เปิด 8 เทรนด์สุขภาพปี 2023 “บำรุงจิต-ฟิตร่างกาย-ใส่ใจโลก”

อัปเดตเทรนด์สุขภาพที่จะมาแรงในปี 2023/2566 นิยามรักสุขภาพบทใหม่ที่เน้นให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพจิตควบคู่การฟิตร่างกาย พร้อมใส่ใจสิ่งแวดล้อมเพื่อลดผลกระทบด้านสุขภาพ


         ต้อนรับเดือนสุดท้ายปลายปี 2022 อย่างเป็นทางการ พร้อมเปิดกระแสสุขภาพที่จะมาแรงในปี 2023 ที่กำลังจะมาถึง จากบทเรียนที่ทั่วโลกต้องเผชิญ ไม่ว่าจะเป็นโรคภัย มลภาวะ ภัยพิบัติต่าง ๆ ส่งผลให้เกิดความกังวลในเรื่องของอนาคตมากขึ้น ในช่วงสองสามปีที่ผ่านมานี้ผู้คนต่างเริ่มหันมาใส่ใจเรื่องของสุขภาพ แต่ด้วยข้อจำกัดที่ต้องเก็บตัวอยู่ในบ้านมากกว่าออกไปข้างนอก ทำให้เทรนด์สุขภาพเริ่มเปลี่ยนไปด้วยจากบางพฤติกรรมที่ถูกจำกัดกลายเป็นเทรนด์สุขภาพใหม่ ซึ่งในปี 2023 ดูเหมือนว่าจะเป็นเทรนด์ที่ได้รับอิทธิพลมาจากสภาพแวดล้อมและสถานการณ์โลก ส่วนจะมีอะไรมาอัปเดตพร้อมกันได้เลย


1. กระแสดูแลสุขภาพจิต เทรนด์ฮิตสุขภาพประจำปี 2023


          เนื่องจากสถานการณ์ทั้งเรื่องโรคภัยและภัยพิบัติต่าง ๆ ใน 2-3 ปีที่ผ่านมา น่าจะทำให้ชาวโลกเกิดความเครียดสะสมไม่น้อย เทรนด์สุขภาพที่โดดเด่นในปี 2023 จึงเน้นไปในทางการดูแลและปรับปรุงสุขภาพจิตที่อาจเป็นนิยามใหม่ในการดูแลสุขภาพแบบเดิม ๆ ที่เคยเน้นดูแลสุขภาพร่างกายมากกว่า แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะสนใจแค่เรื่องจิตใจอย่างเดียว เพราะนอกจากดูแลสุขภาพจิตก็ยังคงมีออกกำลังกายควบคู่กันไป เพราะการออกกำลังกายมีส่วนช่วยปรับสุขภาพจิตให้ดีขึ้นได้ด้วยนั่นเอง


2. ผู้คนหันมาสนใจการบำบัดทางเลือก


            เทรนด์สุขภาพปี 2023 ต่อมาเป็นเทรนด์ที่หลายเว็บไซต์สายสุขภาพคาดเดากันว่าจะฮอตฮิตในอนาคตอันใกล้ คือ การบำบัดทางเลือก ซึ่งคาดว่าน่าจะสืบเนื่องมาจากเทรนด์การดูแลสุขภาพจิต ถึงแม้ว่าการออกกำลังกาย ดูแลสุขภาพร่างกายจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยปรับจิตใจให้ดีขึ้น แต่การบำบัดทางเลือกอย่างการใช้เสียงบำบัด ดนตรีบำบัด การนำคลื่นเสียงที่พัฒนาขึ้นจากคลื่นความถี่ของสมองมาใช้เยียวยาจิตใจคนที่มีปัญหาด้านอารมณ์ การทำสมาธิให้จิตใจสงบ การฝึกหายใจเพื่อให้ความดันเลือดคงที่ น่าจะเป็นการบำบัดจิตใจที่ตรงจุดมากยิ่งขึ้น และการเข้าสปา การนวดที่ช่วยผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจก็ยังรวมอยู่ในเทรนด์การบำบัดทางเลือกด้วย และจาก 2 เทรนด์นี้ทำให้เห็นว่าผู้คนจะเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับการคลายความเครียดเป็นส่วนใหญ่

3. ฟิตที่บ้านผ่านแอปฟิตเนส


           หนึ่งในเทรนด์สุขภาพที่ได้รับอิทธิพลมาจากสถานการณ์โควิด เมื่อผู้คนต้องใช้ชีวิตแบบ Social Dictancing การออกไปฟิตเนสข้างนอกเลยลดลง พฤติกรรมการออกกำลังกายโดยเฉพาะคนเมืองที่เคยเข้าฟิตเนสจะน้อยลง โดยในปี 2023 จะเป็นการออกกำลังกายที่บ้านด้วยแอปฟิตเนส ก็อย่างที่บอกไปว่า นอกจากการดูแลสุขภาพจิต การบำบัดทางเลือกแล้ว ก็ยังมีการออกกำลังกายเพื่อดูแลทั้งสุขภาพร่างกายและสุขภาพจิตควบคู่กันไปด้วย เมื่อผสานกับโลกยุคดิจิทัลแม้ไม่ได้ออกจากบ้านไปฟิตเนส ก็ยังมีบริการในแอปพลิเคชันช่วยอำนวยความสะดวก ซึ่งนอกจากช่วยเรื่องออกกำลังกาย บางแอปยังสามารถวัดมวลร่างกาย ไขมัน การเต้นของหัวใจ การนอนหลับ เช็กการกินอาหารของเราได้ด้วย เหมือนมีเทรนเนอร์ส่วนตัวอยู่กับเราตลอด 24 ชั่วโมงเลยทีเดียว

4. การออกกำลังกายแบบ Virtual Reality Workouts จะมาแรง


         อีกหนึ่งเทรนด์สุขภาพที่คาดว่าน่าจะมาแรงและฮอตฮิตติดลมบนในปี 2023 คือ การออกกำลังกายแบบ Virtual Reality Workouts หรือ VR Fitness Games ซึ่งเป็นการออกกำลังกายแบบสนุก ๆ เพราะบวกการเล่นเกมเข้าไปด้วย โดยผู้เล่นต้องเชื่อมต่ออุปกรณ์กับร่างกายตัวเองเพื่อให้ตัวละครในเกมเคลื่อนไหวตาม ผู้เล่นจะต้องทำเควสออกกำลังกายตามเกมเพื่อผ่านแต่ละด่านไปให้ได้  ซึ่งความยากง่ายที่เรากำหนดเองนี่แหละจะเป็นชาเลนจ์ที่สนุกแถมฟิตไปในคราวเดียวกัน

5. การออกกำลังกายแบบ Tabata Training เทรนด์สุขภาพที่น่าจับตาในปี 2023


          เมื่อโลกมันหมุนเร็วจนเราตามไม่ทัน อะไรที่ต้องใช้ความไวมักจะไปเป็นที่นิยมเสมอ ไม่เว้นแม้แต่การออกกำลังกาย โดยเทรนด์ออกกำลังกายในปี 2023 ที่คาดว่าจะมาแรง คือ การออกกำลังกายแบบ Tabata Training ที่ปีนี้เข้ามาอยู่ในลิสต์ด้วย สำหรับการออกกำลังกายแบบ Tabata Training เป็นการออกกำลังกายที่เหมาะสำหรับคนที่มีเวลาน้อย ออกกำลังกายแค่ไม่กี่นาทีก็สามารถลดไขมันได้ และจะออกกำลังกายแบบหนักสลับเบาเป็นช่วง ๆ โดยออกแรงทั้งหมด 20 วินาที และพัก 10 วินาที  ถึงจะใช้เวลาน้อยแต่ดีกรีความยากเข้าขั้นอยู่พอสมควร

6. การนอนพักผ่อนให้เพียงพอและมีคุณภาพ


           เทรนด์สุขภาพปี 2023 แบบไม่ต้องออกแรง ไม่ต้องใช้อุปกรณ์ ต้องมี!! นั่นคือ การหันมาให้ความสำคัญกับการนอนพักผ่อนให้เพียงพอ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะนอนนาน หรือจะนอนตอนไหนก็ได้ เพราะร่างกายเรามีนาฬิกาชีวิตที่อวัยวะต่าง ๆ จะทำงานตามเวลาของมัน การใช้ชีวิตประจำวันให้เป็นไปตามช่วงเวลาที่อวัยวะทำงาน จะทำให้อวัยวะทำงานได้ดีและสุขภาพร่างกายดียิ่งขึ้น ซึ่งช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการนอนจะอยู่ที่การเริ่มนอนประมาณ 4 ทุ่ม และตื่นนอนประมาณตี 5 ถึง 6 โมงเช้า และเราควรนอนให้ได้ 1 ใน 3 ของรอบนาฬิกาชีวิต นอกจากตามเทรนด์ออกกำลังกายแล้ว ลองตามเทรนด์นอนพักผ่อนให้เพียงพอไปด้วย จะได้เป็นคนสุขภาพดีในปี 2023

7. เทรนด์รักสุขภาพ=รักษ์โลก ด้วยการเลือกทานอาหาร Plant-based


             นอกจากกิจกรรมดูแลสุขภาพแล้ว ในเรื่องของเทรนด์อาหารการกินสายเฮลท์ตี้ก็ต้องมีมาอัพเดทเช่นกัน แน่นอนว่าต้องเป็นเทรนด์ Plant-based ความ Organic ธรรมชาติกำลังมาแรง สาเหตุจากความกังวลเรื่องของมลพิษ สารเคมีทำลายสิ่งแวดล้อม และกังวลถึงสารบางอย่างที่มาจากสัตว์ด้วย เลยทำให้เทรนด์การเลือกทานอาหาร Plant-based มาแรงในปี 2023 อาหารและเครื่องดื่มที่เป็นวีแกนอย่างน้ำผลไม้สกัดเย็นจะฮอตฮิตคนเลือกทานมากยิ่งขึ้น แถมบางคนไม่ได้ทานเพราะเป็นกระแส หรือเพราะชอบอย่างเดียว แต่ยังมีคนที่เลือกทาน Plant-based เพื่อควบคุมน้ำหนัก เข้าไปปรึกษากับนักโภชนาการ เพื่อปรับการทานอาหารให้เข้ากับตัวเองอีกด้วย


8. ใส่ใจสิ่งแวดล้อม เพื่อรักษาสุขภาพที่ดี


         เมื่อโลกกำลังส่งสัญญาณตือนบางอย่างถึงมนุษย์ เทรนด์สุขภาพในปี 2023 จึงพุ่งมาที่การใส่ใจสิ่งแวดล้อมเพื่อรักษาสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืน (sustainable) ในช่วงหลังมานี้ผู้คนเลยให้ความสนใจกับการดูแลและให้ความสำคัญกับความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น อย่างเทรนด์การเลือกทาน Plant-based ก็ด้วย เพราะถ้าสิ่งแวดล้อมบนโลกดีขึ้นก็ตามมาด้วยการลดการเกิดมลภาวะ โรคภัย ส่งผลให้สุขภาพมนุษย์เราดียิ่งขึ้นตามมา


ขอขอบคุณแหล่งข้อมูล  : https://www.nationtv.tv/lifestyle/health-beauty/378894603