“โครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความดี ด้วยหัวใจ” พระราชดำริในหลวงรัชกาลที่ 10 สปสช. เขต 8 อุดรธานี เรือนจำกลางจังหวัดอุดรธานี และโรงพยาบาลอุดรธานี ร่วมจัดหน่วยทันตกรรมเชิงรุก บริการดูแลสุขภาพช่องปากในเรือนจำกลางจังหวัดอุดรธานี เพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีให้ผู้ต้องขัง
ทพ.กวี วีระเศรษฐกุล ผู้อำนวยการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต 8 อุดรธานี กล่าวว่า จาก “โครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความดี ด้วยหัวใจ” ตามพระราชดำริ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ทรงห่วงใยผู้ต้องขังที่เจ็บป่วยให้เข้าถึงการรักษาพยาบาลอย่างเท่าเทียม และได้พระราชทานครุภัณฑ์ทันตกรรมเพื่อผู้ต้องขังในเรือนจำ สปสช. เขต 8 อุดรธานี เรือนจำกลางจังหวัดอุดรธานี และโรงพยาบาลอุดรธานี ได้ร่วมกันดำเนินการเพื่อสนองพระราชดำริ โดยจัดหน่วยทันตกรรมเคลื่อนที่เข้าไปยังเรือนจำเพื่อบริการทันตกรรมให้กับผู้ต้องขัง
ด้วยสุขภาพช่องปากเป็นส่วนหนึ่งของสุขภาพที่ต้องได้รับการดูแลที่ดี เพราะหากเกิดปัญหาไม่ว่าภาวะฟันผุ ฟันโยกคลอน เหงือกอักเสบ เป็นต้น แล้วไม่ได้รับการดูแลรักษา นอกจากจะสร้างความทุกข์ทรมานจากอาการปวดฟันและเหงือกแล้ว ยังอาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพที่ร้ายแรงตามมาได้ ซึ่งกรณีของประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงการรับบริการได้ยังคลินิกทันตกรรมและโรงพยาบาลที่ให้บริการทันตกรรมทั่วไป แต่ในส่วนของผู้ต้องขังที่อยู่ในเรือนจำ โอกาสของการเข้าถึงบริการทันตกรรมเป็นเรื่องที่ยากมาก ส่งผลให้สถานการณ์ของผู้ต้องขังส่วนใหญ่ที่มีปัญหาฟันและสุขภาพช่องปากเข้าไม่ถึงการรักษา และหลายคนต้องทนกับภาวะความเจ็บป่วย
ทั้งนี้การจัดบริการทันตกรรมผู้ต้องขังในเรือนจำ ทางโรงพยาบาลอุดรธานีจะจัดทีมทันตแพทย์และทันตาภิบาลอย่างน้อย 5 คน พร้อมกับผู้ช่วยและทีมงานประมาณ 20 คน เข้าไปตรวจรักษาฟันและช่องปากให้กับผู้ต้องขัง ซึ่งในปีงบประมาณ 2563 หรือตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2562 ที่ผ่านมา ได้มีการจัดบริการทันตกรรมในเรือนจำไปแล้ว 6 ครั้ง โดยแต่ละครั้งสามารถให้บริการผู้ต้องขังได้จำนวน 70-80 คนต่อวัน พบทั้งผู้ป่วยฟันผุ เหงือกอักเสบค่อนข้างมาก และมีบางรายยังมีภาวะการอักเสบที่ลึกไปถึงกระดูกขากรรไกร เบื้องต้นต้องให้การรักษาเพื่อบรรเทาภาวะเจ็บปวดก่อน อย่างการถอนฟัน แล้วค่อยให้การรักษาต่อเนื่องในระยะต่อไป เช่น การอุดฟัน เป็นต้น นอกจากนี้ ยังให้บริการส่งเสริมและป้องกัน เช่น การขูดหินน้ำลาย การให้ความรู้ในการดูแลสุขภาพฟัน เป็นต้น
“ในงบเหมาจ่ายรายหัวภายใต้กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ แม้ว่าจะครอบคลุมค่าบริการทันตกรรมให้กับประชากรของหน่วยบริการในพื้นที่รวมถึงผู้ต้องขัง แต่ด้วยเรือนจำเป็นพื้นที่จำเพาะทำให้การจัดบริการเป็นไปค่อนข้างยาก ส่งผลให้ผู้ต้องขังไม่ได้รับบริการ ซึ่งคนที่มีภาวะฟันผุหากไม่ได้รับการอุดฟันในช่วง 3-6 เดือน จะเกิดอาการปวดฟันและลุกลาม แต่ด้วยโครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความดี ด้วยหัวใจ ได้ก่อให้เกิดความร่วมมือร่วมใจของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการจัดบริการทันตกรรมเชิงรุกเพื่อเข้าไปรักษาและดูแลสุขภาพฟันและช่องปากในเรือนจำ ช่วยเพิ่มคุณภาพที่ดีให้กับผู้ต้องขังได้” ผอ.สปสช. เขต 8 อุดรธานี กล่าว