"องค์การอนามัยโลกประกาศสิ้นสุดสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขโลกสำหรับ “ฝีดาษลิง”
หลังเกิดการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วเมื่อปีที่แล้ว"
เมื่อวันที่ 12 พ.ค. 66 เทดรอส อัดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก หรือ WHO แถลงว่า ขณะนี้ องค์การอนามัยโลกได้เห็นความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับการควบคุมการระบาดของโรคเอ็มพ็อกซ์ หรือ ฝีดาษลิง หรือ มังกีพ็อกซ์ (Monkeypox) บนพื้นฐานของการเรียนรู้และถอดบทเรียนของโรค รวมถึงการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับชุมชนต่าง ๆ ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด อย่างไรก็ตาม แม้ว่าองค์การอนามัยโลกจะประกาศสิ้นสุดสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขโลกสำหรับโรคนี้แล้ว แต่การทำงานเพื่อจัดการกับโรคฝีดาษลิงยังไม่จบ เพราะโรคระบาดนี้จะยังคงเป็นความท้าทายด้านสาธารณสุขที่สำคัญต่อไป
การตัดสินใจครั้งนี้มีขึ้นไม่กี่วัน หลังผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกประกาศสิ้นสุดสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขโลกของไวรัสโควิด-19
ทั้งนี้ โรคเอ็มพ็อกซ์ ถูกประกาศให้เป็นสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขโลก เมื่อเดือนกรกฎาคม ปีที่แล้ว (2565) ซึ่งขณะนั้นองค์การอนามัยโลกได้รับรายงานว่า มีผู้ติดเชื้อมากกว่า 16,000 คน ปัจจุบันได้รับการยืนยันว่าผู้ติดเชื้อมากกว่า 87,000 คน ใน 11 ประเทศ โดยมีผู้เสียชีวิต 140 คน ซึ่งไวรัสชนิดนี้ทำให้เกิดผื่นที่เจ็บปวด รวมถึงอาการอื่น ๆ เช่น มีไข้และปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
โรคเอ็มพ็อกซ์ ติดต่อผ่านการสัมผัสใกล้ชิดทางกายภาพ และถือว่าเป็นโรคประจำถิ่นในแอฟริกาหลายประเทศ ซึ่งรวมถึงหลายประเทศที่ไม่เคยพบผู้ติดเชื้อโรคนี้มาก่อน ทั้งนี้ การระบาดของโรคเอ็มพ็อกซ์ทำให้เกิดความตื่นตระหนก โดยเฉพาะประเทศที่พบผู้ติดเชื้อครั้งแรกในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา
ขอขอบคุณแหล่งที่มาของข้อมูล : https://www.tnnthailand.com/news/world/145977/