มะเร็งหลังโพรงจมูก ภัยเงียบที่อันตราย

เชื่อว่าหลายคนรู้จักโรคมะเร็งดีอยู่แล้ว เช่น มะเร็งตับ มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก แต่บริเวณที่เป็นบางแห่งอาจไม่คุ้นเคยนัก อย่างเช่น บริเวณหลังโพรงจมูก ที่สามารถเกิดมะเร็งได้เช่นกัน หากไม่ได้รับการตรวจและรักษาตั้งแต่ระยะเริ่มแรก จะลุกลามทำให้ยากแก่การรักษา อย่างไรก็ตาม มะเร็งหลังโพรงจมูกสามารถรักษาให้หายขาดได้ ถ้าตรวจพบรอยโรคในระยะเริ่มแรก ยิ่งรู้ตัวว่าป่วยเร็วเท่าไร โอกาสในการรักษาให้หายขาดก็ยิ่งมีความหวังมากเท่านั้น


รู้จักมะเร็งหลังโพรงจมูก


          มะเร็งหลังโพรงจมูก (Nasopharyngeal carcinoma: NPC) เป็นการเติบโตของเซลล์ที่ผิดปกติหรือมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับเซลล์ ความเปลี่ยนแปลงนี้จะก่อให้เกิดเนื้อร้ายที่สามารถแพร่กระจายไปยังส่วนอื่น ๆ ของร่างกายได้ ซึ่งมะเร็งหลังโพรงจมูกจะเกิดบริเวณหลังโพรงจมูก โดยโพรงจมูกจะมีลักษณะเป็นโพรงกว้าง อยู่ทางด้านหลังของจมูก เป็นทางผ่านของอากาศไปยังผนังคอ ตำแหน่งนี้จะมีสารบางอย่างไหลผ่านเข้าไปได้ง่าย เช่น ควันบุหรี่ ควันพิษต่าง ๆ หรือสารที่เกิดจากการเผาไหม้และอาจเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ ส่งผลให้เกิดการระคายเคืองบริเวณหลังโพรงจมูกได้ง่าย


มะเร็งหลังโพรงจมูกเกิดจากสาเหตุใด


          มะเร็งหลังโพรงจมูก เป็นหนึ่งในมะเร็งบริเวณศีรษะและคอที่พบบ่อยในประเทศไทย ช่วงอายุที่พบบ่อย คือ 30-60 ปี และพบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิงประมาณ 3 เท่า โดยสาเหตุและปัจจัยความเสี่ยงสำคัญ ได้แก่


          - การติดเชื้อเรื้อรังของไวรัส EBV (Epstein-Barr Virus)


         - ความเสี่ยงทางด้านพันธุกรรม พบมากในบริเวณ South East Asia โดยเฉพาะในประเทศจีนตอนใต้และฮ่องกง


        - พฤติกรรมการรับประทานอาหาร เช่น การรับประทานเนื้อสัตว์หมักดองเป็นเวลานาน ปลาเค็ม เนื้อเค็ม แหนม ไส้กรอกอีสาน ซึ่งมีสารก่อมะเร็งที่ชื่อว่า ไนโตรซามีน (Nitrosamines) เป็นสาเหตุหนึ่งที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งหลังโพรงจมูก โดยหากสูดดมสารนี้เข้าไปสัมผัสกับเยื่อบุหลังโพรงจมูก อาจก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของ DNA ของเซลล์เยื่อบุผิว จนเกิดการกลายพันธุ์ของเซลล์ได้


      - การสัมผัสสารก่อมะเร็งจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม เช่น ฝุ่นไม้หรือขี้เลื่อย ฝุ่นหนัง ฝุ่นจากสิ่งทอ บุหรี่ ไอโซโพรพิลแอลกอฮอล์ สารประกอบนิกเกิล ฟอร์มาดีไฮด์ และโครเมียม เป็นต้น

อาการมะเร็งหลังโพรงจมูก


    - หูอื้อเรื้อรัง จะอื้อด้านเดียว ซ้ายหรือขวาก็ได้


    - มีก้อนนูนที่คอ


   - มีเลือดไหลลงคอ


   - ชาบริเวณใบหน้า


  - มองเห็นภาพซ้อน


  - คัดจมูก น้ำมูกไหลข้างเดียว โดยที่ผู้ป่วยไม่ได้เป็นหวัดหรือภูมิแพ้


การตรวจและวินิจฉัยมะเร็งหลังโพรงจมูก


       หากสังเกตว่าตัวเองมีอาการอย่างใดอย่างหนึ่ง โดยเฉพาะคลำเจอก้อนที่คอ ร่วมกับรู้ตัวว่ามีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งหลังโพรงจมูก ก็ควรรีบเข้าไปพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจและวินิจฉัยโรค ทั้งนี้ เพื่อการรักษาที่รวดเร็วในกรณีที่มีเซลล์มะเร็งซ่อนตัวอยู่


      โดยแพทย์วินิจฉัยโรคมะเร็งหลังโพรงจมูกได้จาก ประวัติอาการ การตรวจร่างกาย การคลำต่อมน้ำเหลืองลำคอ และการส่องกล้องตรวจหลังโพรงจมูกว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้นหรือไม่ หากพบเนื้องอกมีลักษณะผิดปกติ เช่น เนื้อนูน ผิวขรุขระมีเลือดซึม แพทย์จะทำการตัดชิ้นเนื้อนั้นออกมาตรวจและดูว่ามีการกระจายไปยังส่วนอื่น ๆ หรือไม่


การรักษามะเร็งหลังโพรงจมูก


        เมื่อตรวจยืนยันแล้วพบว่าเป็นมะเร็ง ก็จะเริ่มการรักษา โดยแพทย์จะเป็นผู้เลือกการรักษาที่เหมาะสมกับผู้ป่วย ได้แก่


         - การฉายรังสี เนื่องจากบริเวณหลังโพรงจมูกเป็นตำแหน่งที่ยากต่อการผ่าตัด ดังนั้น การรักษาหลัก ๆ จึงเป็นการฉายรังสี ซึ่งในโรคระยะที่ 1 อาจเป็นการให้รังสีรักษาเพียงวิธีการเดียว


      - การใช้รังสีรักษาร่วมกับยาเคมีบำบัด ในกรณีที่มะเร็งลุกลามออกนอกหลังโพรงจมูกแล้ว ไม่ว่าโรคจะอยู่ในระยะใดก็ตาม เพื่อประสิทธิภาพการรักษาที่ดีขึ้น


     - การผ่าตัด เป็นการรักษาในกรณีที่มะเร็งไม่ตอบสนองต่อการรักษาโดยการฉายรังสี


         ทั้งนี้ การป้องกันมะเร็งหลังโพรงจมูกนั้น เริ่มต้นด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสี่ยงต่าง ๆ เช่น การสวมเครื่องป้องกันขณะปฏิบัติงานในโรงงานที่มีสารก่อมะเร็ง และสิ่งสำคัญควรสังเกตตัวเองอยู่เสมอเพื่อการรักษาที่ทันเวลา เนื่องจากการรักษาโรคในระยะแรกเริ่มจะได้ผลดีกว่าในระยะลุกลาม ฉะนั้น หากมีอาการที่สงสัย ควรมาพบแพทย์เฉพาะทางด้านหู คอ จมูก เพื่อทำการตรวจรักษา


ขอขอบคุณ : พญ.จุฑามาส สุวัฒนภักดี,    ศูนย์โสต ศอ นาสิก


ขอขอบคุณแหล่งข้อมูล  :  https://www.nakornthon.com/article/detail