดจนหัวใจต้องเพิ่มแรงบีบตัวเพื่อดันเลือดผ่านหลอดเลือดที่หดตัว หากมีร่วมกับอาการมือเท้าเย็น ชา หรือเหนื่อยง่าย ยิ่งต้องระวัง เพราะบอกว่าเลือดไหลเวียนไม่ดีตั้งแต่ศูนย์กลางแล้วครับ ยิ่งฝืนทำกิจกรรม หัวใจยิ่งทำงานหนักต่อเนื่อง ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงหัวใจอ่อนล้าในระยะยาวเลยนะ


ดูแลยังไงไม่ให้เลือดหนืดในหน้าหนาว
• ดื่มน้ำให้พอเพียงทั้งวัน (อย่ารอให้กระหายน้ำ)
• เพิ่มผัก–ผลไม้ที่มีน้ำสูง,
• ลดอาหารเค็มจัด–หวานจัด
• หมั่นลุกเดินทุก 1 ชั่วโมง ออกกำลังกายเบา ๆ ให้เลือดไหลเวียน
• รักษาอุณหภูมิร่างกายให้อุ่น โดยเฉพาะมือและเท้า
• และพักผ่อนให้เพียงพอเพื่อไม่ให้ระบบไหลเวียนทำงานหนักเกินไป
อาการชา เย็น ปวดตุบ หรือเวียนหัวเล็ก ๆ น้อย ๆ ในหน้าหนาว ไม่ควรมองข้าม เพราะอาจเป็นสัญญาณเริ่มต้นว่าเลือดกำลังหนืดและหัวใจทำงานหนักขึ้น หากรู้ทันและปรับพฤติกรรมเร็ว เลือดจะไหลเวียนดีขึ้น ร่างกายอุ่นขึ้น และหัวใจก็แข็งแรงขึ้นตามครับ


 


ขอบคุณข้อมูลจาก Facebook หมอเจด