แม้จะทราบกันมานานแล้วว่า กลิ่นนั้นมีอิทธิพลอย่างมากต่ออารมณ์ความรู้สึกและพฤติกรรมทางเพศของคนเรา แต่ล่าสุดทีมนักจิตวิทยาจากจีนและเยอรมนีได้ร่วมกันทำการวิจัยจนพบว่า คนที่จมูกไวและมีแนวโน้มจะดมกลิ่นกายของผู้คนรอบตัวในชีวิตประจำวันบ่อยกว่า มักมีระดับความต้องการทางเพศสูงกว่าตามไปด้วย
ผลการศึกษาข้างต้นตีพิมพ์ในวารสารวิชาการ Archives of Sexual Behavior โดยทีมนักจิตวิทยานานาชาติจากมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ภาคใต้ (SMU) ของจีน และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีเดรสเดนของเยอรมนี ได้ทำการสำรวจคนหนุ่มสาวเกือบ 2,500 คน ในประเทศจีน อินเดีย และสหรัฐฯ เพื่อวิเคราะห์หาความสัมพันธ์ที่ชัดเจนระหว่างพฤติกรรมการดมกลิ่นและแรงขับทางเพศ ซึ่งยังไม่เคยมีผู้ใดทำการศึกษาในประเด็นนี้มาก่อน
ทีมผู้วิจัยได้ให้กลุ่มทดลองใน 3 ประเทศ ซึ่งมีวัฒนธรรมแตกต่างกัน ตอบแบบสอบถามเรื่องพฤติกรรมการใช้ประสาทรับกลิ่นในชีวิตประจำวัน รวมทั้งให้คะแนนประเมินตนเองในเรื่องของระดับความต้องการทางเพศด้วย ซึ่งผลปรากฏว่าพฤติกรรมที่ชอบดมกลิ่นกายของผู้อื่น เพิ่มแรงขับและอารมณ์ทางเพศของคนผู้นั้นให้สูงขึ้นกว่าคนทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเทียบกับกลุ่มคนที่ไม่ค่อยให้ความสำคัญหรือใช้ประสาทรับกลิ่นมากนัก
ทีมผู้วิจัยยังพบว่า โดยทั่วไปแล้วระดับการให้ความสำคัญต่อประสาทรับกลิ่นและจำนวนครั้งของพฤติกรรมดมกลิ่นกายผู้อื่น จะแปรผันตรงต่อความต้องการทางเพศของแต่ละคนเหมือน ๆ กัน ไม่ว่าผู้นั้นจะเป็นชายหรือหญิง หรือเติบโตมาในวัฒนธรรมที่กำหนดควบคุมเรื่องเพศแบบใดก็ตาม
สำหรับผู้ตอบแบบสำรวจชาวอินเดีย ผลวิเคราะห์ข้อมูลชี้ว่า พวกเขามีความต้องการทางเพศสูงกว่าชาวอเมริกันอย่างมีนัยสำคัญ โดยชาวภารตะประเมินตนเองว่าได้ใช้งานประสาทรับกลิ่นเป็นหลักและให้ความสำคัญกับมันอย่างสูง
ก่อนหน้านี้เคยมีงานวิจัยหลายชิ้นที่ชี้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างกลิ่นและความสุขทางเพศ โดยมีรายงานว่าการสูญเสียความสามารถในการดมกลิ่น ทำให้ความต้องการทางเพศลดลงตามไปด้วย นอกจากนี้ ยังเคยมีการทดลองที่พบว่า ผู้ชายสามารถได้กลิ่นพิเศษจากผู้หญิงที่กำลังมีอารมณ์ร่วมทางเพศอีกด้วย
ขอขอบคุณแหล่งที่มา : https://www.bbc.com/thai/articles/cpwelevq7d8o