วารสาร The New England Journal of Medicine เผยแพร่การศึกษาการให้วิตามิน ซี ในปริมาณสูง (high dose) ผ่านทางหลอดเลือดเข้าสู่ร่างกาย (intravenous vitamin C) กับคนไข้ผู้ใหญ่รักษาภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด (Sepsis) ในห้อง I.C.U. และผลการศึกษาไม่สามารถสรุปได้ว่าการให้วิตามิน ซี ทางหลอดเลือดเป็นวิธีที่ดี เพราะมีความเสี่ยงอวัยวะภายในล้มเหลว และอาจรุนแรงถึงชีวิต
ทั้งนี้ Sepsis คือ การติดเชื้อที่เกิดขึ้นที่ตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งในร่างกาย แล้วทำให้ร่างกายมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อการติดเชื้อหรือต่อพิษของเชื้อโรค ทำให้เกิดการอักเสบขึ้นในอวัยวะภายในของร่างกาย หากมีความรุนแรงมากขึ้นอาจพัฒนาไปสู่ภาวะช็อกและทำให้การทำงานของอวัยวะภายในร่างกายต่าง ๆ ล้มเหลว ซึ่งมีอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ และเป็นสาเหตุหรือปัจจัยร่วมของผู้ป่วยมากถึง 11 ล้านคนทั่วโลก ในแต่ละปี
ขั้นตอนหนึ่งของการบำบัดนั้น ผู้ป่วยต้องนอนพักรักษาในโรงพยาบาลเพื่อให้สารน้ำให้เพียงพอและติดตามอาการอย่างใกล้ชิดโดยแพทย์ และสารน้ำหนึ่งที่ใช้กัน คือ วิตามิน ซี เนื่องจากสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ในวิตามิน ซี ช่วยบรรเทาการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อ และร่างกายมนุษย์ไม่สามารถสร้างวิตามิน ซี ขึ้นมาได้ และมักอยู่ในระดับต่ำเวลาที่เกิดอาการเจ็บไข้ได้ป่วยรุนแรง
การศึกษาระดับ international trial ที่รวบรวมข้อมูลจากห้องดูแลผู้ป่วยหนัก (I.C.U.) 35 แห่ง ใน 3 ประเทศคือ แคนาดา ฝรั่งเศส และนิวซีแลนด์ นี้ คณะวิจัยใช้ข้อมูลของคนไข้อายุ 18 ปีขึ้นไป ที่พักรักษาตัวในห้อง I.C.U. นานไม่เกิน 24 ชั่วโมง เป็นคนไข้ที่ได้รับการยืนยันหรือสงสัยว่าเป็น Sepsis และได้รับยากระตุ้นความดันโลหิต ทั้งหมด 863 คน แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่รับวิตามิน ซี (50 มก.ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม) 429 คน และกลุ่มรับยาหลอก (ทุก 6 ชั่วโมง นาน 96 ชั่วโมง) 434 คน ระยะเวลาติดตามผล 28 วัน
ผู้ศึกษากำหนดภาวะที่ผู้ป่วยได้รับยากระตุ้นความดันโลหิต ใช้เครื่องช่วยหายใจ หรือได้รับการบําบัดทดแทนไต (renal replacement therapy) เป็นผลลัพธ์หลัก (primary outcome) ที่เรียกว่า composite of death หรือ persistent organ dysfunction
ผลลัพธ์ที่ได้ในวันที่ 28 คนไข้กลุ่มวิตามิน ซี 44.5% มีอาการ composite of death หรือ persistent organ dysfunction เทียบกับ 38.5% ของกลุ่มยาหลอก จึงอภิปรายผลว่า ผลลัพธ์ถึงชีวิตเกิดขึ้นในกลุ่มวิตามิน ซี ถี่กว่ากลุ่มยาหลอก ซึ่งเป็นผลที่แตกต่างจากการวิเคราะห์อภิมาน (meta-analysis วิธีการทางสถิติที่ใช้เพื่อเปรียบเทียบและรวบรวมข้อมูลจากงานวิจัยต่าง ๆ) ของการบำบัดด้วยวิตามิน ซี เพียงอย่างเดียวที่ทำกันมาก่อนหน้าที่ศึกษาจากกลุ่มทดลองขนาดเล็ก 2 กลุ่ม และใช้เกณฑ์การประเมินอวัยวะล้มเหลวจากภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด (SOFA scores) เป็นหลัก มิได้คำนึงถึงปัจจัยเสี่ยงถึงชีวิตอื่น ๆ และหนึ่งกลุ่มในนั้นเฉพาะเจาะจงที่การให้วิตามิน ซี เพื่อบำบัดภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดที่ทำให้ปอดได้รับบาดเจ็บเฉียบพลัน
คณะวิจัยจึงสรุปผลการศึกษาว่า ผู้ป่วย Sepsis และได้รับยากระตุ้นความดันโลหิตใน I.C.U. และ/หรือได้รับการให้วิตามินชนิดน้ำทางหลอดเลือดมีความเสี่ยงสูงที่อวัยวะภายในของร่างกายล้มเหลว หรืออาจถึงขั้นรุนแรงถึงชีวิต
ทั้งนี้ เพื่อช่วยลดอาการอวัยวะต่าง ๆ ล้มเหลว รวมถึงการเสียชีวิตในผู้ป่วยที่ติดเชื้อ มักใช้ Hydrocortisone, Ascorbic Acid (วิตามิน ซี) และ Thiamine (วิตามิน บี) ร่วมกัน เรียกว่า HAT Therapy ซึ่งช่วยฟื้นฟูการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันที่ผิดปกติได้
ขอขอบคุณแหล่งข้อมูล:
https://www.bumrungrad.com/th/health-blog/may-2021/what-causes-sepsis#5
https://www.nejm.org/doi/full/10.1056/NEJMoa2200644?query=featured_home
DOI: 10.1056/NEJMoa2200644