รักลูกด้วยการเล่านิทานช่วยเสริมพัฒนาการที่สมบูรณ์

กรมการแพทย์ โดยสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี แนะพ่อแม่ผู้ปกครองเสริมพัฒนาการให้แก่เด็กด้วยการเล่านิทาน ซึ่งเป็นวิธีที่ง่ายและทำได้ทุกวัน ผลดีที่เกิดขึ้นช่วยทำให้เด็กมีพัฒนาการที่สมบูรณ์รอบด้าน และเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ปกครอง ทักษะการเข้าสังคมและมีความสามารถในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี
          นพ.ณัฐพงศ์ วงวิวัฒน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า เปิดภาคเรียน เด็กอาจมีความกังวลใจ และพ่อแม่ไม่อยากกดดันลูกในเรื่องการเรียน วิธีที่ช่วยให้เด็กคลายความกังวลได้ คือ การเล่านิทาน ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างพัฒนาการให้แก่เด็กและเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์ นอกจากนี้ ยังเป็นการใช้เวลาร่วมกันภายในครอบครัว อีกทั้งยังสร้างความทรงจำที่ดีให้เกิดขึ้นกับเด็ก เพราะเรื่องราวในนิทานเปรียบเสมือนสถานการณ์สมมติ ช่วยให้เด็กได้ฝึกคิดตาม เป็นแบบฝึกหัดอีกรูปแบบหนึ่งที่สนุกและเข้าใจง่าย โดยเด็กที่ฟังนิทานเป็นประจำจะมีทักษะการเรียนรู้ทางภาษา มีทักษะการฟังและสรุปความ และเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า มีสมาธิที่จดจ่อกับการฟัง ซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญมากในการเรียน

          นพ.อดิศัย ภัตตาตั้ง ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กล่าวว่า นิทานเป็นเรื่องเล่าที่มีวัตถุประสงค์หลัก คือ การอบรมด้วยบรรยากาศที่มีความสุขและสนุกสนาน ทำให้เด็กไม่รู้สึกเหมือนถูกสอนและเด็กจะสัมผัสได้ว่าเป็นที่รักของพ่อแม่ เด็กจะชอบฟังนิทานเพราะนิทานมีเรื่องราวที่สร้างเสริมจินตนาการตอบสนองความต้องการของความรัก ต้องการให้คนอื่นสนใจ ประโยชน์ของการเล่านิทานจะเป็นการสร้างคุณค่าที่ยิ่งใหญ่ต่อเด็ก เนื่องจาก 1.เสริมปัญญาเด็ก นิทานจะช่วยให้เด็กฉลาดทั้งทางปัญญา (IQ) และฉลาดทางอารมณ์ (EQ) 2.ทำให้เด็กช่างคิด ช่างถาม ช่างสังเกต 3.เรียนรู้ภาษา มีทัศนคติที่ดีต่อการเรียนภาษา 4.ฝึกจับประเด็น การเล่าซ้ำจะทำให้เด็กจำได้ทั้งเรื่อง มองภาพรวมเข้าใจเรื่องได้เร็ว 5.ฝึกสมาธิ การตั้งใจฟังนิทาน เป็นการฝึกสมาธิให้เด็ก 6.จินตนาการ การฟังนิทานเป็นการเสริมสร้างจินตนาการ 7.คุณธรรม ได้รับการปลูกฝังคุณธรรมตั้งแต่เด็กจากเนื้อหาในนิทาน 8.รักการอ่าน การอ่านนิทานให้ฟังบ่อย ๆ ช่วยปลูกฝังให้เด็กมีนิสัยรักการอ่าน 9.ความสุข บรรยากาศการเล่านิทานเป็นความสุขในครอบครัว เป็นกิจกรรมที่พ่อแม่สามารถเตรียมความพร้อมให้แก่เด็กก่อนเปิดภาคเรียน ซึ่งเป็นวิธีการที่ง่ายและสามารถทำได้ทุกวันโดยเฉพาะก่อนนอน นับเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์และเสริมสร้างความรู้สึกมีคุณค่าของเด็กและความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว