ผลการศึกษาทางคลินิกแสดงให้เห็นว่า orforglipron ยาชนิดรับประทานตัวใหม่ในกลุ่ม GLP-1 receptor agonists ที่กำลังอยู่ในขั้นตอนของการศึกษาวิจัย มีประสิทธิภาพในการลดน้ำหนักในผู้ใหญ่ที่มีภาวะน้ำหนักเกินหรืออ้วนลงพุง ขณะเดียวกัน oral orforglipron ยังมีประสิทธิภาพในการลดระดับน้ำตาลในเลือดในคนไข้เบาหวานชนิดที่ 2 ได้เป็นอย่างดีด้วย
ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์จากการศึกษาทางคลินิกหลักการศึกษาหนึ่งที่มีชื่อว่า ATTAIN-1 ของ orforglipron ซึ่งเป็นยาชนิดรับประทานตัวใหม่ในกลุ่ม glucagon-like peptide-1 receptor agonists (GLP-1 receptor agonistsหรือ GLP-1 RAs) ที่ได้รับการนำเสนอในงานประชุมประจำปี ครั้งที่ 61 ของ European Association for the Study of Diabetes (EASD) ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15-19 กันยายน 2568 ในกรุงเวียนนาของออสเตรีย และขณะเดียวกันก็ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ New England Journal of Medicine (September 16, 2025. DOI: 10.1056/NEJMoa2511774) แสดงให้เห็นว่า oral orforglipron รับประทานเพียงวันละครั้ง มีประสิทธิภาพเหนือกว่า placebo ในการลดน้ำหนักในคนไข้อ้วนลงพุง (obesity; body mass index หรือ BMI ตั้งแต่ 30.0 kg/m² ขึ้นไป) หรือคนไข้ภาวะน้ำหนักเกิน (overweight; BMI ตั้งแต่ 27.0-29.5 kg/m²) และมี weight-related comorbidity อย่างน้อย 1 อย่าง เช่น hypertension, dyslipidemia, obstructive sleep apnea (OSA) หรือ cardiovascular disease (CVD) แต่ไม่ได้เป็นโรคเบาหวาน
ATTAIN-1 เป็น Phase 3, 72-week, randomized, double-blind, placebo-controlled trial ที่มุ่งประเมินประสิทธิภาพและความปลอดภัยของ oral orforglipron ขนาด 6, 12 และ 36 mg รับประทานเพียงวันละครั้ง เปรียบเทียบกับ placebo ในคนไข้อ้วนลงพุงหรือมีภาวะน้ำหนักเกิน อายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป จำนวนทั้งสิ้น 3,127 คน จากหลาย study centers ในสหรัฐอเมริกา เปอร์โตริโก บราซิล สเปน สโลวีเนีย ญี่ปุ่น จีน อินเดีย เกาหลีใต้และไต้หวัน ซึ่งถูกสุ่ม (3:3:3:4) ออกเป็น 4 กลุ่ม ให้ได้รับ oral orforglipron (ขนาด 6mg, 12 mg และ 36 mg รับประทานเพียงวันละครั้ง โดยไม่มีข้อจำกัดเรื่องการรับประทานร่วมกับอาหารและน้ำ) หรือได้รับ placebo เป็นเวลา 72 สัปดาห์ ควบคู่ไปกับการควบคุมอาหารและการออกกำลังกาย โดยเมื่อเริ่มต้นการศึกษา คนไข้เหล่านี้มีน้ำหนักเฉลี่ยอยู่ที่ 103.2kg (227.5 ปอนด์) มี BMI เฉลี่ยอยู่ที่ 37.0 kg/m² และต่างก็มีรายงานของการลดน้ำหนักที่ล้มเหลวด้วยการควบคุมอาหารมาแล้วอย่างน้อย 1 ครั้ง
การศึกษานี้บรรลุเป้าประสงค์หลักด้วยการแสดงให้เห็นว่าที่ 72 สัปดาห์ของการศึกษา oral orforglipron ทั้ง 3 ขนาด สามารถลดน้ำหนักลงได้ดีกว่าอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติเมื่อเทียบกับ placebo โดยจากการใช้ efficacy estimand พบว่า oral orforglipron ขนาด 6 mg/day, 12 mg/day และ 36 mg/day ลดน้ำหนักลงได้ -7.8% (-8.0 kg), -9.3% (-9.4 kg) และ -12.4% (-12.4 kg) ตามลำดับ จากน้ำหนักโดยเฉลี่ยที่ 103.2 kg (227.5 ปอนด์) เมื่อเริ่มต้นการศึกษา เทียบกับที่ลดลง -0.9% (-1.0 kg) ของกลุ่มคนไข้ที่ได้รับ placebo

ขณะเดียวกัน ATTAIN-1 ยังบรรลุเป้าประสงค์รองต่างๆ อีกหลายประการด้วย เช่น จากการใช้ efficacy estimand พบว่า 35.9% ของกลุ่มที่ได้รับ oral orforglipron 6 mg/day, 45.1% ของกลุ่มที่ได้รับ oral orforglipron 12 mg/day และ 59.6 % ของกลุ่มที่ได้รับ oral orforglipron 36 mg/day ประสบความสำเร็จในการลดน้ำหนักได้ตั้งแต่ 10% ขึ้นไป เทียบกับแค่ 8.6% ของกลุ่มที่ได้รับ placebo ขณะที่ 16.5% ของกลุ่มที่ได้รับ oral orforglipron 6 mg/day, 24.0% ของกลุ่มที่ได้รับ oral orforglipron 12 mg/day และ 39.6% ของกลุ่มที่ได้รับ oral orforglipron 36 mg/day ประสบความสำเร็จในการลดน้ำหนักได้ตั้งแต่ 15% ขึ้นไป เทียบกับแค่ 3.6% ของกลุ่มที่ได้รับ placebo นอกจากนี้ กลุ่มที่ได้รับ oral orforglipron ยังมีเส้นรอบเอว (waist circumference) ที่ลดลงได้ดีกว่าอีกด้วย โดยจากเส้นรอบเอวเฉลี่ยเมื่อเริ่มต้นการศึกษาที่ 112.4 เซนติเมตร พบว่าที่ 72 สัปดาห์ กลุ่มที่ได้รับ oral orforglipron 6 mg/day, 12 mg/day และ 36 mg/day สามารถลดเส้นรอบเอวลงได้ -7.5 เซนติเมตร, -9.0 เซนติเมตรและ -11.1 เซนติเมตร ตามลำดับ เทียบกับ -2.1 เซนติเมตรของกลุ่มที่ได้รับ placebo
พร้อมกันนี้ ยังพบว่ากลุ่มที่ได้รับ oral orforglipron มีการลดลงได้ดีกว่าของ cardiovascular risk factors หลักๆ ที่มักจะมีความสัมพันธ์กับภาวะน้ำหนักเกินหรืออ้วนลงพุง ได้แก่ non-HDL cholesterol, systolic blood pressure และไขมัน triglycerides รวมถึงการลดลงของระดับ high-sensitivity C-reactive protein (hsCRP) ที่เป็น marker ของ inflammation ด้วย โดยกลุ่มที่ได้รับ oral orforglipron 36 mg/day สามารถลดระดับ hsCRP ลงได้ถึง -47.7% ส่วนข้อมูลด้านความปลอดภัยโดยรวมของ ATTAIN-1 พบว่า oral orforglipron มี safety profile เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับยาตัวอื่นๆ ในกลุ่ม GLP-1 RAs ทั้งที่เป็นยาฉีดและยารับประทาน โดย adverse events ที่มีรายงานพบได้บ่อยเป็นผลข้างเคียงที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินอาหารและมีความรุนแรงอยู่ในระดับเล็กน้อยถึงปานกลางเท่านั้น เช่น คลื่นไส้ ท้องผูก ท้องร่วงและอาเจียน แต่มีความรุนแรงอยู่ในระดับเล็กน้อยถึงปานกลางเท่านั้น และไม่มีสัญญาณเกี่ยวกับผลกระทบต่อการทำงานของตับเลย อย่างไรก็ตาม กลุ่มที่ได้รับ oral orforglipron มีอัตราการหยุดยาจาก adverse events ค่อนข้างสูงกว่ากลุ่มที่ได้รับ placebo
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2568 Eli Lilly รายงานผลของการศึกษาทางคลินิกที่มีชื่อว่า ATTAIN-2 ซึ่งเป็น Phase 3, 72-week, randomized, double-blind, placebo-controlled trial ที่ประเมินประสิทธิภาพและความปลอดภัยของ orforglipron ซึ่งเป็นยาชนิดรับประทานตัวใหม่ในกลุ่ม GLP-1 RAs เปรียบเทียบกับ placebo ในกลุ่มคนไข้เบาหวานชนิดที่ 2 ที่มีภาวะน้ำหนักเกิน (overweight; BMI ตั้งแต่ 27.0 kg/m² ขึ้นไป) หรืออ้วนลงพุง (obesity; BMI ตั้งแต่ 30.0 kg/m² ขึ้นไป) โดยมีเป้าประสงค์หลักอยู่ที่การแสดงให้เห็นว่า oral orforglipron มีประสิทธิภาพเหนือกว่า placebo ในการลดน้ำหนักให้กับคนไข้ที่มีภาวะน้ำหนักเกินหรืออ้วนลงพุงและมีโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ร่วมอยู่ด้วย
ATTAIN-2 เป็น global phase III trial ที่ทำในคนไข้น้ำหนักเกินหรืออ้วนลงพุงและมีโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ร่วมด้วย จำนวนมากกว่า 1,600 คนจากหลาย study centers ในสหรัฐอเมริกา อาร์เจนตินา บราซิล สาธารณรัฐเช็ก เยอรมนี กรีซ จีน อินเดีย เกาหลีใต้และเปอร์โตริโก โดยคนไข้เหล่านี้มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป มีน้ำหนักตัวเมื่อเริ่มต้นการศึกษาอยู่ที่ 101.4 kg (223.5 ปอนด์) มีระดับน้ำตาลสะสมในเลือดเฉลี่ยย้อนหลัง 2-3 เดือน(hemoglobin A1cหรือ HbA1c) อยู่ที่ 8.1% และมีรายงานของการลดน้ำหนักที่ล้มเหลวด้วยการควบคุมอาหารมาแล้วอย่างน้อย 1 ครั้ง นอกจากนี้ คนไข้เหล่านี้ยังมีการใช้ยาลดน้ำตาลในเลือดชนิดรับประทานมาแล้วถึง 3 ตัวก่อนที่จะเข้าร่วมคัดกรองสำหรับการศึกษานี้ ซึ่งสุ่มคนไข้ออกเป็น 4 กลุ่ม (1:1:1:2) ให้ได้รับ orforglipron (ขนาด 6 mg, 12 mgและ 36 mg รับประทานเพียงวันละครั้ง โดยไม่มีข้อจำกัดเรื่องการรับประทานร่วมกับอาหารและน้ำ) หรือได้รับ placebo เป็นเวลา 72 สัปดาห์
ผลการศึกษาด้วยการใช้ efficacy estimand พบว่า ATTAIN-2 บรรลุเป้าประสงค์หลักด้วยการแสดงให้เห็นว่า oral orforglipron มีประสิทธิภาพเหนือกว่า placebo ในการลดน้ำหนักให้กับคนไข้ที่มีภาวะน้ำหนักเกินหรืออ้วนลงพุงและมีโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ร่วมอยู่ด้วย โดย oral orforglipron สามารถลดน้ำหนักลงได้เฉลี่ย -5.5% ไปจนถึง -10.5% (ราวๆ -12.1 ปอนด์ไปจนถึง -22.9 ปอนด์) จากเมื่อเริ่มต้นการศึกษาไปจนถึงสัปดาห์ที่ 72 ของการศึกษา เทียบกับที่ลดลงเฉลี่ย -2.2% (-5.1 ปอนด์) ของกลุ่มคนไข้ที่ได้รับ placebo ขณะเดียวกัน ในเรื่องประสิทธิภาพของการลดระดับน้ำตาลในเลือด ซึ่งเป็น secondary efficacy endpoint ของการศึกษาด้วยการใช้ efficacy estimand เช่นกัน พบว่า oral orforglipron มีประสิทธิภาพเหนือกว่า placebo ในการลดระดับน้ำตาลสะสมในเลือดเฉลี่ยย้อนหลัง 2-3 เดือน โดย oral orforglipron สามารถ HbA1c ลงได้เฉลี่ย -1.3% ไปจนถึง -1.8% จากเมื่อเริ่มต้นการศึกษาไปจนถึงสัปดาห์ที่ 72 ของการศึกษา เทียบกับที่ลดลงเฉลี่ย -0.1% ของกลุ่มคนไข้ที่ได้รับ placebo

พร้อมกันนี้ ยังพบว่า 22.6% (6 mg/day), 31.2% (12 mg/day) และ 45.6% (36 mg/day) ของกลุ่มที่ได้รับ oral orforglipron ประสบความสำเร็จในการลดน้ำหนักได้ตั้งแต่ 10% ขึ้นไป เทียบกับ 9% ของกลุ่มคนไข้ที่ได้รับ placebo และ 6.8% (6 mg/day), 14.4% (12 mg/day) และ 26% (36 mg/day) ของกลุ่มที่ได้รับ orforglipron ประสบความสำเร็จในการลดน้ำหนักได้ตั้งแต่ 15% ขึ้นไป เทียบกับ 3% ของกลุ่มคนไข้ที่ได้รับ placebo ส่วนของการลด HbA1c พบว่า 64.6% (6 mg/day), 75.9% (12 mg/day) และ 75.5% (36 mg/day) ของกลุ่มที่ได้รับ oral orforglipron ประสบความสำเร็จในการลดระดับ HbA1c ให้ต่ำกว่า 7% เทียบกับ 30.5% ของกลุ่มคนไข้ที่ได้รับ placebo ที่สามารถลดระดับ HbA1cให้ต่ำกว่า 7% และ 52.5% (6 mg/day), 57.6% (12 mg/day) และ 66.6% (36 mg/day) ประสบความสำเร็จในการลดระดับ HbA1c ให้ต่ำกว่า 6.5% (นิยามของเบาหวานตามคำจำกัดความของ American Diabetes Association หรือ ADA ก็คือการมี HbA1c มากกว่า 6.5% ขึ้นไป
นอกจากนี้ ยังพบว่า oral orforglipron มีประโยชน์อย่างชัดเจนในการลด cardiovascular risk factors หลักๆ ไม่ว่าจะเป็น non-HDL cholesterol, systolic blood pressure และไขมัน triglycerides ลงได้อย่างมีนัยสำคัญ รวมถึง oral orforglipron ขนาด 36 mg/day สามารถลดระดับของ high-sensitivity C-reactive protein (hsCRP) ซึ่งเป็น marker ของ inflammation ลงได้ถึง -50.6% สำหรับข้อมูลด้านความปลอดภัยโดยรวมของ oral orforglipron ใน ATTAIN-2 พบว่าเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับยาตัวอื่นๆ ในกลุ่ม GLP-1 RAs ทั้งที่เป็นยาฉีดและยารับประทาน โดย adverse events ที่มีรายงานพบได้บ่อยเป็นผลข้างเคียงที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินอาหารและมีความรุนแรงอยู่ในระดับเล็กน้อยถึงปานกลางเท่านั้น เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ท้องร่วงและท้องผูก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้ oral orforglipron ไม่มีสัญญาณเกี่ยวกับผลกระทบต่อการทำงานของตับเลย อย่างไรก็ตาม กลุ่มที่ได้รับ oral orforglipron มีอัตราการหยุดยาจาก adverse events ค่อนข้างสูงกว่ากลุ่มที่ได้รับ placebo
แหล่งที่มาของข้อมูล:
www.healio.com, www.drugs.com,www.medscape.com, https://investor.lilly.com,www.hcplive.com, www.docwirenews.com, www.medpagetoday.com,