บอร์ด สปสช. ขยายฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ฟรีถึงปลายปีนี้ พร้อมเพิ่มกลุ่มประชากร 3 กลุ่ม

บอร์ด สปสช. เพิ่ม 3 กลุ่มประชากรฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ฟรี พร้อมขยายบริการถึง 31 ธ.ค. 64 นี้ หลังประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง ฉีดวัคซีนไม่ตามเป้า เผย 3 เดือน มีผู้รับบริการเพียงร้อยละ 28.05 เหตุผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 มอบ สปสช. เร่งรณรงค์ เน้นลงทะเบียนฉีดวัคซีนฯ ล่วงหน้า ลดความแออัด    
              เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2564 ในการประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน ได้มีมติเห็นชอบการเพิ่มกลุ่มเป้าหมายในการรับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ตามที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขนำเสนอ และขยายเวลาให้บริการถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564
               นายอนุทินกล่าวว่า กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข และ สปสช. กำหนดเป้าหมายฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ให้แก่ประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง ปีงบประมาณ 2564 จำนวน 6,200,000 โดส รณรงค์เริ่มฉีดวัคซีนฯ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม เป็นต้นมา แต่สถานการณ์โรคโควิด-19 ทำให้บริการวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ข้อมูล ณ วันที่ 6 ส.ค. 64 มีผู้รับวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่เพียง 1,739,633 โดส หรือร้อยละ 28.05 เฉลี่ย 27,182 โดสต่อวัน
           ดังนั้น สปสช. จึงได้ทำหนังสือเพื่อขอความเห็นทางวิชาการจากกรมควบคุมโรค ในการเพิ่มเติมกลุ่มเสี่ยงอื่นเข้ารับวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ซึ่งกรมควบคุมโรคพิจารณาขยายเพิ่มเติมในประชากร 3 กลุ่ม คือ
     1) บุคลากรหรือผู้ปฏิบัติงานที่ให้บริการดูแลผู้ป่วยโรคโควิด-19
     2) กลุ่มที่อยู่สถานที่มีการรวมตัวของประชากรจำนวนมาก เสี่ยงต่อการระบาด
     3) กลุ่มเสี่ยงอื่น ๆ ขึ้นกับสถานการณ์
           ทั้ง 3 กลุ่มนี้ให้เข้ารับบริการวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564 พร้อมขยายระยะเวลารับบริการ จากเดิมกำหนดระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม – 31 สิงหาคม 2564 ขยายจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564
         ด้าน รศ.พญ.ประสบศรี อึ้งถาวร ประธานอนุกรรมการกำหนดประเภทและขอบเขตในการให้บริการสาธารณสุข กล่าวว่า การขยายระยะเวลาการให้บริการวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่เพื่อให้ครอบคลุมตามแผนและเป้าหมาย ป้องกันการเกิดโรคที่รุนแรงและเสียชีวิตจากภาวะแทรกซ้อน ลดความสับสนในการตรวจวินิจฉัยและให้การรักษา ระหว่างโรคไข้หวัดใหญ่และโรคโควิด-19 ที่แพร่ระบาดขณะนี้
           นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้มอบให้ สปสช. ประสานกับหน่วยบริการในการจัดรณรงค์เชิงรุกร่วมกับการให้บริการวัคซีนโควิด-19 พร้อมประชาสัมพันธ์ให้ข้อมูลแก่ประชาชนกลุ่มเป้าหมายถึงการเข้ารับวัคซีนโควิด-19 และวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนใดก่อนก็ได้ โดยเว้นระยะห่างอย่างน้อย 2 สัปดาห์ ทั้งยังสามารถฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ระหว่างการฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 ได้ เพื่อเร่งรัดการสร้างภูมิคุ้มกันโรค และให้ลงทะเบียนผ่านระบบ “เป๋าตัง” หรือระบบ “Hospital Portal” หรือการลงทะเบียนเข้ารับบริการตามที่หน่วยบริการกำหนด เพื่อเว้นระยะห่าง และลดความแออัดในการเข้ารับบริการวัคซีน
          ทั้งนี้ ประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยงเดิม ที่มีสิทธิรับบริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ได้แก่ 1. หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป 2. เด็กอายุ 6 เดือน ถึง 2 ปี 3. ผู้มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค (โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง หอบหืด หัวใจ หลอดเลือดสมอง ไตวาย ผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ระหว่างการได้รับเคมีบำบัด และเบาหวาน) 4. ผู้สูงอายุที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป 5. ผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ 6. โรคธาลัสซีเมียและผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง (รวมผู้ติดเชื้อ HIV ที่มีอาการ)  และ 7. โรคอ้วน (มีน้ำหนัก 100 กิโลกรัมขึ้นไป หรือดัชนีมวลกายมากกว่า 35 กิโลกรัมต่อตารางเมตร) และประชาชนอีก 3 กลุ่มที่บอร์ด สปสช. มีมติขยายเพิ่ม ได้แก่ 1.บุคลากรหรือผู้ปฏิบัติงานที่ให้บริการดูแลผู้ป่วยโรคโควิด-19  2.กลุ่มที่อยู่สถานที่มีการรวมตัวของประชากรจำนวนมาก เสี่ยงต่อการระบาด และ 3.กลุ่มเสี่ยงอื่น ๆ ขึ้นกับสถานการณ์